ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
มันฯ มือเสือ
เป็นธรรมดาของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่นอกเหนือจากข้อมูลเนื้อหาที่ฝ่ายค้านนำมาถล่มรัฐบาล จะเป็นที่สนใจของประชาชนและเฝ้าติดตามใกล้ชิด โดยเฉพาะข้อมูลเรื่องทุจริตไม่โปร่งใสในโครงการต่างๆ
นอกจากนี้สิ่งที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กันก็คือผลคะแนนโหวตรัฐมนตรีผู้ถูกอภิปราย
เพราะสิ่งนี้จะสะท้อนถึงความเป็นเอกภาพของรัฐบาล โดยเฉพาะที่เป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค ซึ่งมักจะมีเกมการเมืองภายในเข้ามาเกี่ยวข้อง
การอภิปรายครั้งนี้มีรัฐมนตรีถูกอภิปรายทั้งสิ้น 10 คน เป็นรัฐมนตรีประชาธิปัตย์ 6 คน และรัฐมนตรีภูมิใจไทย 4 คน
ผลคะแนนโหวตจะออกมาอย่างไร ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดวันนี้ก็คงได้รู้กัน
อย่างไรก็ตามรอบนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษคือคะแนนของ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์จากพรรคภูมิใจไทย ที่โดนฝ่ายค้านถล่มหนักในวันแรกจากกรณีน้ำมันปาล์มและปัญหาราคาสินค้า
ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น นายกฯ อภิสิทธิ์ และรองนายกฯ สุเทพ ให้สัมภาษณ์แสดงความเห็นถึงการตอบชี้แจงในสภาของนางพรทิวา
นายสุเทพบอกว่า เห็นใจนางพรทิวา พูดไม่ค่อยเก่ง เลยเสียเปรียบคนอื่น เพราะคนอภิปรายเขี้ยวๆ ทั้งนั้น แต่ต้องพยายามชี้แจง เวลาทำงานที่กระทรวงมีตัวช่วยหลายคน แต่เวลามาชี้แจงในสภาก็รับอยู่คนเดียว คนช่วยจับชาร์ตก็ไม่มี ลำบาก
ส่วนนายกฯ อภิสิทธิ์กล่าวตอบคำถามนักข่าวที่ถามว่านางพรทิวาชี้แจงปัญหาคนแวดล้อมน้อยไปหรือไม่
"ก็ฟังอยู่ บางทีหลายเรื่องก็ข้ามไปข้ามมา ยอมรับว่าบางทีฟังก็ยังสับสนเหมือนกัน"
ฟังอย่างนี้แล้วนางพรทิวารวมถึงพรรคภูมิใจไทยคงรู้อยู่ในใจ ระหว่างฝ่ายค้านกับพรรคประชาธิปัตย์
ใคร "เขี้ยว" กว่ากัน
มีนักการเมืองระดับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลแนะให้จับตาหลังจบศึกอภิปราย อาจมีการกระชับพื้นที่ขอคืนเก้าอี้กระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยดูแลอยู่
โดยเฉพาะกระทรวงที่เป็นกลไกเอื้อประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง
เนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เพิ่งผ่านไปเป็นครั้งแรกที่มีขึ้นหลังนายกฯ ประกาศเวลา "ยุบสภา" ไว้ล่วงหน้า
ผลจึงสะเทือนไปถึงเกมการเลือกตั้งที่ใกล้จะมีขึ้น
และยังอาจผูกพันไปไกลถึงการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคตอีกด้วย