ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
มันฯ มือเสือ
ไม่มีใครรู้ว่าบังเอิญหรือจงใจ
เรื่องที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์
ออกมาโยนหินถามทางถึงผลเลือกตั้งในอนาคต
ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเลือกส.ส.รวมทั้ง 2 ระบบมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ถ้าคะแนนรวมในส่วนส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ชนะขาด
ใครจะเป็นฝ่ายได้ฟอร์มรัฐบาลก่อน
ดันไปตรงกับกรณีคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญชุดที่มีนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ นั่งเป็นประธาน
เสนอแก้รัฐธรรมนูญปรับโครงสร้างการเมือง ให้หัวหน้าพรรคที่ได้รับคะแนนสูงสุดจากระบบปาร์ตี้ลิสต์ มีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาลและดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
แต่ไม่ว่าจะบังเอิญหรือรู้กันมาก่อน
สรุปคือทั้ง "สูตรกอร์ปศักดิ์" หรือ "สูตรสมบัติ" โดนถล่มเละด้วยกันทั้งคู่
โดยคนที่ออกมาถล่ม ถ้าไม่นับรวมพรรคฝ่ายค้าน ก็มีตั้งแต่คนในพรรคร่วมรัฐบาล หรือแม้แต่คนในพรรคประชาธิปัตย์เอง ก็ดูเหมือนไม่ค่อยจะเห็นด้วย
ลำพังนายกอร์ปศักดิ์นั้นไม่ค่อยเท่าไหร่
เพราะด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานก็ต้องพยายาม "รับใช้" พรรคประชาธิปัตย์อย่างถึงที่สุด เป้าหมายคือทำอย่างไรก็ได้ให้พรรคได้กลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีกรอบ
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ต้องเอาด้วยคาถา
แต่สำหรับนายสมบัติ งานนี้น่าจะโดนหนักหน่อย
เพราะเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ สูตร 375+125 ที่คณะกรรมการ เพิ่งชงให้พรรคแกนนำรัฐบาลผลักดันจนผ่านรัฐสภาไปหมาดๆ
ยังเคลียร์ไม่ได้ว่าเบื้องหลังแอบไปมีนอกมีในอะไรกับพรรคประชาธิปัตย์ หรือเสนอไปตามความบริสุทธิ์ใจ
แม้แต่ตัวนายสมบัติเอง ตอนแรกที่นายกฯ อภิสิทธิ์ดึงเข้ามาเป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้
ก็ถูกใครต่อใครหลายคนนินทา กล่าวหาเป็นนักวิชาการในสายพรรคประชาธิปัตย์
แต่สังคมก็ยังเปิดโอกาสให้ใช้ผลงานเป็นเครื่อง พิสูจน์
เมื่อครั้งเสนอสูตรที่มาส.ส. 375+125 ตอนนั้นก็ยังไม่แน่ใจ
แต่พอมาเรื่องล่าสุด เสนอให้หัวหน้าพรรคที่ได้รับคะแนนสูงสุดจากระบบปาร์ตี้ลิสต์ เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี
แถมยังคลิกกันพอดีกับไอเดียนายกอร์ปศักดิ์
เลยหายสงสัยเป็นปลิดทิ้ง