WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, July 22, 2009

เลขาธิการอาเซียนปฏิเสธเหตุก่อการร้าย ประชุมเอเซียน

ที่มา ประชาไท

เลขาธิการอาเซียนปฏิเสธมีก่อการร้าย ยืนยันผู้นำ 16 ประเทศกลับมาประชุมอีกครั้ง หลังล้มเลิกที่พัทยา บอกไร้สาระ อวยฝ่ายความมั่นคงผ่านการทดสอบ ฟุ้งเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับสุดยอดอาเซียน 23-25 ต.ค.

ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ ลากูนา จ.ภูเก็ต นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียนให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะมนตรีประชาคมการเมือง-ความมั่นคงอาเซียน ครั้งที่2 โดยนายสุรินทร์ กล่าวถึง กระแสข่าวระบุเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยสามารถจับผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายกลุ่มก่อการร้ายเจมาห์ อิสลามิยาห์(เจไอ) ที่จ.ภูเก็ต ว่า ว่ามีการชี้แจงสั้นๆ ในที่ประชุมว่ามีการเข้าใจผิดกันไม่มีสาระใดๆ ทั้งสิ้น

"เป็นความพยายามของฝ่ายความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจที่จะตรวจสอบให้เกิดความแน่ใจและเกิดความมั่นใจว่าการประชุมครั้งนี้จะไม่ได้รับการรบกวนใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่บางคนอาจจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นที่สุด เห็นอะไรเขาก็สงสัยเอาไว้ก่อนและก็ทราบว่าได้มีการประเมินสถานการณ์และทำความเข้าใจกันแล้วว่าเป็นการเข้าใจผิด เรื่องมันก็จบเพียงแค่นั้นนะครับ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ผมไม่ทราบ"

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีข่าวระบุว่าเมื่อวันที่ 20ก.ค.มีการจับผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน พร้อมเงิน 1 แสนบาท โทรศัพท์ 10 เครื่องและกัญชา นายสุรินทร์ กล่าวว่า อันนั้นผมไม่ได้รับรายงานครับ แต่ที่ได้รับรายงานคือเรื่องอาจจะเกิดความเข้าใจผิดกัน ส่วนเรื่องโทรศัพท์ กัญชา ผมไม่ทราบ โดยย้ำว่าไม่มีการตรวจพบวัตถุระเบิดและผู้ต้องสงสัย

สำหรับความจำเป็นต้องเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยมากขึ้นหรือไม่นั้น นายสุรินทร์กล่าวว่าว่าทางฝ่ายความมั่นคงเข้มงวดอยู่แล้ว และไม่มีอะไรน่าห่วง

“ผมประทับใจมากกับความเร็วในเรื่องการข่าวของเขา ผมพยายามทดสอบแต่เขาก็ผ่านการทดสอบด้วยดีทุกคน คือตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งผู้บัญชาการตำรวจเขต8 ทั้งผู้บังคับการตำรวจของภูเก็ตทุกระดับจนกระทั่งถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและหน่วยที่ปฏิบัติการร่วมเกี่ยวกับความปลอดภัย ซึ่งมีรัฐมนตรีกลาโหมเป็นประธานและมอบหมายให้ผู้ใต้บังคับบัญชารวมทั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพต่างๆ มีส่วนประสานงานเกี่ยวกับความปลอดภัย ไม่มีอะไรน่าห่วง” โดยนายสุรินทร์กล่าวว่ามีความมั่นใจอย่างที่สุดและได้แสดงความชื่นชมต่อทุกฝ่ายไปแล้ว โดยเฉพาะความพยายามที่จะให้ประชาชนในจ.พังงา จ.ภูเก็ต มีส่วนร่วม

“ผมประทับใจมากที่ใครเคลื่อนไหวไปไหนเขารู้หมด ถึงขนาดบางท่านได้แสดงความจำนงว่าอยากจะมีการไปเยี่ยมชมภูเก็ตเป็นการส่วนตัวได้บ้างหรือไม่ ก็ถูกปฏิเสธ ซึ่งทุกคนก็ชื่นชมและแสดงความเข้าใจ เป็นความพยายามที่แสดงให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจัง ของฝ่ายที่รับผิดชอบในขณะนี้ ทุกคนได้รับการป้องกันและดูแลตลอด 24 ชั่วโมง การเคลื่อนไหวไปไหน ทุกฝ่ายต้องรับรู้รับทราบ จากโรงแรมไปจุดไหน จากจุดไหนไปโรงแรมถึงเวลาเท่าไหร่ อยู่ในรายงานของฝ่ายความมั่นคงหมด ซึ่งก็เป็นการดี ผมก็เรียนทุกฝ่ายว่านี่คือการเตรียมการเพื่อการประชุมสุดยอดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในวันที่ 23-25 ต.ค. ที่ภูเก็ต ซึ่งก็จะมีผู้นำทุกคนที่เคยมาประชุมที่พัทยาและการประชุมต้องล้มเลิก ซึ่งทั้ง 16 คนนั้น จะมาอีกครั้ง รวมทั้งผู้นำองค์กรระหว่างประเทศที่สำคัญๆ ก็จะมาร่วมกับเราด้วย ก็เป็นการซ้อมเพื่อความพร้อมในการประชุมสุดยอดครั้งนั้น จำนวนผู้ประชุมจะน้อยกว่านี้แต่ว่าสูงกว่านี้”

สำหรับบรรยากาศการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ครั้งที่ 42 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ ลากูน่า ภูเก็ต ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 3 นั้น ได้มีการประชุมคณะมนตรีประชาคมการเมือง-ความมั่นคงอาเซียนครั้งที่ 2 ประชุมคณะมนตรีประสานงานอาเซียน ครั้งที่ 4 การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนบวก 3 (เกาหลี ญี่ปุ่น จีน) ขณะเดียวกันก็ได้มีการหารือเจ้าหน้าที่อาวุโสของประเทศคู่เจรจา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 ก.ค.นี้
ส่วนบรรยากาศทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศคู่เจรจาทยอยเดินทางมา โดยรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ได้เดินทางมาถึงสนามบินภูเก็ตตั้งแต่กลางดึกของคืนวานนี้ (20ก.ค.) ส่วนตลอดวันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงกลางดึกจะมีรัฐมนตรีต่างประเทศคู่เจรจา หรือคณะผู้แทนคู่เจรจาทยอยเดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้า อาทิ แคนาดา เกาหลีเหนือ ฟิลิปปินส์ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น มองโกเลีย และผู้แทนด้านการต่างประเทศของสหภาพยุโรป