WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, February 13, 2011

ศอ.รส.ให้พันธมิตรฯ คืนพื้นที่รอบทำเนียบฯ เกรงเหลืองปะทะแดง

ที่มา ประชาไท

ศอ.รส.ให้พันธมิตรฯ คืนพื้นที่รอบทำเนียบฯ เกรงม็อบ พธม.นปช. เผชิญหน้า - ทั่ว กทม.ระดมกำลัง 27 กองร้อย - จำลองยันชุมนุมปกป้องแผ่นดินไทยต่อ

เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ในฐานะผอ.ศอ.รส. เดินทางตรวจความพร้อมของ ศปก.สน.บก.น.2 ในการเตรียมรับมือการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่13 ก.พ.นี้ว่า ตำรวจได้วางกำลังจากนครบาล และจากบช.ภ.4 รวม 5 กองร้อยในการดูแลความสงบ ทั้งนี้คาดว่าจะมีผู้มาชุมนุมที่หน้าศาลฯ 5,000 คนโดยไม่อนุญาตให้เข้ามาภายในเด็ดขาด แม้พื้นที่นี้ไม่ได้ประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงฯแต่การเข้าพื้นที่ศาลโดยไม่ได้ รับอนุญาตถือว่าละเมิดอำนาจศาล อย่างไรก็ตามในการเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนั้นขอร้องให้ไป เป็นขบวน อย่าดาวกระจายเพราะจะไปสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน โดยตำรวจจะวางกำลังดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง โดยวางแผนเผื่อไว้ทั้งเส้นทางถนนพหลโยธินและถ.วิภาวดีรังสิต จนกระทั่งเข้าถนนหลานหลวง สู่ราชดำเนิน และวางกำลังป้องกันในจุดที่ม็อบ 2 สีต้องเคลื่อนผ่านกัน เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า ทั้งนี้ทั่ว กทม.ระดมกำลังรับมือ 27 กองร้อย

สำหรับการชุมนุมของพธม.นั้น ผอ.ศอ.รส.กล่าวว่า แม้พธม.จะไม่ปฏิบัติตามประกาศศอ.รส.ตำรวจก็ยังยืนยันจะใช้การเจรจา เพื่อเปิดเส้นทางการจราจรต่อไป ยังไม่ถึงขั้นต้องแสดงกำลัง โดยเป้าหมายเพื่อให้การคลี่คลายสถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นายกฯ ดักทางพธม.อย่าสร้างเงื่อนไข

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ภายหลังเจ้าหน้าที่นำคำสั่งศาลไปติดประกาศเพื่อให้กลุ่มพธม.ออกจากพื้นที่ กลุ่มพธม.ไม่ยอมออกจากพื้นที่นั้น ก็ต้องดำเนินการซึ่งจะมีขั้นตอนของมันที่ทางศอ.รส.ปฏิบัติ ตนย้ำอีกครั้งว่าพธม.ควรคิดถึงประชาชนทั่วไปการเปิดถนนให้ประชาชนสัญจรไปมา ไม่ได้กระทบสิทธิในการชุมนุมแต่ถ้าพันธมิตรฯชุมนุมในวิธีการแบบนี้มันเป็น การละเมิดสิทธิ์ของคนอื่น อย่าพยายามที่จะอ้างว่ารัฐบาลจะใช้ความรุนแรงเพราะรัฐบาลไม่มี และอย่าพยายามสร้างเงื่อนไขเช่นท้าทายให้มีการจับกุม เพื่อนำไปสู่เหตุการณ์ปะทะกัน หรือความรุนแรงเพราะมันไม่ได้เกิดอะไรกับส่วนรวม

ตร.นำประกาศ ศอ.รส.ให้"จำลอง"ขอคืนพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.50 น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้นำประกาศของศูนย์อำนวยการความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) 2 ฉบับ ไปมอบให้กับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ห้ามบุคคลภายนอกเข้าออกอาคาร ทำเนียบรัฐบาล บริเวณถนนพิษณุโลก จากแยกพาณิชยการมุ่งหน้าแยกสวนมิสกวัน ถนนพระราม 5 จากสะพานมัฆวานฯ ถึงทำเนียบรัฐบาล ถนนนครปฐม ถนนลูกหลวง และถนนราชดำเนินนอก จากสวนมิสกวัน มุ่งหน้าสะพานมัฆวานรังสรรค์ หรือถนนโดยรอบทำเนียบรัฐบาลและห้ามใช้ยานพาหนะโดยรอบอาคารรัฐสภา โดย พล.ต.จำลองได้เซ็นรับทราบในหมายของ ศอ.รส.ดังกล่าว

พล.ต.ต.วิชัยกล่าวว่า สำหรับหมายดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ตามขั้นตอน ต้องมีการเข้ามาเจรจา เพื่อให้รับทราบในหลักการก่อน

ขณะที่บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร เช้าวันนี้ยังเป็นการเล่าข่าวและมีการขึ้นปราศรัยตามปกติ ล่าสุด พล.ต.จำลองอ้างว่า มีผู้ใหญ่ในเขมรโทร.หาคนในรัฐบาล ให้สลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร อย่างไรก็ตาม เวลา 16.00 น. แกนนำจะหารือกันเพื่อหาทางตอบโต้รัฐบาล

"มาร์ค"เผยยังสรุปไม่ได้ ยื่นอุทธรณ์เพื่อขออภัยโทษ"วีระ-ราตรี"

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือ นายวีระ สมความคิด และนางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ถูกศาลกัมพูชาตัดสินจำคุก โดยไม่รอลงอาญาว่า เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ได้คุยกับแม่นายวีระ ก็มีแนวทางที่พูดคุยกันอยู่ ก็คิดว่าจะทำให้เกิดความเป็นเอกภาพมากขึ้น เพราะว่านายณฐพร โตประยูร ทนายความของนายวีระและของนางสาวราตรีได้มาคุยด้วย ส่วนที่จะขอให้ทั้งสองคนยื่นอุทธรณ์ เพื่อขออภัยโทษนั้นยังไม่ได้สรุป แต่ว่าที่ผ่านมายังมีปัญหาเรื่องการประสานงานการเข้าไปของทนายนายวีระเอง ฉะนั้น กระทรวงการต่างประเทศต้องผลักดันให้เขาได้พูดคุยกันมากขึ้น เพื่อแนวทางการต่อสู้จะได้เป็นที่รับรู้รับทราบและการตัดสินใจต่างๆจะได้สอด คล้องกัน

"คุณแม่ของคุณวีระ ท่านก็เป็นห่วงต้องการช่วยลูกให้ออกมาให้ได้ ซึ่งก็ได้คุยและมีความเข้าใจที่ดี ส่วนที่แม่ของนายวีระบอกว่า จะทำวิธีไหนก็ได้เพื่อให้ช่วย ก็ตรงกับแนวคิดของเรา และผมก็คิดว่าตรงกับแนวคิดของคนจำนวนมาก" นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องเข้าใจนายวีระ เพราะยังกังวลว่าถ้าตัวเองได้กลับมา อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิของประเทศในเรื่องดินแดน เรื่องอธิปไตย นายวีระจะไม่ยอม ซึ่งแนวคิดนี้ตนก็ว่าน่าชื่นชม ตนก็เพียงแต่ยืนยันไปแล้วว่า รัฐบาลดำเนินการทุกวิถีทางบนกรอบความคิดเดียวกัน เหมือนก่อนหน้านี้ ที่เราทำหนังสือไปเรื่องการไม่ยอมรับคำพิพากษาของศาลอย่างนี้ เป็นต้น แต่ว่าขณะเดียวกัน การดำเนินการที่จะอำนวยความสะดวกเพื่อให้เกิดการพูดคุยเจรจาที่จะมีผลให้นาย วีระกลับมาเราก็ต้องดำเนินไป เพื่อไม่ให้กระทบตรงนี้ อยากให้ความมั่นใจกับคุณวีระตรงนี้ คุณวีระจะได้ตัดสินใจด้วยความสบายใจว่า ถ้าได้กลับมาไม่กระทบประโยชน์ของประเทศแน่นอน

เมื่อถามว่า อยากให้ยุติการยื่นอุทธรณ์หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่ครับ ทางนายวีระกับทางทีมทนายจะพูดคุยกัน และเราจะเป็นผู้ให้ข้อมูลในเชิงของการประเมินสถานการณ์ความเป็นไปได้ของทาง เลือกต่างๆ แต่สุดท้ายทางครอบครัวจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจและสมัครใจว่าจะทำอย่างไร ส่วนเรื่องการพาครอบครัวของนายวีระเดินทางไปกัมพูชานั้นกำลังประสานอยู่ เพราะแม่ของนายวีระก็ต้องการไปเยี่ยม

พธม.ยังปักหลักชุมนุม ล่าสุดยอมเปิดจราจรถนนราชดำเนินแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ช่วงเช้านี้ ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมนั่งฟังการสรุปข่าวของพิธีกรบนเวที ซึ่งเนื้อหาสรุปข่าว เป็นเรื่องข้อพิพาทของประเทศไทยกับกัมพูชา ขณะที่ประชาชนบางส่วนยังคงปฏิบัติภารกิจส่วนตัวภายในเต๊นท์ที่พัก 2 ข้างทาง

ส่วนระบบการดูแลความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ยังคงมีการ์ดพันธมิตรคอยตรวจตราบุคคลที่จะเข้ามาร่วมชุมนุมอย่างเข้มข้น อย่างไรก็ตาม หลังจากเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามปิดถนนราชดำเนิน ช่วงลานพระบรมรูปทรงม้า แต่ขณะนี้ ได้มีการเปิดการจราจรแล้ว

"จำลอง" ยันชุมนุมปกป้องแผ่นดินไทยต่อ-เมิน ศอ.รส.ขู่ผลักดัน

ที่เวทีสะพานมัฆวาน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีการชุมนุมเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ถึงผลการประชุมของคณะกรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดิน ที่เห็นตรงกันว่า พันธมิตรฯ จะไม่ออกจากพื้นที่ไปไหน แม้จะมีคำสั่งของศอ.รส.ออกมาก็ตาม แต่ยังยืนยันว่าจะอยู่ที่นี่และชุมนุมต่อไป หากแม้มีการผลักดันออกนอกพื้นที่ในหลายวิธีเราก็จะกลับเข้ามาชุมนุมใหม่ หรือผลักดันตรงไหนก็ชุมนุมตรงนั้น เพื่อปกป้องดินแดนของเรา

ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่ ชาวบ้านภูมิซอล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้ทยอยกันกลับบ้านแล้วนั้น ว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่รัฐบาลไม่ใช้เวลาก่อนหน้านี้ ในการผลักดันทหาร และกองทัพกัมพูชาออกไปจากแผ่นดินไทย รวมถึงการทำลายถนนที่ตัดขึ้นมาจากกัมพูชา มาถึงวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ถนนเส้นหลักที่กัมพูชาใช้ในการขนยุทโธปกรณ์ขึ้นมาใช้ยิงปืนใหญ่เข้ามาในฝั่ง ไทย และยังมีกระเช้าจากฝั่งกัมพูชาขึ้นมาปราสาทเขาพระวิหาร สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 1 ตัน มีการขนอุปกรณ์มาติดตั้งจานดาวเทียม และยุทธปัจจัยทางการทหารจำนวนมาก เพื่อชิงความได้เปรียบในการอยู่ในจุดสูงข่ม และหากยังเป็นเช่นนี้ แม้ชาวบ้านจะกลับบ้านได้ ก็ยังไม่ปลอดภัยอยู่ดี

นายปานเทพ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้เราได้เสนอข้อเรียกร้องเฉพาะหน้าไปยังรัฐบาล 3 ข้อ เพื่อเป็นการชิงความได้เปรียบจากกัมพูชา ทั้งการงดการส่งน้ำมันไปยังประเทศกัมพูชา ทำลายถนนที่ตัดขึ้นเขาพระวิหาร และใช้แสนยานุภาพทางอากาศ แต่รัฐบาลไม่ทำ จนปล่อยเรื่องบานปลายมาจนถึงทุกวันนี้ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องรับผิดชอบ

นายประพันธ์ คูณมี แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า จากการประกาศของพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. นั้น เป็นการใช้ พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (พ.ร.บ. มั่นคงฯ) ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นการชุมนุมที่สงบ มุ่งหวังปกป้องเอกราชของประเทศเท่านั้น และการประกาศห้ามบุคคลเข้ามาบริเวณชุมนุมเป็นการประกาศที่ไม่สามารถปฏิบัติ ได้จริง ทั้งนี้ยืนยันจะไม่ออกจากพื้นที่โดยเด็ดขาด หากยังไม่ได้ตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ การยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราช อาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ปี 2543 หรือ เอ็มโอยูปี 2543 การถอนตัวออกจากคณะกรรมการมรดกโลกและการผลักดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ชาย แดน

นอกจากนี้หากรัฐบาลจะใช้อำนาจสากลกดดันผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เตรียมทนายความเพื่อฟ้องร้องดำเนินคดีตอบโต้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นศาลปกครอง ศาลอาญา ศาลรัฐธรรมนูญ

ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: มติชนออนไลน์, ASTV ผู้จัดการออนไลน์