ที่มา บางกอกทูเดย์
เด็กก็คือเด็กคนป่วยก็คือคนป่วยเพราะ..สมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศกัมพูชาที่เป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 24 ปี..ยืนยันความเป็นมิตรไมตรีกับ พันตำรวจโท ดอกเตอร์ทักษิณชินวัตร..ไว้อย่างหนักแน่นและไม่หวาดหวั่นต่อความเป็นผู้นำรัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย..จึงมีเรื่องราวเกิดใหม่..จะให้มีการถอดยศ พันตำรวจโทของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี..ยืนหน้ากระจกแล้วลองตั้งคำถาม ถามตัวเองได้ไหมว่า...การใช้อำนาจในฐานะรัฐบาล..ถอดยศทักษิณแล้ว...คนถอดจะได้ประโยชน์อะไรถอดแล้วทักษิณจะเป็นอย่างไรหลายๆ ประเทศในโลก..โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจทั้งหลาย..ยศเป็นสิ่งที่หลงเหลือมาจากรากเหง้าของเผด็จการ การปกครองโดยคนๆ เดียวเมื่อสหรัฐอเมริกาปฏิเสธการปกครองของควีนอลิซาเบธแห่งราชอาณาจักรอังกฤษ..อเมริกันในยุคสร้างชาติ ปฏิเสธยศถาบรรดาศักดิ์ไปพร้อมๆ กันถึงวันนี้สหรัฐอเมริกาเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก..ใหญ่ที่สุดในกองทัพของเขาก็แค่พลเอก..ตำรวจของเขามีแต่ตำแหน่งไร้ยศนำหน้า อธิบายได้ว่า..ยศถาบรรดาศักดิ์นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเจริญก้าวหน้าของประเทศและอยากจะกล่าวว่า เป็นเครื่องถ่วงความเจริญด้วยซํ้าไปเพราะมันไปแยกประชาชนออกจากกันสมัยหนึ่ง...ประเทศไทยมี ชั้นยศจอมพล..หลังวันมหาวิปโยค..พลเอกกฤษณ์ สีหะวราผู้บัญชาการทหารบกได้จัดการให้ยศจอมพลหมดไปจากประเทศไทย..การเอากิเลสตัณหาส่วนตน การหมกมุ่นอยู่กับความโกรธแบบไม่ลืมหูลืมตา..นอกจากจะทำให้จิตใจอันคับแคบนั้นทำสติสัมปชัญญะให้ง่อยเปลี้ยเสียขาแล้วยังเป็นการบอกกล่าวกับชาวโลกและประชาชนคนไทยโดยทั่วไปว่า..นี่คืออาการของคนป่วยที่มีจิตใจวิปลาศอดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีดีกรีถึงดอกเตอร์ทางการศึกษา..มีโภคทรัพย์มหึมาจากการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จนั้น..ยศ “พันตำรวจโท” ซะอีกที่ทำให้เขาดูเล็กลงไปส่วนจะเอาให้ถึงขั้นที่ว่า...ถอดยศปลดเครื่องราชฯ...ด้วยหรือไม่นั้น..รัฐบาลจะต้องประเมินสถานะของตนเองให้ดี..เพราะอาจจะเสียหน้าเสียเครดิตเอาง่ายๆ..เพราะเครื่องราชนั้นเป็นเรื่องพระราชทาน..มีแต่เรื่องตกตํ่าอายซํ้าอายซาก..จะไหวหรือ..ว่าที่อดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ