ที่มา บางกอกทูเดย์
จะดันอย่างไรก็ไม่ขึ้น...จะขุนอย่างไรก็ไม่อ้วนหมีพีมัน โดยเฉพาะรัฐบาล“ประชาธิปัตย์” รวมถึงเหล่า “แบ็คอัพ”ที่ต้องช่วยกันพยายาม ร้องสีตีเป่าทำไม? กระแสข่าวการเมืองเวลานี้ถึงได้ “วกไปเวียนมา”โดยเฉพาะประเด็นล่ามาแรง...ทั้งเรื่องการส่งตัวพ่อมดการเงิน“ราเกซ สักเสนา” กลับประเทศไทย...รวมถึงการนำเหล้าเก่ามารินในขวดใหม่ให้ชุ่มคอ เรื่องถอดยศอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร”ทั้งหมดทั้งมวลดูเหมือนมาจากการสิ้นสุดวาระการเป็นเจ้าภาพ“ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน”ที่เพิ่งผ่านไปสดๆ ร้อนๆจะดันอย่างไรก็ไม่ขึ้น...จะขุนอย่างไรก็ไม่อ้วนหมีพีมัน โดยเฉพาะรัฐบาล“ประชาธิปัตย์” รวมถึงเหล่า“แบ็คอัพ” ที่ต้องช่วยกันพยายามร้องสีตีเป่าเพื่อให้ประชาชน“เบี่ยงเบนประเด็น”ความสนใจแก่ความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน...รวมถึงการไม่ยอมรับของนานาอารยประเทศใน เนื้อแต่ตัวตน ของรัฐบาลชุดนี้โดยเร็วดูได้จากกรณี “พ่อใหญ่จิ๋ว”พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งทำเอาคนภายในรัฐบาลหนาวๆ ร้อนๆเพราะต่างชาติอย่าง “ประเทศมาเลเซีย” ถึงกับเสนอตัวเชื้อเชิญ...เพื่อเดินทางไปพบปะหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ทำไม? ประเทศเพื่อนบ้านจึงขยันจ้อกับ “พ่อใหญ่” โดยข้ามหน้าข้ามตาผู้นำประเทศอย่างนายกรัฐมนตรี“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”มันเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึง
“ความล้มเหลว” ในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลชุดนี้หรือไม่?สถานการณ์บ้านเมือง...มีแต่ปัญหารุมเร้ามากมาย ทั้งสังคม เศรษฐกิจการเมือง...ปัญหาเพื่อนบ้านระหว่างประเทศโดยเฉพาะสิ่งสำคัญคือ“การเอาชนะคะคาน” ต้องการกำจัดคนเพียงคนเดียว...ถึงกับเอาบ้านเมืองเป็นเดิมพัน...เข้าตำราเผาที่นาเพื่อฆ่าหนูเพียงตัวเดียว3–4 ปีที่ “ผู้มีอำนาจ” อ้าปากพูดปาวๆ พยายามดิ้นรนทำกันมาเพื่อสร้าง “ความสมานฉันท์”แต่พฤติกรรมกลับตรงกันข้าม...สับปลับแอบอ้าง และหลอกลวงกันตลอดมาประชาชนคนหนึ่งกล่าวว่า...พุทธทำนาย ที่เข้ากับยุคสมัยนี้ เกี่ยวกับพระสุบินนิมิตของ พระเจ้าปเสนทิโกศลมี 16 เรื่องแต่มีเรื่องหนึ่งในข้อที่ 4 ที่ท่านสุบินนิมิตว่า...“เห็นคนเอาโคมีกำลังแข็งแรงให้ปล่อยปละไม่นำมาใช้งานลากเกวียนแต่ไปเอาโครุ่นหนุ่ม ที่ปราศจากพละกำลังมาใช้งานลากเกวียน ซึ่งเจ้าโคหนุ่มก็ไม่สามารถลากเกวียนให้แล่นได้ ก็สลัดแอกออกไม่ยอมทำงาน”พระพุทธเจ้าท่านทรงทำนายพยากรณ์ว่า...“ต่อไปผู้มีปัญญา จะไม่ได้รับการยกย่องในหน้าที่ราชการ แต่ยศศักดิ์และการงานจะนำไปให้คนหนุ่มที่มีความโง่เขลาเบาปัญญา ซึ่งไม่สามารถปฏิบัติราชการให้ดีได้เหมือนคนปล่อยให้โคที่มีกำลังแข็งแรง ออกไปเดินเล่นเฉยๆแล้วนำโครุ่นหนุ่มไม่มีกำลังมาใช้งาน”จากอดีตถึงปัจจุบัน...มนุษย์มีความรู้และได้เรียนรู้ เพราะความกรุณาความมีเมตตาของบรรพชนแต่ทำไม? คนรุ่นหลังจึงไม่คิดตรึกตรองให้รอบคอบในการนำความคิดเหล่านี้มาใช้ให้เกิด “ประโยชน์”เพื่อพัฒนาคนในชาติ ก้าวไปสู่ความเจริญอย่างสมบูรณ์ความเน่าสกปรกในประเทศไทย...เป็นสิ่งที่รู้ไปทั่วโลก...ประชาชนกำลังเผชิญกับความยากลำบากตรงจุดไหน...ทำไมประเทศนี้จึงไม่พัฒนาประชาชนต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้...มิใช่แผ่นดินนี้เป็นของคนเพียงไม่กี่คนนี่แหละที่เขาเรียกว่า “ความกระเหี้ยนกระหือรือ” อย่างแท้จริง!ใกล้จะสิ้นศรัทธาในอำนาจยิ่ง “กระเหี้ยนกระหือรือ” ใครที่จะเข้ามาขวางทางอำนาจ...ทุกคนต้องมีอันเป็นไป!