ที่มา ไทยรัฐ
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
อดีตนายกฯ จวกรัฐบาลอย่ารีบตัดสินใจว่าเป็นคนขายชาติ โวยทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมานาน สวนกลับคนที่ด่าเคยทำอะไรเพื่อชาติมาบ้าง เผย "ทักษิณ" ปัดไม่ขอพักพิงเขมรกลัวความสัมพันธ์สองชาติร้าว
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อวันที่ 30 ต.ค. กรณีถูกโจมตีภายหลังการพบสมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า เป็นคนชักศึกเข้าบ้าน พร้อมกับโชว์เอกสารที่ นายอิทธิเดช แก้วหลวง ประธานคณะกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย สภาผู้แทนราษฎร ที่เสนอมาให้ในการเดินทางไปพบสมเด็จ ฮุน เซน ว่า เป็นจุดมุ่งหมายในชีวิตที่ต้องทำให้กับประเทศชาติ และราชบัลลังก์ วันนี้คนไทยมีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน การเดินทางไปกัมพูชาไม่มีอะไรผิดแผกเป็นการปฏิบัติภาระหน้าที่เพื่อประเทศชาติ ส่วนที่มองว่า เป็นการชักศึกเข้าบ้าน คงเป็นข้อห่วงใยของรัฐบาล ใครเป็นรัฐบาลก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา ว่าการเดินทางไปจะนำสิ่งไม่ดีไปบอกหรือไม่ อย่าไปห่วง เมื่อรัฐบาลเตือนมาก็รับฟังกันไว้ การเดินทางไปกัมพูชาไม่มีใครมอบหมายตนให้เดินทางไป แต่ได้รับการร้องขอจากน้อง ๆ ที่อยู่ในคณะกรรมาธิการฯได้ประสานมา ถือเป็นเจตนาที่ดีที่ต้องทำให้การเดินทางครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง
"ความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชาไม่มีปัญหาอะไร เพราะทุกอย่างจบแล้วสิ่งที่ผมอยากเห็น และสิ่งที่ สมเด็จ ฮุน เซน เสนอคือ การถอนกำลังทางทหารของทั้งสองฝ่าย แต่พื้นที่ตรงนั้นเป็นความขัดแย้งอยู่ จึงไม่มีใครถอนกำลังทหารออก ทำให้ต่างคนต่างไม่สบายใจ ประชาชนทั้งสองชาติยังรักกันดีไม่มีปัญหาอะไรกัน รวมถึงการค้าขายตามแนวชายแดน ส่วนที่รัฐบาลเกรงว่า การเดินทางไปกัมพูชาจะนำปัญหาให้กับประเทศไทยนั้น ผมทำงานให้ประเทศชาติ ให้แผ่นดิน สนองพระเดชพระคุณ ตั้งแต่ปี 2497ทำงานถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และที่เป็นห่วงผม มันเกิดขึ้นหรือยัง เมื่อมันยังไม่เกิดก็อย่าไปว่าเขา คิดไม่ได้หรือ ว่า พล.อ.ชวลิต ทำอะไรให้บ้านเมืองมาบ้างก่อนที่จะมาชี้หน้าว่า เราขายชาติคิดซักนิดไม่ได้หรือ ถ้าพล.อ.ชวลิต ขายชาติ แล้วคนที่พูดทำอะไรให้กับชาติบ้าง แต่พูดแบบนั้นก็คงไม่ดี เพราะเขาห่วงเรา เราทำงานใหญ่ต้องเปิดใจและยอมรับ" อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่า การเดินทางไปเยี่ยมประเทศเพื่อนบ้านครั้งหน้าจะทำให้เกิดปัญหาอีกหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า สนุกแน่ เพราะเป็นประโยชน์ต่อแผ่นดิน พล.อ.อาวุโส ตาน ฉ่วย ประธานรัฐบาลทหารพม่า รู้จักกันมานานมีความผูกพันกัน ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับพม่าค่อนข้างมีปัญหา เราก็จะไปบอกว่าคนกันเอง "กากี่นั้ง" มาเป็นเพื่อนกันดีกว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็ขอให้เข้าใจกันว่าเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อถามถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปพำนักที่ประเทศกัมพูชา พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนไม่ได้ถามคนที่อยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะไปอยู่ทำไมมันอากาศร้อนจะตาย มาอยู่ที่กัมพูชาดีกว่า ตนเคยถามว่าทำไมไม่มาอยู่ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกผ่านคนอื่นมาว่า ไม่อยากสร้างปัญหาให้กับประเทศทั้งสองซึ่งเป็นความคิดที่ดี และที่ตนถามเพื่อทดสอบจิตใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าคิดอย่างไร ดังนั้นช่วยกันพิจารณาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนอย่างไร
"พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อยากให้ทั้งสองประเทศเกิดปัญหา ซึ่งไม่ห่วงในเรื่องความสัมพันธ์ของทหารไทย และทหารกัมพูชา เขารักกัน แม่ทัพภาคที่ 2 และ แม่ทัพของกัมพูชา ผูกพันกัน แม้ว่าฝ่ายการเมืองจะติดขัดก็ตาม การเมืองเป็นเรื่องธรรมดา รู้หรือไม่เมื่อ 10-20 ปีก่อน มีนายพลคนหนึ่ง หนีคดีฆาตกรรม สมเด็จ ฮุน เซน จากกัมพูชา มาหลบอยู่ที่ประเทศไทย ทางกัมพูชาส่งหมายมายังประเทศไทยเพื่อขอตัวกลับ แต่ไม่รู้ว่านายคนนั้นไปอยู่ที่ไหน เรื่องนี้ไม่มีอะไรหรอกพี่น้องอย่าตกใจอะไรมาก ส่วนแนวที่เสนอไปรัฐบาลยังปฏิเสธอยู่นั้น ถ้าปฏิเสธก็จะต้องบอกด้วยว่าจะให้ทำอย่างไรไม่ใช่ว่าจะไปทำให้ท่านไม่สบายใจ แต่ผมอยากรู้ว่าจะเอาแนวทางใหม่อย่างไรดี เพราะเราเห็นว่าแนวทางนี้เป็นแนวทางที่ดีที่สุด แต่เราคิดว่าท่านคงจะมีความคิดอยู่แล้ว อย่าเพิ่งไปคิดว่าจะมีอะไรที่ไม่ดี" พล.อ.ชวลิต กล่าว
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าภารกิจที่เดินทางไปเยือนประเทศเพื่อนบ้านจะทำให้เกิดความ สมานฉันท์ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า วันแรกที่เข้ามาทำงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทย ว่าตนจะไม่รอดูเหตุการณ์ที่กำลังพัฒนาในประเทศไทย และจะไม่ทิ้งประเทศไทย เพราะเราเป็นข้าในแผ่นดิน เราต้องทำแผ่นดินนี้ให้เกิดความสงบ นี่คือภาระหน้าที่ของพวกเราที่ได้รับการอบรมสั่งสอน และเราเคยทำให้ประเทศนี้ประสบความสงบสุขมาแล้ว เราคงไม่อยากปล่อยให้มาเละเทะในช่วงนี้ มันทนไม่ได้ แต่ก็รอว่าจะมีผู้ใดจะเสนอแนวทางหรือวิเคราะห์ปัญหาของชาติ วันนี้มัวแต่ดูเรื่องรัฐธรรมนูญ ดูเหมือนรัฐธรรมนูญเป็นยาวิเศษในการแก้ไขปัญหา รัฐธรรมนูญมี 18 ฉบับยังไม่พอสำหรับคนไทย จะเอาซักกี่ฉบับนี่คือสิ่งที่ห่วงใย ในฐานะที่ผ่านงานด้านนี้มา
"ผมเห็นว่าถ้าประเทศชาติย้ำอยู่อย่างนี้ พี่น้องจะยากจน และยากลำบาก ถ้าแก้ไม่ได้ก็น่าละอาย เหตุนี้ทำให้ตนเห็นว่า ไม่มีคนที่จะมาวิเคราะห์ปัญหาชาติได้อย่างตรงไปตรงมา และเสนอแนวทางแก้ไข ผมรออยู่และพยายามพูดแต่ก็ไม่เป็นผลจึงต้องเข้ามาดำเนินงานด้านการเมือง ตนอยากพูดอยู่ 5 ข้อ 1.จะทำอย่างไรที่จะลบคำพูดที่เลอะเทอะว่าพรรคนี้สีนี้คนๆ นี้ไม่จงรักภักดี 2.แก้ไขปัญหาความขัดแย้ง 3.ภาคใต้ 4.ปัญหารอบบ้าน และ 5.ความยากลำบากของประชาชน อย่ากระพริบตาเป็นอันขาด ตนมีเวลา 1 ปีในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เมื่อตนอายุ 79-80 ปีคงไม่ไหวแล้ว" พล.อ.ชวลิต กล่าว
เมื่อถามว่า จะเชิญพ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศไทยได้หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ยังไม่เคยคุยกัน ส่วนมากเวลาคุยจะผ่านสื่อเสียส่วนใหญ่เพราะมีคนสื่อให้ เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) มาจับมือเพื่อพัฒนาประเทศชาติหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า พล.อ.สนธิ เป็นคนน่ารัก เป็นคนตั้งอกตั้งใจทำงาน ตนได้ส่งหนังสือเชิญ พล.อ.สนธิ ลงไปในพื้นที่ จ.ปัตตานี ในวันที่ 3 พ.ย.นี้ เพราะการแก้ไขจะต้องแสดงถึงความสมานฉันท์ แสดงออกถึงการอโหสิกรรมกันมีจุดร่วมตรงกันเพื่อแก้ไขปัญหา ส่วนที่ พล.อ.สนธิจะเล่นการเมืองนั้น ตนขอแสดงความชื่นชมที่เลือกหนทางนี้