WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, March 19, 2011

สำนักกฎหมายราษฎรประสงค์: แล้วสายลมแห่งเสรีภาพก็พัดหวน… ศาลให้ประกันเอกชัย ผู้ต้องหาว่าขายซีดีหมิ่นฯ

ที่มา Thai E-News


โดย สำนักกฎหมายราษรประสงค์
18 มีนาคม2554

วันนี้ เวลา ๑๕.๓๐ น. ศาลอาญาได้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายเอกชัย หงส์กังกาน ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวหาว่าเป็นคนขาย VCD …
ทั้งนี้ บิดา ได้หอบหลักทรัพย์เพื่อวางเป็นประกันจำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท
อนึ่ง ยังมีจำเลยคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอีกจำนวน ๒ คนที่รอการประกันตัวคือ


๑.นายธันย์ฐวุฒิ ทวีวโรดมกุล ( ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ดูแลเวปไซด์ นปช.ยูเอสเอ และโพสข้อความหมิ่นฯ ศาลตัดสินจำคุก ๑๓ ปี )

๒.นายอำพล ตั้งนพกุล (อากงวัย ๖๑ ถูกกล่าวหาว่าส่ง SMS ข้อความหมิ่นเข้าโทรศัพท์เลขานายกอภิสิทธิ์ซึ่งจะขึ้นศาลนัดแรกวันจันทร์ นี้)

และอีก ๒ รายที่คดีถึงที่สุดรอการอภัยโทษ คือ

นายสุชาติ นาคบางไทร กล่าวปราศัยหมิ่นฯ
นายสุริยันต์ กกเปือย โทรศัพท์ขู่วางระเบิดศิริราช

…แล้วอาม่า กับอากง ก็ได้ลูกชายกลับมาอยู่ด้วย (ชั่วคราว) !

- - - - - -

ก่อนหน้านี้ ทนายยุทธการ แห่งสำนักกฎหมายราษฎรประสงค์ ได้เขียนบันทึกด้วยความเจ็บปวดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2554 ว่า "พ่อวัย 82 หอบที่ดินผืนสุดท้ายประกันลูกชาย เหยื่อคดีหมิ่น 112"


เช้าวันนี้อากาศหนาว มีฝนตกโปรยปราย สายลมหอบเอาสองตายายวัยกว่า 82 ปีมาที่ศาลอาญาตามการนัดหมายของทนายความสำนักกฎหมายราษฎรประสงค์

รถเข็น นั่นรถเข็น ! ชายแก่ค่อยๆเข็นภรรยาซึ่งพิการเข้ามาภายในรั้ว ศาลอาญา ศาลยุติธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ เราเข้าไปพูดคุยจึงทราบแน่ชัดว่า อากงได้พาภรรยามาด้วย เพราะมีกันอยู่เพียง 2 คนเท่านั้นภายหลังจากที่นายเอกชัย ลูกชายถูกจับกุมในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงครามกล่าวหาว่า เป็นผู้จำหน่าย VCD …

เราต้องเข็ญอาม่าไปขึ้นข้างหลังศาล เพราะบันไดด้านหน้านั้นสูงลิ่ว

มีปัญหาการสื่อสารเล็กน้อย เพราะทั้งสองเป็นคนไทยเชื้อสายจีน แต่การกรอกเอกสาร การเตรียมหลักประกันก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เราสี่คนแทบไม่ได้ยินเสียงอะไร แม้ในห้องที่วุ่นวายด้วยคนที่มาติดต่อราชการ ความหวัง…ลูกชาย…เสรีภาพ…

เข็มนาฬิกาตะโกนบออกว่าเป็นเวลาห้าโมงเย็น เจ้าหน้าที่เรียกชื่ออากง และนั่น แทบจะหิ้วอากงลอยไปที่หน้าเค้าเตอร์ ความหวัง…ความหวัง…

เจ้าหน้าที่อ่านคำสั่งศาลว่า “หลักทรัพย์นายประกันไม่เพียงพอตามเกณฑ์ ให้หาหลักทรัพย์มาให้ครบ 5 แสนบาทจึงจะพิจารณาสั่งต่อไป”

ผมประคองร่างอากงออกจากเค้าเตอร์ และรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของท่าน มันเลวร้าย มันเลวร้ายมากสำหรับพ่อคนหนึ่ง มันเลวร้ายมากสำหรับนักเรียนกฎหมายอย่างผม

เราออกจากศาลอาญา เหมือนร่างที่ไร้ความรู้สึก ลมหนาวเริ่มทวีความรุนแรง และคงหนาวไปถึงเรือนจำ…

“ไม่เป็นไร พรุ่งนี้มาใหม่ ค่อยไปหายืมเงินมาเพิ่ม อีกสามหมื่นเอง… ไม่เป็นไร…”

เสียงอันสั่นเครือแทรกออกจากปากชายชราวัย 82 ปี

เราอาสาไปส่งอากงกับอาม่าที่บ้าน ก่อนกลับอากงขอบคุณยกใหญ่ ยัดเงินจำนวน 7 ร้อยบาทเป็นค่ารถและค่าเสียเวลาใส่มือผม

แน่นอนว่าผมปฏิเสธ ผมเป็นทนายความที่ได้รับเงินเดือนซึ่งเป็นเงินบริจาคผ่านทางสำนักกฎหมายอยู่ แล้ว และเป็นเงื่อนไขที่จะไม่รับเงิน และค่าตอบแทนอื่นใดจากลูกความ

อากงยังยืนยันด้วยเสียงหนักแน่น ”เป็นน้ำใจที่มาช่วย ให้รับไว้ คนจีนเค้าถือ…”

ผมยกมือไหว้ และนัดแนะเวลาเจอกันอีกครั้งพรุ่งนี้เช้า ในมือกำเงิน 7 ร้อบบาทออกจากบ้านและเตรียมนำไปฝากให้พี่เอกชัยในเรือนจำ

นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมประชาธิปไตย สังคมที่คนถูกฉาบด้วยรอยยิ้มความเอื้ออาทร นานมาแล้ว… ผมจำได้สมัยเรียนมหาลัย

พรุ่งนี้คงเป็นอีกวันที่ลมหนาวจะหอบอากง อาม่า มาที่ศาลพร้อมหลักทรัพย์ และความหวัง … ผมจะรอที่นั่น !