ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
การออกมารวมตัวชุมนุมเรียกร้องเรียกหาความยุติธรรมของคนเสื้อแดง เมื่อวันเสาร์ที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา
ถือว่าทะลุเป้า
กว่า 5 หมื่นคนพรึบเต็มถนนผ่านฟ้า-อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
เป็นครั้งแรกที่แกนนำซึ่งถูกจับขังคุกไป 9 เดือน หวนคืนเวที
คึกคักได้ตัวช่วยบนเวทีพร้อมหน้า
โดยเฉพาะนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งถือว่าเป็นแม่เหล็กของผู้ชุมนุมอย่างแท้จริง
การผนึกกำลังรวมพลังอย่างแนบแน่นของมวลชนคนเสื้อแดง
นอกจากสร้างความหวาดหวั่นให้รัฐบาลแล้ว
ยังทำให้ผู้อยู่เบื้องหลังการสั่งการปราบปรามประชาชนพรั่นพรึงด้วย
สำหรับการชุมนุมใหญ่วันเสาร์ที่ 19 มี.ค.นี้ เพื่อรำลึก 10 เดือน วันที่ 19 พ.ค.
คาดว่าจะมีผู้ออกมาร่วมไม่น้อยกว่าทุกครั้ง
อาจจะมีแกนนำอีก 5-6 คน ที่ได้ประกันตัวมาร่วมด้วย
ต้องดูว่าข้อมูล คลิปเหตุการณ์หลักฐานที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ เด็ดขาดแค่ไหน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะชี้แจงอย่างไร
หากใช้วาทกรรมเดิมๆ หรือกล่าวหาว่าตายเพราะฆ่ากันเอง หรือโยนผิดให้ชายชุดดำ
รับรองแดงมาเต็มกรุงแน่ๆ
การชุมนุมในวันดังกล่าว ถือเป็นรอยต่อของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
แม้นายอภิสิทธิ์จะชิงประกาศยุบสภาในสัปดาห์แรกเดือนพ.ค.
เชื่อว่าจะไม่สามารถลดอุณหภูมิการเมืองได้มากนัก
แต่กลับจะเพิ่มความยุ่งยากให้นายอภิสิทธิ์ยิ่งขึ้น
เพราะยังมีคิวชุมนุมรำลึกครบ 11 เดือน และ 1 ปี เหตุการณ์วันที่ 19 พ.ค. จ่อรออยู่ข้างหน้า
ตราบใดที่รัฐบาล ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบสั่งการยังหาตัวผู้กระทำผิดไม่ได้ และไม่จริงใจที่ให้ความยุติธรรมแก่ผู้สูญเสีย
ก็อย่าหวังเลยว่าจะเกิดความสงบสุข
ล่าสุด นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยื่นศาลขอให้ถอนประกันแกนนำรวม 7 คนที่ได้รับการประกันตัว
โดยอ้างทำผิดเงื่อนไขคำสั่งศาล
ก็จะยิ่งเหมือนกวักมือเรียกม็อบให้มาชุมนุมกันมากๆ