ที่มา ประชาไท
อัด ปชป.เหยียบศพประชาชนขึ้นมาเป็นใหญ่ โจมตีเหลือง-แดงป่วนเพราะอยากเป็นพระเอกเอง ลั่นที่ได้นั่งรัฐบาล เป็นเพราะสิ่งที่เสื้อเหลืองเรียกร้อง ย้ำพันธมิตรฯ พร้อมสู้และจะถอยไม่ได้อีกแล้ว
สนธิอัดอภิสิทธิ์เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นนานแล้ว
เมื่อเวลา 21.20 น. วานนี้ (14 มี.ค.) ช่วงหนึ่งของการถ่ายทอดสดการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวปราศรัยเป็นเวลา 18 นาทีเศษ ใจความว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนั้น เป็นคนที่ตอแหล และเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นมานานแล้ว โดยได้ไล่เรียงเหตุการณ์ให้เห็นว่า เมื่อ 14 ปีก่อน วันที่ 31 กรกฎาคม 2540 นายอภิสิทธิ์ในฐานะโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ด่ารัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ว่าการกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ถือเป็นความล้มเหลว เงื่อนไขการกู้จะผลักภาระให้ประชาชน เช่น รัฐวิสาหกิจจะขึ้นค่าบริการ เพราะฉะนั้นจึงถือว่ารัฐบาลทำไม่ถูก แต่หลังจากนั้น 4 เดือน นายชวน หลีกภัย ได้เป็นนายกฯ นายอภิสิทธิ์ได้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ นายอภิสิทธิ์กลับบอกว่า จะบอกว่าไอเอ็มเอฟเป็นความล้มเหลวเสียทีเดียวก็ไม่ได้ ไทยมีความจำเป็นที่จะต้องเข้าโครงการ และหาวิธีเสริมทุนสำรอง นโยบายต่างๆ ก็มีการปรับตามสถานการณ์ เพราะฉะนั้นไอเอ็มเอฟก็มีความจำเป็นสำหรับประเทศไทย
นายสนธิ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2551 ยังได้พูดประชดประชันนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นนอมินี ซึ่งถ้าเขาจะขึ้นเป็นนายกฯ เขาจะต่อสู้ด้วยตนเองไม่เป็นนอมินีหุ่นเชิดให้ใคร อยากถามว่า นายอภิสิทธิ์พูดตอนนั้นได้ขออนุญาตนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายเนวิน ชิดชอบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือยัง และในวันที่ 16 ม.ค.2546 นายอภิสิทธิ์ก็เคยให้สัมภาษณ์ยูบีซีว่า “ผมพร้อมที่จะทำงานให้พรรคแต่เขาจะออกจากพรรคเมื่อประชาธิปัตย์ละทิ้งอุดมการณ์ ไม่ทำตามแนวทางที่ประกาศไว้ และวันที่ผมไม่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ คือวันที่ผมไม่อยู่ในระบบพรรคการเมืองแล้ว ... ถุย”
นายสนธิ กล่าวอีกว่า วันที่ 24 มิถุนายน 2551 นายอภิสิทธิ์ ได้วิพากษ์วิจารณ์นายสมัครไว้ 9 ข้อ วันนี้กรรมตามสนอง เพราะทั้ง 9 ข้อที่ด่านายสมัคร เป็น 9 ข้อที่ตัวเองทำเรื่อง เดี๋ยวผมจะพูดให้ฟังเป็นข้อๆ
นายสนธิกล่าวด้วยว่า “เวทีมีแต่ความจริง เวทีนี้ไม่โกหกตอแหลหลอกลวง เวทีนี้พูดวันนี้กับพูดปีข้างหน้า ไม่มีผิดแผกไปเลย เราพูดได้ตลอดเวลา เรายืนยันได้ตลอดเวลา”
อัด ปชป. เหยียบศพประชาชนขึ้นมาเป็นใหญ่ บอกเหลืองแดงป่วนเพราะอยากเป็นพระเอกเอง
นายสนธิกล่าวต่อไปว่า วันนี้ เอแบคโพล ออกโพลมาอันหนึ่งน่าสนใจมาก วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ อาจจะขี้ไม่ออก เพราะเอแบคโพล แต่ไม่แน่เพราะคนพรรคนี้เดี๋ยวนี้ขี้ไม่ต้องเบ่งก็ออกแล้ว พี่น้องครับ เอแบคโพลน่าสนใจ เขาถามบอกว่า เลือกตั้งงวดหน้าจะเลือกใคร 58% บอกไม่เลือกพรรคการเมืองใดเลย แล้วพรรคประชาธิปัตย์ล่ะ ทำโพลทุกครั้งต้อง 40% วันนี้เหลือ 17% พี่น้อง จากที่เคยได้ร้อยละ 40 กว่า ผมไม่อยากใช้คำว่า “สมน้ำหน้า” เพราะยังน้อยไปกับการกระทำ ผมว่าพอใกล้เลือกตั้งจะลดเหลือแค่ 10% ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณเท่านั้นเลย ใช่ไม่ใช่
“เหยียบศพประชาชนขึ้นไปเป็นใหญ่ ขึ้นไปเป็นใหญ่แล้วถุยน้ำลาย แล้วเยี่ยวรดศพประชาชน ดูถูกพี่น้องประชาชน ขึ้นมาปั๊บก็บอกว่าเสื้อเหลือง เสื้อแดง เป็นตัวป่วนเมือง อยากจะเป็นพระเอกใช่ไม่ใช่พี่น้อง ใครเป็นตัวป่วนเมืองไม่สำคัญ เท่ากับว่า เขา แต่ละฝ่ายมาต่อสู้ เรียกร้อง เพื่ออะไร
ปชป.ได้นั่งรัฐบาล เป็นเพราะสิ่งที่เสื้อเหลืองเรียกร้อง อัดเลวกว่าทุกรัฐบาล
เสื้อเหลือง เขาเรียกร้อง เรียกร้องความเป็นธรรม เรียกร้องหลักการ ที่สุด ไอ้ที่พวกมึงได้เป็นรัฐบาล ก็เพราะสิ่งที่เสื้อเหลืองเขาเรียกร้องกัน หลักนิติรัฐต้องเป็นหลักนิติรัฐ ผมไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม แต่ดันทะลึ่งออกหนังสือสำนักนายกฯ ไปเรียกอัยการ เรียกดีเอสไอ มาประชุม เพื่อที่จะกลับมติ ยกเลิก ภาษีฟิลิป มอริสฯ 68,000 ล้าน ไหนมึงบอกไม่แทรกแซงไงล่ะ
ไม่แทรกแซง เคยมีไหมในประวัติศาสตร์ไทย ที่มีมติ ครม. เสนอให้ศาล ประกันตัวพวกเสื้อแดง ก็ฝีมือมันอีกพี่น้อง ฝีมือมันทั้งนั้น ประกันตัวเรียงหน้ากันเข้ามา บางคนไม่ต้องเสียเงินประกันแม้แต่บาทเดียว ก็ปล่อยตัวไป นี่คือฝีมืออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาวันนี้ ทำร้ายทำลายประชาชน จนกระทั่งวันนี้ ประชาชนที่ตัวเองคิดว่าจะลงเสียงให้ตัวเองเหลือเพียง 17% ไอ้ 17% ก็คือไอ้พวกโง่ๆ ทั้งหลาย จนวันนี้ยังดูไม่ออก ว่ารัฐบาลชุดอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนั้น เลวกว่าทุกๆ รัฐบาล ตั้งแต่ประเทศไทยมีมา นอกจากขายชาติแล้ว ยังโกงชาติด้วยใช่ไม่พี่น้อง นี่มันทั้งขายทั้งโกงเลย หาได้ที่ไหน”
นายสนธิ กล่าวอีกว่า วันนี้เมื่อบ่ายสามโมงเย็นผมขึ้นเวที ผมพูดอยู่คำหนึ่ง และหมายความเช่นนี้ วันนี้ เราถอยไม่ได้อีกแล้ว ใช่ไม่ใช่ จะมีกี่กองร้อย กี่กองพัน มาเถอะ มาให้หมด โดยเฉพาะไอ้พวกขายชาติทั้งหลาย ไอ้พวกนายพลกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่คอยรับใช้สุเทพ เทือกสุบรรณ เวลามาสลาย มาด้วยนะ อย่าหายไป
ในวันพรุ่งนี้ จะมาฉีกเป็นข้อๆ ให้เห็นว่าเป็นเวรกรรมของชาติบ้านเมืองที่มีนายกฯ ชื่ออภิสิทธิ์ ตนไปดูข้อมูลเก่าๆ เพิ่งนึกได้ว่า นายอภิสิทธิ์นั้นไม่ใช่เพิ่งจะเป็นแบบนี้ แต่เป็นมา 10 กว่าปีแล้ว เป็นคนกะล่อนตอแหลมาตลอด เพียงแต่เรามองไม่เห็น มามองเห็นตอนเขามีอำนาจ เมื่อมีอำนาจแล้ว ความที่อยากมีอำนาจ เขาต้องโกหกตอแหลทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้เป็นนายกฯ อยู่ต่อไปได้
ท้าอภิสิทธิ์ลาออกจากตำแหน่ง พร้อม “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์”
นายสนธิได้ท้าว่า หากนายอภิสิทธิ์แน่จริงและยังมีความเป็นลูกผู้ชายเหลืออยู่บ้างให้ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ พร้อมกับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ที่จะลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.พร้อมกัน อย่าใช้กติกาพรรคมาบีบนายสมเกียรติ เพราะเป็นกติกาพรรคที่ขายชาติ ทำให้เราเสียแผ่นดิน เราเคยมีคนโกงชาติ วันนี้มีทั้งโกงชาติและขายชาติ พรรคนี้เรื่องเลวเล็กๆ ไม่ทำ แต่จะทำเรื่องเลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เริ่มมาตั้งแต่ทำให้เสียปราสาทพระวิหาร ขโมยแผ่นดินของคนไทย เอาที่ดิน สปก.ไปให้เศรษฐีภูเก็ต ยกให้เขา ร่างกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ยกทรัพย์สินสมบัติของคนไทยที่ยึดมาเลหลังให้ฝรั่งในราคาถูกแล้วเอามาขายคืนคนไทยในราคาเต็ม 100 % ขายแผ่นดินให้เขมร ช่วยฝรั่งโกงภาษีอีก 6.8 หมื่นล้าน โกงเรื่องน้ำมันปาล์มทำให้คนไทยเดือดร้อนซื้อน้ำมันปาล์มในราคาแพง 7 ข้อเป็นเรื่องร้ายกาจ สมัยโบราณอย่าว่าแต่ตัดหัวเจ็ดชั่วโคตรเลย เขาตัดทั้งตระกูล ตลอดไป ชั่วนิรันดร
นายสนธิอ้างว่า ที่คะแนนนิยมพรรคประชาธิปัตย์เหลือร้อยละ 17 เป็นเพราะพวกเราและเอเอสทีวีเปิดโปงข้อมูลทุกวัน รัฐบาลจึงให้เราอยู่ไมได้ ทั้งที่เราแค่บอกว่าให้ยกเลิกเอ็มโอยู 43 แล้วจะสลายการชุมนุมทันที แต่เขาไม่ยอมทำให้ เพราะกำลังอยู่ในกระบวนการขายชาติขายแผ่นดิน เห็นสันดานนักการเมืองหรือยัง วันนี้ พรรคชาติไทยพัฒนา นายเนวิน ชิดชอบ พรรคเพื่อแผ่นดินจับมือกันบอกว่าพร้อมที่จะปรองดอง อยากให้นายอภิสิทธิ์ ที่เคยไปกอดเอวนายเนวินได้ดู วันนี้มันพิสูจน์ชัดว่ามันผิดมาตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ขึ้นมามีอำนาจแล้วแทนที่ จะยืนอยู่บนความถูกต้อง ยืนอยู่ข้างประชาชนที่ต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมือง แต่กลับเอาการเมืองมาเล่น ต้องการเป็นพระเอกทางการเมือง ต้องการอยากได้ภาพว่าเป็นคนรักสงบ เป็นคนจัดการกับทั้งสองฝ่าย แต่ไม่ดูว่าทั้ง 2 ฝ่ายยืนอยู่บนหลักการอะไร อีกฝ่ายต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเอาทักษิณกลับมา อีกฝ่ายไม่ให้แก้เพื่อรักษาความถูกต้อง แล้วฝ่ายนี้ก็ออกมาต่อสู้เพื่อปกป้องแผ่นดินในขณะนี้ ขณะที่นายอภิสิทธิ์ก็ยังอยู่กับพวกโกงชาติบ้านเมือง เราจึงพร้อมที่จะสู้และจะถอยไม่ได้อีกแล้ว
ฟังคลิปเสียงการปราศรัยของนายสนธิ ลิ้มทองกุล เมื่อคืนวันที่ 14 มีนาคม 2554 ได้ที่นี่