ที่มา มติชน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ว่า กองทัพอียิปต์ได้เดินหน้าล้างระบบการเมืองเดิมที่เคยคุมโดยอดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ซึ่งได้ประกาศลาออกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสภาสูงสุดของกองทัพได้ออกแถลงการณ์ประกาศยุบสภา ระงับการใช้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่สนับสนุนการปฎิรูปการเมืองและประชาธิปไตย ก่อนจะเสนอให้ประชาชนลงประชามติเห็นชอบ
รายงานระบุว่า แถลงการณ์ยังระบุว่า รัฐบาลเฉพาะกาลที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นบุคคลที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีมูบารัค จะทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง โดยชี้ว่า สาเหตุที่กองทัพต้องสนับสนุนรัฐบาลเฉพาะกาลนี้เพื่อประโยชน์ด้านความมั่นคง แต่รัฐบาลเฉพาะกาลนี้จะสลายไปในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังเรียกร้องให้กลุ่มยุวชนอียิปต์ ซึ่งที่ผ่านมาได้พบปะกับกองทัพ จัดตั้งพรรคการเมือง เพื่อร่วมกระบวนการปฎิรูปการเมืองอียิปต์ด้วย
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า พิพิธภัณฑ์ดูแลโบราณวัตถุอียิปต์ต้องเผชิญเหตุสลดถูกโจมตีระหว่างเหตุจลาจลโค่นผู้นำอียิปต์ โดยมรดกโบราณหลายชิ้นได้ถูกขโมยไปจากพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งรูปปั้นของฟาโรห์ตุตันคาเมนด้วย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ม.ค.ซึ่งมีการโจมตีพิพิธภัณฑ์ซึ่งตั้งอยู่นอกจัตุรัส"ทาเรียร์"
ขณะเดียวกัน นายอาเหม็ด ชาฟิก นายกรัฐมนตรีอียิปต์ เปิดเผยว่า ขณะนี้นายฮอสนี มูบารัค ยังคงพำนักอยู่ในประเทศ หลังจากมีรายงานข่าวลือสะพัดว่า อดีตผู้นำอียิปต์ได้ลี้ภัยยังสหรัฐอาหรับอิมิเรสต์
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายมูบารัค ได้ใช้ 18 วันระหว่างถูกประชาชนกดดันเรียกร้องให้ลงจากอำนาจ โยกทรัพย์สินมูลค่ากว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ จากธนาคารต่าง ๆ ที่มีอยู่ในต่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้ ธนาคารสวิสเซอร์แลนด์ ได้ประกาศเตรียมอายัดทรัพย์แล้ว รวมทั้งยังมีแรงกดดันให้อังกฤษ ซึ่งเป็นแหล่งฝากทรัพย์สินจำนวนมากของอดีตผู้นำอียิปต์ อายัดทรัพย์ด้วย แต่แหล่งข่าวตะวันตก มูบารัคได้เคลื่อนไหวโยกย้ายทรัพย์สินของเขาจากต่างประเทศแล้ว