ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
ดูเหมือนรัฐบาลเองก็พอจะรู้ว่านี่คือ "เผือกร้อน"
เพราะทั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และ นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ต่างประสานเสียงว่าไม่ใช่แอ๊กชั่นของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว
และที่กลายเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมาเพราะตร.แห่งชาติ ส่งไปให้กฤษฎีกาตีความว่าคำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองนั้น จะมีผลเท่ากับศาลฎีกาทั่วไปหรือไม่
กฤษฎีกา ชี้กลับมาว่ามีผลเท่ากันทุกประการ
ขั้นต่อไปคือดำเนินการถอดยศและริบเครื่องราชฯ
ไม่รู้เหมือนกันว่าคนที่ทำเรื่องนี้ต้องการเอาใจรัฐบาล หรือวางยารัฐบาลกันแน่!??
เพราะที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยและกลุ่มเสื้อแดง พยายามชี้ให้ประชาชนเห็นว่าถูกกลั่นแกล้งและรัฐบาลดำเนินการ 2 มาตรฐานมาตลอด
ไม่ต้องอื่นไกลคดีม็อบเสื้อแดงกับม็อบเสื้อเหลือง เห็นได้ชัดเจนที่สุด
ม็อบแดงที่อาละวาดเมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ทั้งในกรุงเทพฯและการประชุมอาเซียนที่พัทยา คดีเดินหน้าแบบพรวดๆ ออกหมายจับและดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องแทบจะครบทุกกระบวนการแล้ว โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
แต่ม็อบเสื้อเหลืองที่ทั้งยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดสนามบิน สร้างความเสียหายให้ประเทศชาติยิ่งกว่าม็อบเสื้อแดงหลายเท่า
จนป่านนี้คดียังไปไม่ถึงไหนทั้งๆ ที่ผ่านมากว่า 1 ปีแล้ว
ทั้งที่จะว่าไปแล้วการปิดสนามบินเข้าข่ายการก่อการร้ายสากล และพยานหลักฐานก็ชัดเจน ชนิดถ้าเป็นโจรก็ประมาณว่าถูกจับได้คาหนังคาเขา
รัฐบาลเองก็ดูเหมือนจะไม่สนใจเร่งรัดให้ดำเนินการแต่อย่างใด
ยิ่งมาเกิดเรื่องถอดยศและริบเครื่องราชฯ ด้านหนึ่งกลุ่มที่ไม่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะสะใจ
แต่อีกด้านก็มองได้ว่าเป็นการกลั่นแกล้งชนิดจองเวรไม่เลิก
เพราะการถอดยศหรือริบเครื่องราชฯ มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลย
เท่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ใช้ข้อหา 2 มาตร ฐาน การกลั่นแกล้งของรัฐบาล เรียกร้องขอความเห็นใจจากคนไทยได้มากโขอยู่แล้ว
เชื่อว่าฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยจะนำเรื่องนี้ไปขยายผลเพื่อขอความเห็นใจมากขึ้นไปอีก
เพราะธรรมชาติของคนไทย เป็นคนขี้สงสารอยู่แล้ว
และถ้าหากจะหาเรื่องกันจริงๆ เกิดมีใครจุดประเด็นให้รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ถอดยศและริบเครื่องราชฯ ของจำเลยทุกคนที่คดีถึงที่สุดแล้ว
มันจะไม่ยุ่งกันใหญ่หรือ!??