ที่มา Thai E-News
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
30 ตุลาคม 2552
ควรบันทึกไว้ว่าหมา2ตัวที่กัดกันจนแบงก์BBCล้ม เศรษฐกิจพังในวันนั้น เวลานี้มันเลิกกัดกันแล้ว และหันมาจูบปากกันอย่างดูดดื่ม จนคนตลึงกับความรักของ"หมาต่างพันธุ์2ตัว"
ราเกซ สักเสนา-สมรสกับสุวรรณา หาญวรเกียรติ ญาติของสุชาติ ตันเจริญ ตำแหน่งสุดท้ายเป็นที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่BBCคือนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ หนีออกจากไทยตั้งแต่15พ.ค.2539 โดนดำเนินคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ(BBC)
สุเทพ เทือกสุบรรณ&เนวิน ชิดชอบ-เป็นมหากาพย์รักระหว่างรบ โดยเนวินกับนักการเมืองกลุ่ม16มีบทบาทสำคัญในการโค่นสุเทพ เทือกสุบรรณ ในคดีสปก.4-01 ส่วนสุเทพมาเอาคืนด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจแฉเนวินและกลุ่ม16ในวันที่8พ.ค.2539 จนทำให้คนไม่มั่นใจแห่ถอนเงินจากแบงก์BBC ทำให้BBCล้มครืน ต่อมาภายหลังสุเทพกับเนวินกลับมาจูบปากกัน หักเหลี่ยมทักษิณ ชินวัตร จัดตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
บัญญัติ บรรทัดฐาน-ในยุครัฐบาลชวน1 บัญญัติเป็นรองนายกฯเคยเข้าไปมีส่วนสนับสนุนฝ่ายเกริกเกียรติ-ราเกซด้วยการดำเนินคดีกับเสี่ยสอง วัชรศรีโรจน์ ที่เข้าไปไล่ซื้อหุ้นBBC ทำให้BBCยังอยู่ในมือเกริกเกียรติ&ราเกซต่อมา และบัญญัติได้โทรข้ามประเทศไปบอกเกริกเกียรติไม่ให้เดินทางกลับไทยเพราะจะถูกจับกุม เนื่องจากข้อตกลงว่าจะไม่ดำเนินคดี"เปลี่ยนแปลง"
สุชาติ ตันเจริญ-เกี่ยวดองเป็นญาติราเกซ กู้เงินBBCในนามส่วนตัว117ล้านบาท แต่บริษัทในเครือของเขากู้4,020ล้านบาท เพื่อไปซื้อหุ้นBBCและเทกโอเวอร์กิจการ โดยมีที่ดินในหนองคายเป็นหลักประกัน ณ เวลานั้นที่ดินบางผืนที่ค้ำประกันมีราคาประเมิน1,037ล้านบาท แต่ธปท.บอกว่าของจริงเพียง437ล้านบาท สุชาติได้ชักชวนนักการเมืองกลุ่ม16เข้ามาร่วมกิจกรรมกู้BBCไปถลุงในยุคราเกซเรืองอำนาจหลายคน
เนวิน ชิดชอบ-เนวินกู้BBCในนามส่วนตัวเพียง89ล้านบาท มีที่ดินราคาประเมิน76ล้านบาทค้ำประกัน เนวินได้นายเอกชัย อธิคมนันทะ (1ใน3คนที่มีบทบาทสูงสุดในการบริหารBBCนอกจากเกริกเกียรติ และราเกซ)เป็นที่ปรึกษา ทำให้เนวินซึ่งตอนนั้นจบเพียงปกศ.สูงพูดจาอภิรายเรื่องหุ้นเรื่องการเงินได้คล่องแคล่ว
เกริกเกียรติกับราเกซได้ปล่อยกู้ให้อัดนัน คาช็อกกี้ มหาเศรษฐีซาอุฯกู้BBC 3,302ล้านบาทไปเทกโอเวอร์กิจการบริษัทชลประทานซีเมนต์(JCC) และSVI โดยน่าสนใจตรงที่ว่ามีที่ดินอำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ในราคาประเมิน914ล้านบาทเป็นหลักประกัน และต่อมากลายเป็นหนี้เน่า
บรรหาร ศิลปอาชา-ขณะมีการดำเนินคดีต่อเกริกเกียรติ-ราเกซนั้น เป็นยุครัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา เมื่อนายราเกซหนีไปจากประเทศไทยเขาให้สัมภาษณ์กล่าวหาว่านักการเมืองบางคนรวมทั้ง นายบรรหาร,แกนนำกลุ่มเทิดไทคือณรงค์ วงศ์วรรณ และสุชาติ ตันเจริญได้รับเงินจากเขาไป300ล้านบาท เพื่อ"เคลียร์"ไม่ให้ดำเนินคดี
นักการเมืองคนอื่นๆ
-กลุ่มหาญสวัสดิ์ กู้BBCในนามชูชาติ หาญสวัสดิ์ และเครือ มีภาระคงค้างตอนเดือนพ.ค.2539จำนวน978ล้านบาทไปเทกโอเวอร์กิจการบริษัทมรกตอินดัสตรี้
-นายวีรพล หรือฉัฐวัสส์ มุตตามะระ กู้BBCและมีภาระคงค้างในเดือนพ.ค.2539จำนวน2,325ล้านบาท
-นายธานี ยี่สาร กู้และมีภาระคงค้างในตอนเดือพ.ค.2539จำนวน 103ล้านบาท
-นายสนธยา คุณปลื้ม กู้และมีภาระคงค้างในตอนเดือนพ.ค.2539จำนวน36ล้านบาท มีข่าวกู้ไปเทกโอเวอร์บริษัทภูเก็ตไอส์แลนด์
-นายจำลอง ครุฑขุนทด กู้และมีภาระคงค้างในตอนเดือนพ.ค.2539จำนวน 3 ล้านบาท
-นายไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์ ซึ่งใกล้ชิดนักการเมืองหลายกลุ่ม กู้และมีภาระคงค้าง1,797ล้านบาท
-กลุ่มมะไข่ซอว์ ซึ่งใกล้ชิดสุชาติ ตันเจริญ กู้และมีภาระคงค้าง2,004ล้านบาท เพื่อเทกโอเวอร์หุ้นเน่าตุ๊กตาผี(เอิร์ธอินดัสเตรียล)
หมา2ตัวกัดกันแบงก์BBCล้ม เศรษฐกิจไทยฟองสบู่แตกปี40
อัจรา ปราโมช-ลูกหลานของม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ผู้ก่อตั้งแบงก์บีบีซีเปรียบเปรยว่า สมัยหนึ่งแบงก์ใหญ่ในฮ่องกงเกือบล้มเพราะมีหมากัดกันหน้าแบงก์2ตัว คนที่นั่งแท็กซี่ผ่านไปไม่รู้อะไรเป็นอะไรเห็นแต่คนมุงอยู่หน้าแบงก์เยอะมาก พอดีมีคนหนึ่งพูดขึ้นแบบคะนองปากว่า"สงสัยคนมามุงๆเพื่อถอนเงิน เนื่องจากแบง์นี้จะล้ม"ข่าวเลยสะพัดออกไปเร็วมาก ในที่สุดแบงก์แห่งนั้นเลยล้มจริงๆ
"เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับแบงก์ในฮ่องกง ก็เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับแบงก์BBCที่มีหมา2ตัวมากัดกันในสภา และสุดท้ายผลกรรมก็ต้องตกอยู่ที่BBC"
นอกจากBBCล้มครืนลงแล้ว ก็บานปลายขยายผลกระทบต่อสถาบันการเงินวงกว้าง ทำให้ปีถัดมาคือ2540ก็เกิดเหตุการณ์ฟองสบู่แตกขึ้นในประเทศไทย
ควรบันทึกไว้ว่าหมา2ตัวที่กัดกันจนแบงก์ล้ม เศรษฐกิจพังในวันนั้น เวลานี้มันเลิกกัดกันแล้ว และหันมาจูบปากกันอย่างดูดดื่ม จนคนตลึงกับความรักของ"หมาต่างพันธุ์2ตัว"