ที่มา บางกอกทูเดย์
วันนี้ “ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009” ได้ลุกลามใหญ่โตไปทั่วโลกโดยเฉพาะหนึ่งในประเทศเขตร้อนอย่าง “ประเทศไทย”ที่สภาพแวดล้อมสามารถแพร่กระจายเชื้อและสามารถติดต่อผ่านกันได้อย่างรวดเร็วซึ่งรัฐบาลต้องยอมรับกับการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการ“เร่งด่วน” ก่อนเข้าสู่วิกฤติหายนะกันทั้งชาติ!ตามสถิติ 0.6% จะมีผู้เสียชีวิต ซึ่งหากมองในแง่ความเป็นจริง...ถือเป็นเรื่องที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ“ธรรมชาติ”แต่ที่ผ่านมา...คนไทยเสียชีวิตด้วยโรคนี้ เพราะ “ผู้มีอำนาจ”ไม่มีความคิดที่จะหาทางป้องกัน แก้ไข และลดความรุนแรงอย่างจริงจังยังไม่สายเกินไป...สำหรับการเริ่มต้นใหม่ไม่ใช่แก้ไขอุปมาดั่ง “นกกระจอกเทศเอาหัวมุดเข้าไปในพื้นทะเลทราย” เมื่อพายุทรายผ่านไป...จึงจะโผล่หัวออกมาประชาชนส่วนใหญ่ “ตื่นตัว” รู้จักใช้ หน้ากากอนามัยระมัดระวังป้องกันตัวเองอย่างพร้อมเพรียงไม่เว้นแม้แต่เรื่องวุ่นๆ ในสภาฯ ที่เวลานี้บรรดา ผู้แทนประชาชน ได้หันมาใส่ใจ “ดูแลสุขภาพ” ร่วมมือร่วมใจรณรงค์กันมากขึ้นตัวอย่างที่ดี...ย่อมนำไปสู่การยอมรับและปฏิบัติตาม“ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” ประธานวิปรัฐบาลถือเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ เรียกร้องให้สภาฯ หันมาดูแลสุขภาพของ ส.ส.เป็นเรื่องสำคัญ...เพราะทุกคนต้องมีร่างกายที่ดีและ
แข็งแรง จึงจะสามารถทำงานและกิจกรรมอย่างอื่นได้อย่างมี “ประสิทธิภาพ”ดังนั้น มาตรการ 3 อ. จึงเป็นสิ่งที่ ผู้มีอำนาจต้องถ่ายทอดลงไปสู่ “ประชาชน” เพื่อสร้างพื้นฐานสุขภาพที่ดีแก่คนไทยอาหารลดหวาน เค็ม มัน เน้นทานผักหรือผลไม้ที่มีความหวานน้อย...ออกกำลังกาย...และอารมณ์ต้องดีอยู่ในภาวะที่ไม่เครียดทุกภาคส่วนต้องเตรียมความพร้อม และให้ความร่วมมือในการช่วยป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชนและรัฐบาลผนึกกำลังเพื่อสร้างเป็น “บรรทัดฐานใหม่” ให้เกิดขึ้นในสังคมไทยแม้วันนี้ทั่วโลกยังไม่สามารถ “ผลิตวัคซีน” ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้เป็นผลสำเร็จแต่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างก็กำลัง “พยายาม”กันอย่างสุดความสามารถ เพื่อยับยั้งเชื้อโรคตัวร้ายทำให้มนุษย์โลกกลับมามีความ “ปกติสุข” อีกครั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านใช้ความพยายามเพื่อจะบอกอะไรบางอย่างแก่พวกเรา...คุณค่าในการดำรงอยู่ของมนุษย์เป็นสิ่ง “ไร้พรมแดน”ที่ทุกคนต้องช่วยเหลือพึ่งพากันดังนั้น...ภาระหน้าที่สำคัญคือ รัฐบาล “ผู้มีอำนาจ”ต้องใช้เครื่องมือทุกอย่างให้เกิดประโยชน์สูงสุดทำงานกันอย่าง “ผู้มีภูมิความรู้” ไม่ใช่สักแต่ทำให้ผ่านพ้นไปวันๆ หรือทำแบบขยักขย่อน กะปริบกะปรอยบุคลากรด้านการแพทย์ของเรา “เป็นเลิศ” แต่ที่แย่คือนโยบายและการบริหารงานของรัฐบาลต่างหากที่“ห่วยแตก” ■