WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, February 18, 2011

นักศึกษาและนักกิจกรรมร่วมจัดดนตรีสันติภาพ ยุติศึกไทย-กัมพูชา

ที่มา ประชาไท

16 ก.พ.54 เวลา 17.00 น. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนิน กลุ่มนักศึกษาและนักกิจกรรมทางสังคม ร่วมกันจัดงานดนตรี “สันติภาพไร้พรมแดน หยุดสงครามไทย-กัมพูชา” โดยกลุ่มดังกล่าวประกอบไปด้วย กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย, กลุ่มประชาคมจุฬาฯ เพื่อประชาชน, กลุ่มสลึง มหาวิทยาลัยมหิดล, ชมรมอนุรักษ์ฯ มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, กลุ่มประกายไฟ, กลุ่ม FAN (Friend for Activist Network), สถาบันต้นกล้า, กลุ่มรองเท้าแตะ, กลุ่มไม่เอาสงคราม ต้องการสันติภาพ และมูลนิธิศักยภาพชุมชน
























กิจกรรมมีการจัดแสดงภาพถ่ายผลกระทบจากการสู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และการรณรงค์ยุติสงคราม มีการแสดงดนตรี ขับร้องเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามและสันติภาพ สลับกับการพูดคุย การอ่านบทกวี และการแสดงละคร
นายปราบ รักไฉไล จากกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาครั้งนี้เป็นเกมการเมืองของชนชั้นนำ ซึ่งกัมพูชาต้องการทำให้เรื่องไปถึงศาลโลกขณะที่ไทยพยายามรั้งไว้ ความเลวร้ายจึงมาตกที่ประชาชนซึ่งอยู่อาศัยตามแนวชายแดน ต้องคอยหลบหนีระเบิดและไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปรกติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทั้ง 2 ฝ่ายควรหันมาร่วมมือกันทางด้านเศรษฐกิจมากกว่า และผู้ที่สนับสนุนการทำสงครามควรถูกประณาม
นายพันธุ์ภูมิ ผุดผ่อง จากกลุ่มประชาคมจุฬาฯ เพื่อประชาชน กล่าวว่า ไม่อยากให้มีสงคราม อยากให้ใช้วิธีทางการทูตในการแก้ปัญหา และเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนตามแนวชายแดนได้กลับไปใช้ชีวิตแบบปรกติ และให้ทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มการเจรจาโดยมีตัวกลางเช่น อาเซียน
นายไตรรัตน์ ประไพ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งมาร่วมกิจกรรมกล่าวว่า สงครามเป็นสิ่งไม่ดีเพราะทำให้ประชาชนเสียเลือดเนื้อและชีวิต อยากให้รัฐบาลใช้อำนาจแต่พอควร ใช้การปรองดองและการพูดคุยในการแก้ไขปัญหาจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
ส่วนนางจรีกรณ์ อายุ 65 ปี ซึ่งมาร่วมกิจกรรมกล่าวว่า ไม่อยากให้เกิดสงครามและคิดว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิด อยากให้ผู้มีอำนาจไตร่ตรองและเหลียวมาดูประชาชนและสังคมว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะผู้ที่ด้อยฐานะกว่า หากเกิดสงครามแล้วชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาจะเป็นอย่างไร