WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, March 16, 2011

บิ๊กCTW:ไม่ รู้ว่าใครเผา? ถ้ารู้ ก็ไม่รู้ว่าใครสั่งเผาอีก! เรามีความเสี่ยงเดียวกับเสื้อแดง คือหากรัฐบาลยังคุยไม่รู้เรื่อง เขาก็ถือโอกาสหา แพะรับบาป

ที่มา Thai E-News




สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทกลุ่มเซ็นทรัล :ไม่รู้ว่าใครเผา ถ้ารู้ว่าใครเผาก็ไม่รู้อีกว่าใครสั่งเผาอีก ถามว่าเรากลัวเสื้อแดงไหม เราไม่กลัว มีความเสี่ยงเดียวกับเสื้อแดงคือหากรัฐบาลยังคุยไม่รู้เรื่อง เขาก็ถือโอกาสหา แพะรับบาป เราไม่ได้เกี่ยวกับเสื้อแดงเลย เรากับเสื้อแดงก็รักกันดี

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ BizWeek

หมายเหตุไทยอีนิวส์:เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา ได้เชิญตัวแทนกรรมการผู้จัดการเซ็นทรัลเวิลด์ให้ข้อมูล ว่า การพยายามลอบเผาห้าง ไม่ได้เกิดขึ้นในระหว่างที่กลุ่มเสื้อแดงชุมนุม และตลอดเวลาที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณดังกล่าว ผู้ชุมนุมก็มีความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ด้วยดีกับทางห้าง มีคนกลุ่มหนึ่งพยายามเผามาแล้วหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากมีหน่วยรักษาความปลอดภัยคอยป้องกันเหตุจำนวนหลายร้อยคน

หลังจากนั้นกลุ่มคนดังกล่าว พร้อมกับถืออาวุธครบมือเข้ามาภายในเซ็นทรัลเวิลด์ จนสามารถบีบให้หน่วยรักษาความปลอดภัยยอมจำนน และสามารถเผาได้สำเร็จ

เรื่องนี้สอดคล้องกับที่นายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทกลุ่มเซ็นทรัล ให้สัมภาษณ์ไว้หลังเหตุเผาห้างไม่ถึง 2 เดือน เราจึงนำมานำเสนอให้ท่านผู้อ่านได้พิจารณาอีกครั้ง


นายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เปิดใจกับหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ BizWeek เมื่อ 12กรกฎาคม 2553 หรือเกือบ 2 เดือนให้หลังการเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ (CTW) มีความน่าสนใจดังต่อไปนี้

เขาเห็นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่า ยังไม่หนักที่สุดที่เคยเจอ เมื่อเทียบกับเหตุการณ์ไฟไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลชิดลม เมื่อปลายปี 2538 ซึ่งตอนนั้นต้องถือว่า "หนักที่สุด" แล้ว

ทว่า เหตุการณ์นี้ถือว่า “ตื่นเต้นที่สุด”

“ที่บอกว่าตื่นเต้นที่สุด เพราะไม่รู้ว่าพอเกิดขึ้นแล้วจะเกิดอะไรต่อ ไม่รู้ว่าใครเผา ถ้ารู้ว่าใครเผาก็ไม่รู้อีกว่าใครสั่งเผาอีก อย่างเซ็นทรัลชิดลมไฟไหม้เราก็รู้ว่าไหม้เพราะอะไร ไหม้หมดเลยต้องปิดร้านไปเป็นปีเสียหายมาก แต่โอเคก็ได้เงินประกันมาพอสมควรถึงแม้จะไม่คุ้ม กับธุรกิจที่ต้องหยุดชะงัก ต้องเริ่มใหม่”


“ถามว่าเรากลัวเสื้อแดงไหม เราไม่กลัว มีความเสี่ยงเดียวกับเสื้อแดงคือหากรัฐบาลยังคุยไม่รู้เรื่อง เขาก็ถือโอกาสหา แพะรับบาป เราไม่ได้เกี่ยวกับเสื้อแดงเลย เรากับเสื้อแดงก็รักกันดี เรากับเสื้อเหลืองก็รักกันได้ เราไม่มีสีเสื้อ”
เขาว่าอย่างนั้น

เขายังเข้าใจเปรียบเปรยท่าทีของรัฐในการแก้ไขปัญหาเพลิงไหม้ที่เซ็นทรัลเวิลด์ช่วงที่ผ่านมาว่า

“เหมือนเราจ่ายภาษีให้รัฐบาลไปซื้อปืน แต่เขาไม่ซื้อปืนมาใช้กับเรา เรากลับถูกคนเอาปืนมายิง เพราะเราไม่มีไลเซ่นใช้ปืน ถ้ารัฐบาลไม่ทำ ต่อไปเราก็ต้องมีปืนแทนรัฐบาล” นั่นหมายถึง การเพิ่มดีกรีของระบบรักษาความปลอดภัย


@เบื้องหลังเหตุการณ์ที่ "ตื่นเต้นที่สุด"

สุทธิธรรมเล่าว่า วันแรกที่กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนขบวนมาชุมนุมประท้วงที่สี่แยกราชประสงค์ เป็นวันแรกเช่นกัน ที่ผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัล ไหวตัวไปตั้งศูนย์บัญชาการ หรือ "วอร์รูม" นอกพื้นที่ที่เขาไม่ขอเปิดเผยสถานที่ แต่จากการสอบถามคนในวงการค้าปลีก ระบุว่า พื้นที่บริเวณเซ็นทรัล ลาดพร้าว น่าจะเป็นชัยภูมิที่เหมาะสมที่สุดแล้วที่จะตั้งเป็นศูนย์บัญชาการ เพราะอยู่ใจกลางเมือง และห่างจากจุดที่มีการชุมนุมพอสมควร

"เรามีวอร์รูมตั้งแต่เดินขบวน บอกไม่ได้เป็นความลับ วอร์รูมจะมีเจ้าหน้าที่ประจำ 24 ชั่วโมง มีผู้บริหารระดับหนึ่งประจำอยู่เพื่อประเมินสถานการณ์ก่อนรายงานตรงถึงผู้บริหารระดับสูงได้ทุกเมื่อ เช่น เหตุการณ์แบบนี้จะเปิดหรือปิดห้างกี่โมง วอร์รูมเราจะมี Message ถึงเราตลอดทุกสิบนาที หรือทุกครึ่งชั่วโมง แล้วแต่ความเคลื่อนไหว" สุทธิธรรม เล่าและว่า ตอนที่เกิดเหตุการณ์บอร์ดชุดเล็ก ชุดใหญ่ เรียกประชุมด่วนกันหมด


เขายังบอกว่า รู้สึกตกใจเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมย้ายมาชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ ยิ่งเมื่อการชุมนุมเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้ประกอบการศูนย์การค้าขนาดใหญ่ละแวกนั้นเริ่มนั่งไม่ติด ต้องนัดรวมตัวเพื่อพูดคุยกันเป็นระยะ อาทิ สยามเซ็นเตอร์ (ชฎาทิพ จูตระกูล) สยามพารากอน (ศุภลักษณ์ อัมพุช) และ เกสร (ชาย ศรีวิกรม์) เป็นต้น

"คุณแป๋ม (ชฎาทิพ) อยากให้ผมไปประชุมที่สยาม ผมก็บอกว่า ไม่มีใครอยากไป เสี่ยง ใกล้ไป ก็บอกว่าประชุมที่ลาดพร้าวดีที่สุด ก็ประชุมกันหลายครั้งหลายครา ประชุมว่าเราต้องทำอะไรเหมือนๆ กัน และพอเลิกชุมนุมแล้วจะเป็นอย่างไร ต้องช่วยพนักงาน ช่วยผู้ที่เกิดปัญหาอย่างไร

เราไม่เคยคิดว่าจะมีการเผา เพียงคิดกลัวว่าจะมีคนบุกเข้าไปขโมยของ บางคนก็คิดว่า เดี๋ยวจะเลิกๆ ชุมนุม แล้ว เราเตรียมตัวกวาดถนน กวาดบ้าน ก็ไม่เลิกอีกแล้ว"

สุทธิธรรม ยังเล่าถึง วินาทีที่เห็นห้างสรรพสินค้าเซนถูกเผาว่า..

"สะเทือนใจ ทุกคนยืนน้ำตาปริบ ร้องไห้ไปหลายคน ก็เห็นแล้วตกใจ จริงๆ เป็นเหตุสุดวิสัย ทำใจว่าเราต้องสู้ต่อไป เสียหายจุดนี้ไม่เท่ากับเสียหายทั้งกลุ่ม แต่ก็ไม่ใช่จิ๊บจ๊อย ก็พอสมควร แต่พอถอยหลังแล้วต้องกลับมาสู้ต่อ เราสูญเสียลูกค้าให้คนอื่นไป เราเรียกกลับมาอย่างไร"

เขาเห็นว่า วงเงินประกันที่ทำไว้ยังไงก็ “ไม่ครอบคลุม” ความเสียหายที่เกิดขึ้น

“ยังไงก็ไม่มีทาง Cover เพราะทำประกันไว้น้อยมาก คร่าวๆ เรารู้อยู่แล้วว่าไม่พอ”

*********
CTWย้ำแดงบริสุทธิ์ ห้างถูกแก๊งอาวุธหนักเผา สอดรับปากคำรปภ.+หลักฐานภาพชุด อุบมีVDOทีเด็ด



โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
4 มีนาคม 2554

วันนี้มติชนออนไลน์รายงานข่าวว่า นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ 1 ในข้อกล่าวหาถอดถอนนายกรัฐมนตรีของ ส.ส.ฝ่ายค้าน ระบุเรื่องการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ในการป้องกันและระงับเหตุวางเพลิงเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ ว่า ได้เชิญตัวแทนกรรมการผู้จัดการเซ็นทรัลเวิลด์ให้ข้อมูลกับคณะกรรมการ ได้รับทราบว่า มีกลุ่มคนหนึ่งพยายามเผาเซ็นทรัลเวิลด์มาแล้วหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากมีหน่วยรักษาความปลอดภัยคอยป้องกันเหตุจำนวนหลายร้อยคน

หลังจากนั้นกลุ่มคนดังกล่าว ไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มไหน ได้เพิ่มจำนวนคนมากขึ้น พร้อมกับถืออาวุธครบมือเข้ามาภายในเซ็นทรัลเวิลด์ จนสามารถบีบให้หน่วยรักษาความปลอดภัยยอมจำนน และสามารถเผาได้สำเร็จ

"ตัวแทนกรรมการผู้จัดการเซ็นทรัลเวิลด์ ให้ข้อมูลกับเราว่า การพยายามลอบวางเพลิง ไม่ได้เกิดขึ้นในระหว่างที่กลุ่มเสื้อแดงชุมนุม แต่เกิดขึ้นหลังจากที่แกนนำกลุ่มเสื้อแดงเข้ามอบตัวแล้ว และตลอดเวลาที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณดังกล่าว ผู้ชุมนุมก็มีความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ด้วยดีกับทางห้าง โดยทางห้างได้อำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุมเข้าห้องน้ำด้วย นอกจากนี้ ตัวแทนของห้างยังระบุว่า มีคลิปวีดีโอที่บันทึกภาพของกลุ่มคนที่วางเพลิงไว้ด้วย แต่จนถึงขณะนี้ทางห้างยังไม่ได้ส่งมาให้ทางคณะกรรมการ" นายจิตติพจน์กล่าว

นายจิตติพจน์ กล่าวต่อว่า การประชุมคณะกรรมการฯ วันที่ 10 มีนาคม ทางคณะกรรมการฯ เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เข้าชี้แจงถึงความคืบหน้าของคดีกลุ่มคนเสื้อแดง รวมถึงจะเชิญนางธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำกลุ่มนปช. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช. ว่าต่อจากนี้จะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป

ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 8 ธันวาคม 2553 ได้ไปทำข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างฯถึงเหตุการณ์ข้อเท็จจริงในวันนั้นว่าเกิดอะไรขึ้นแน่?..

- รปภ.เซ็นทรัลเวิลด์แฉวันเผา

ผู้สื่อข่าวได้ไปที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ถ.ราชดำริ ภายหลังจากมีภาพเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 ที่แยกราชประสงค์ ภายในห้างเซ็นทรัลเวิลด์ แพร่ในเฟซบุ๊ก ช่วงที่มีศอฉ.เข้าเคลียร์พื้นที่ภายในห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ก่อนเกิดไฟไหม้ขึ้น ทั้งที่ศอฉ. เข้าไปในพื้นที่แล้ว เพื่อติดตามสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว

นายเอ (นามสมมติ) กล่าวว่าตนเข้าปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเช้า สังกัดบริษัท อาร์ทีเอสการ์ด จำกัด ซึ่งห้างเซ็นทรัลเวิลด์จะจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยสองแห่ง ดูแลพื้นที่ โดยมีบริษัท อาร์ทีเอสการ์ด จำกัด ดูแลพื้นที่ด้านนอก ลานจอดรถ และรอบห้างทั้งหมด ส่วนบริษัท จีโฟร์เอส การ์ด จำกัด ดูแลเฉพาะส่วนภายในอาคารทั้งหมด

ในเวลาดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเช้า ตนได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้านหลังห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ช่วงเช้าก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไร แต่หลังจากเวลา 13.00 น. ได้ทราบข่าวว่าได้มีเจ้าหน้าที่เคลื่อนที่นำกำลังมาบริเวณถึงหน้าถนน บริเวณสยามพารากอน จากนั้นก็มีเสียงปืนและเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ ตนจึงให้รปภ.รอบบริเวณห้างลงไปอยู่ด้านล่างเพื่อความปลอดภัย โดยปิดล็อกประตูทางเข้าออกห้างทั้งหมด จนกระทั่ง เวลา 16.30 น. ได้มีกลุ่มทหารพร้อมอาวุธปืนบุกเข้ามาเคลียร์ในพื้นที่ห้างสั่งให้นอนหมอบกับพื้นและสั่งให้รปภ.ทุกคนติดบัตร ก่อนปล่อยตัวออกไปจากพื้นที่ ซึ่งมีรปภ.บางคนไม่มีบัตรก็ไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ถูกควบคุมตัวแยกไว้

- ถูกทหารคุมตัวออกจากห้าง

นายเวียน (นามสมมติ) กล่าวว่า อยู่สังกัดรปภ.บริษัท อาร์ทีเอสการ์ด ช่วงเกิดเหตุปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้านห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ถ.ราชดำริ ตนอยู่ประตูทางเข้าออกห้างช่วงเช้าไม่มีเหตุการณ์อะไร จนมาช่วงบ่ายสังเกตเห็นกลุ่มคนเสื้อแดงได้วิ่งแตกฮือกระจัดกระจายหนี เนื่องจากช่วงนั้นเริ่มมีเสียงระเบิดและปืนดังขึ้น ตนได้รับแจ้งทางวิทยุจากหัวหน้าให้ปิดประตูทางเข้าออกห้าง และให้หลบลงมาอยู่ด้านล่าง หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงปืน เสียงระเบิด เป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง โดยไม่กล้าออกมาดูด้านบนว่ามีเหุตการณ์อะไรเกิดขึ้น

จนเวลา 17.00 น. จึงออกจากพื้นที่ได้ โดยมีทหารมาควบคุมพื้นที่ห้างและสั่งให้ทุกคนติดบัตร จึงออกจากพื้นที่ได้ ส่วนภายในห้างตอนนั้นไม่มีคนเสื้อแดงหรือประชาชนหลบอยู่ในห้างแต่อย่างใด และยังไม่มีไฟไหม้

ส่วนนายเทียน (นามสมมติ) รปภ.จีไฟร์เอส การ์ด กล่าวว่าช่วงเช้าตนปฏิบัติหน้าที่อยู่ชั้น 6 ของห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมองออกทางกระจกหน้าห้างสังเกตเห็นกลุ่มคนเสื้อแดงวิ่งหนีกันอลหม่าน และมีเสียงปืน เสียงระบิดดัง และได้รับคำสั่งจากหัวหน้าเช่นกันแจ้งให้ลงมาอยู่ข้างล่างจนเวลา 17.00 น. จึงออกจากพื้นที่ได้

และนายพง(นามสมมติ) รปภ.บริษัทจีไฟร์เอสการ์ด กล่าวเช่นกันว่าตนอยู่ชั้น 1 ก็ได้รับคำสั่งจากหัวหน้าแจ้งให้ปิดประตูห้าง จากนั้นได้ยินเสียงปืนเสียงระเบิดดังถี่ขึ้นตลอด และต้องหลบลงมาอยู่ชั้นใต้ดินจนเวลา 16.00 น.ถึงออกจากพื้นที่เช่นกัน
*******
ภาพชุดที่เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ค

รูปที่ 1 วันที่ 19 พ.ค. 53 หลังเสื้อแดงสลายการชุมนุมราชประสงค์ ทหารคุมพื้นที่ได้หมด ในเวลา 14.26 มีคนเดินเข้ามาในห้างฯ (เป็นเจ้าของร้านค้าในเวิร์ลเทรด มาดูร้าน)

รูปที่ 2 คนที่เดินเข้ามาโดนยิงสกัดที่ขา

รูปที่ 3 มีเพื่อนเข้ามาช่วยคนโดนยิงเจ็บออกไป

รูปที่4 ขณะที่คนที่ยืนดูอยู่ก็โดนยิงไล่


รูปที่5 อยู่ข้างในไม่ได้ โดนยิงไล่ ต้องรีบออกมา


รูปที่ 6 โดนยิงด้วยลูกซองเม็ดเล็ก ไม่เจตนาฆ่า แต่ไล่ให้ออกไปจากห้าง


รูปที่7-8 ส่วนข้างนอกก็มีการยิงสกัด เพื่อไม่ให้รปภ.เข้าไปรักษาความปลอดภัยในห้างได้


รูปที่ 8เอาทหาร ศอฉ.ตรึงกำลังรอบห้างฯ

รูปที่ 9-ในที่สุดรปภ.และพนักงานต้องเดินทางออกอย่างเดียว

จะสังเกตเห็นว่ามีทหารศอฉ.ปะปนอยู่กับพนักงานห้าง(เหน็บวิทยุสื่อสารสีแดง)


รูปที่10-มียิงออกมาข้างนอก


รูปที่11 -เห็นคนยิงบนสถานีรถไฟฟ้า ทหารกระหรี่แน่ๆ ที่ยิงประชาชนได้

รูป12 -เมื่อเคลียร์หมด คนในให้ออก คนนอกห้ามเข้าแล้วก็ เผา!


รูป13-ศอฉ.ควบคุมพื้นที่ได้หมด ในระหว่างนั้น


รูปที่ 14-16-หลังเหตุการณ์เพลิงไหม้ห้าง ทหารตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ในวันที่ 21 พ.ค.(ข้อสังเกตคือพวกเหน็บวิทยุสื่อสารสีแดง แบบเดียวกับตอนไล่คนออกจากห้างก่อนเผา)




รูปที่17-พบศพสุดท้าย ตายเนื่องจากขาดอากาศหายใจ

รูปที่ 18เป็นนักศึกษาจากราษีไศล ศรีสะเกษ


****

เรื่องเกี่ยวเนื่อง:

-เทเวศฯยึกยักไม่จ่ายค่าประกัน3หมื่นล้านCTW ท้าอยากได้ให้ฟ้องเอา อ้างห้างโดนผู้ก่อการร้ายเผา


ถวายพระพร-นายอนันต์ เกษเกษมสุข กรรมการผู้จัดการ พร้อมผู้บริหาร บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพานดอกไม้หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และ ลงนามถวายพระพรให้ทรงหายจากพระอาการประชวร ณ อาคาร 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเร็วๆนี้ (ภาพข่าว:RYT9)

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
26 พฤศจิกายน 2553

เซ็นทรัลเวิลด์ส่อแววแห้วเคลมประกัน 3 หมื่นล้าน "เทเวศประกันภัย"บริษัทที่รับทำประกันชี้ฝรั่งที่เป็นบริษัทรับประกันภัยต่ออ้างเข้าข่ายก่อการร้าย แนะหากอยากได้ให้ฟ้องร้องศาลตัดสิน กินเวลานาน5-7ปี แต่ยินดีจ่ายในส่วนประกันภัยก่อการร้าย3.3พันล้าน แต่เสียหายจริงอ้างไม่เกิน2พันล้านจะจ่ายปีหน้า

มติชนออนไลน์ รายงานว่า กรณีการชุมนุมม็อบเสื้อแดงเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งมีบริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (Industrial All Risk : IAR) ให้กับบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ทุนประกันเกือบ 3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นเวิลด์ทุนประกัน 1.3 หมื่นล้านบาท และรับประกันก่อการร้ายกับห้างสรรพสินค้าเซนมูลค่า 3.3 พันล้านบาท

ขณะที่บริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) รับประกันภัยก่อการร้าย ทุนประกัน 3.5 พันล้านบาท

นาย อนันต์ เกษเกษมสุข กรรมการผู้จัดการ เทเวศประกันภัย กล่าวว่า ล่าสุด บริษัทรับประกันภัยต่อต่างประเทศ (รีอินชัวเรอส์) มีจุดยืนว่า ความเสียหายของเซ็นทรัลเวิลด์ เกิดจากภัยก่อการร้าย ดังนั้น เซ็นทรัลอาจจะไม่ได้รับความคุ้มครองจากการทำประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน เนื่องจากกรมธรรม์ประเภทนี้จะคุ้มครองภัยที่เกิดจากการโจรกรรม หรือจลาจล และสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินผู้เอาประกันภัย รวมถึงความสูญเสียจากการหยุดชะงักของธุรกิจ (Business Interruption) จนทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องสูญเสียรายได้ แต่ไม่รวมภัยจากการก่อการร้าย ซึ่งมีความรุนแรงในระดับที่สูงกว่า

"ที่ บริษัทคาดว่าจะไม่คุ้มครอง เพราะรีอินชัวเรอส์เข้ามาพิสูจน์หลักฐานต่างๆ อย่างละเอียดแล้วพบว่าเข้าข่ายก่อการร้ายจริงๆ โดยดูจากบริบทรอบข้าง ไม่ได้ยึดคำประกาศของรัฐบาลเป็นหลัก นอกจากนี้ ตามเงื่อนไขของประกัน IAR จะมีหมายเหตุว่า ไม่คุ้มครองภัยที่เกิดจากการก่อการร้าย เพราะเป็นภัยเฉพาะเจาะจง โดยยึดจากตัวอย่างเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน 2544 หรือ 9/11 ในสหรัฐอเมริกา เป็นต้นมา และเหตุการณ์นี้เขาก็สรุปว่ารุนเเรงกว่าจลาจล"นายอนันต์กล่าว

นายอนันต์กล่าวว่า หากเซ็นทรัลพัฒนาเห็นว่า น่าจะมีข้อสรุปที่ดีกว่า และยังรู้สึกสงสัยกับจุดยืนของรีอินชัวเรอส์ ประกอบกับเห็นว่าค่าเสียหายที่จะได้รับจากการประกันก่อการร้ายต่ำกว่าค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 5-6 พันล้านบาท เซ็นทรัลก็อาจนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการศาลได้ โดยให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณาคดีความ ซึ่งอาจใช้เวลา 5-7 ปี ทั้งนี้ เห็นว่าทางรีอินชัวเรอส์น่าจะพร้อมชี้แจงกับผลสรุปดังกล่าว

นายอนันต์กล่าวว่า ในส่วนของห้างสรรพสินค้าเซนที่ทำประกันก่อการร้ายมูลค่า 3.3 พันล้านบาท ซึ่งผลจากการประเมินความเสียหายคืบหน้าไปกว่า 95% ในเบื้องต้นพบว่า มูลค่าความเสียหายกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งยังไม่เกินทุนประกัน โดยบริษัทจะรอข้อสรุปที่เหลือก่อนจ่ายค่าสินไหมทดแทน ซึ่งคาดว่าจะสามารถจ่ายได้ไม่เกินไตรมาส 1 ปีหน้า

เวบไซต์ของเทเวศประกันภัยเปิดเผยว่า กลุ่มผู้ถือหุ้น ของบริษัทประกอบด้วย

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 27,600 หุ้น คิดเป็น 0.23%
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 11,787,261 หุ้น คิดเป็น 98.227%
ผู้ถือหุ้นอื่นๆ 185,139 หุ้น คิดเป็น 1.543%

รวม 12,000,000 หุ้น คิดเป็น 100.00%


เทเวศประกันภัยระบุไว้ในเวบไซต์ว่า เป็นบริษัทของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ฯ