WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, March 14, 2011

ยุบสภา-แก้ปัญหาหรือแค่ลดกระแส

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ รายงานพิเศษ



1.สุรชัย ศิริไกร
2.สุริชัย หวันแก้ว
3.วิทยากร เชียงกูล
4.คมสัน โพธิ์คง
การประกาศยุบสภาภายในสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค. ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

กำลังได้รับการท้าทายจากฝ่ายตรงข้าม ทั้งในส่วนของผู้ชุมนุม และพรรคฝ่ายค้าน

ที่มองว่าการยุบสภาไม่ใช่ข้อเรียกร้อง จึงไม่ใช่คำตอบของการยุติการชุมนุมเคลื่อนไหว ที่ต้องเดินหน้าต่อ

อีกทั้งระแวงว่าการไม่ระบุวันยุบสภา-เลือกตั้ง ที่แน่นอน เป็นเพราะนายกฯ จะไม่ยุบสภาจริงตามที่ประกาศ

แต่ที่ประกาศเพื่อต้องการลดกระแสทางการเมือง

นักวิชาการประเมินคำประกาศ "ยุบสภา" ครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากอะไร และจะช่วยแก้ปัญหาของบ้านเมืองได้หรือไม่

สุรชัย ศิริไกร

คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาธรรมศาสตร์


สาเหตุที่รัฐบาลประกาศยุบสภาในช่วงดังกล่าวเนื่องจากมีปัญหาในการบริหารงานหลายด้าน รวมถึงถูกการกดดันจากการชุมนุมนอกสภา ทั้งจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ปัญหาสำคัญที่พวกเขาเรียกร้องคือ 1.รัฐบาลไม่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นได้ 2.กรณีปราสาทพระวิหาร ทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนหรือไม่ 3.สินค้าแพง ทำให้เงินเฟ้อจนทำให้ราคาน้ำมันแพง และสุดท้าย 4.เรื่องภาษีบุหรี่ ที่กำลังเป็นประเด็นในขณะนี้

ถ้าปล่อยเวลาการบริหารงานไปเรื่อยๆ จะยิ่งทำให้คะแนนนิยมในรัฐบาลลดลงตามลำดับ ดังนั้น การที่รัฐบาลประกาศยุบสภา จึงถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับรัฐบาล

การออกมาประกาศยุบสภายังจะช่วยลดความรุนแรงในการชุมนุม รวมถึงลดระดับการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาลงได้อีกด้วย เนื่องจากการยุบสภาคือการคืนอำนาจให้ประชาชนแล้วไปเลือกบุคคลที่ชื่นชอบเข้ามาทำงาน ทำให้ฝ่ายค้านรวมถึงพรรคร่วมจะได้ตั้งหน้าตั้งตาลงพื้นที่หาเสียง

รวมถึงกระแสข่าวที่มีอยู่ตลอดเวลาว่าจะมีการปฏิวัติรัฐประหาร ก็จะหายไปด้วย เนื่องจากคนที่จ้องจะปฏิวัติคงทำไม่ได้แล้ว เพราะรัฐบาลจะยุบสภา ส่วนการกำหนดวันเวลายุบสภาที่ชัดเจน คิดว่ารัฐบาลคงจะรอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 3 ฉบับต่อสภา และประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกาก่อน ถึงจะกำหนดวันที่ชัดเจนได้

นอกจากนี้ ผมยังเชื่อว่าจะทำให้บรรยากาศการลงทุน รวมถึงความเชื่อมั่นในต่างประเทศที่มีต่อประเทศไทยจะดีขึ้นตามลำดับ จากการประกาศยุบสภา

วิทยากร เชียงกูร

คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต


การประกาศที่จะยุบสภาฯ ของนายกฯ อภิสิทธิ์ เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาไปตามกระแสเท่านั้น เพราะว่ารัฐบาลกำลังจะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจากฝ่ายค้าน จึงต้องการลดกระแสของช่วงเวลาดังกล่าว

เพราะนายอภิสิทธิ์ เองก็ไม่ได้ประกาศว่าจะยุบสภาฯ ในวันใด รวมทั้งไม่มีการระบุให้ชัดเจนว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่เมื่อใดเช่นเดียวกัน

แต่เชื่อว่าอย่างไร การยุบสภาฯ เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่คงมีอย่างแน่นอน เพราะนายอภิสิทธิ์ เป็นนักการเมือง เป็นนักเลือกตั้ง คาดว่าคงได้มีการหารือร่วมกันกับพรรคร่วมรัฐบาลไว้เรียบร้อยแล้ว จึงได้ประกาศว่าจะมีการยุบสภาแน่นอน

โดยส่วนตัว มองว่าแม้ว่ารัฐบาลประกาศจะยุบสภา แต่ก็คงไม่ช่วยให้สถานการณ์การเมืองในประเทศดีขึ้น ตนเชื่อว่ากลุ่มต่างๆ จะยังคงชุมนุมเพื่อหวังผลในทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเพื่อผลประโยชน์ของการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงตามที่รัฐบาลระบุ

และหากการเลือกตั้งครั้งใหม่มาถึง ก็จะมีแต่ปัญหาและเรื่องยุ่งยากตามมามากมาย เพราะทุกพรรคการเมืองจะงัดกลยุทธ์ขึ้นมาต่อสู้ทุกรูปแบบเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในทางการเมือง

ในช่วงที่มีการเสนอแนวทางการปฏิรูปการเมือง ทั้งจากนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ หรือแม้แต่ของ น.พ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ซึ่งเป็นแนวทางที่ดีมาก แต่นักการเมืองและพรรคการเมืองกลับไม่สนใจ ขณะที่ประชาชนก็ไม่มีทางเลือกอะไรเลย เพราะพรรคการเมืองก็มีอยู่เท่านี้

สุริชัย หวันแก้ว

ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


หลังจากนายอภิสิทธิ์ ออกมาประกาศว่ารัฐบาลน่าจะมีการยุบสภาในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค.นี้ ส่วนตัวมีความเชื่อว่า บรรยากาศทางการเมืองและอุณหภูมิความขัดแย้งทางการเมืองในตอนนี้ น่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับบรรยากาศทางการเมืองในตอนนี้ก็ไม่ได้เลวร้าย และร้อนแรงเหมือนอย่างอดีตที่ผ่านมา

ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ดีหากรัฐบาลจะประกาศให้มีการเลือกตั้ง เพราะประชาชนและทุกภาคส่วนจะได้ออกมาร่วมตัดสินใจและกำหนดทิศทางของประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการพิสูจน์ผลงานของรัฐบาลที่เคยทำมาว่าจะเข้าตาประชาชนหรือไม่

สาเหตุที่นายกฯ ประกาศให้มีการเลือกตั้งก่อนที่จะครบวาระของรัฐบาลอาจจะมีปัจจัยที่ก่อนหน้านี้ได้เคยให้คำมั่นสัญญาไว้ ประกอบกับตอนนี้เป็นช่วงที่เหมาะสมหลังจากรัฐบาลได้ทำงานมากว่า 2 ปี

ส่วนกรณีที่มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มไม่อยากให้มีการเลือกตั้งนั้น ยอมรับว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้ยังคงมีและพยายามเคลื่อนไหวอยู่ แต่กลุ่มประชาชนที่อยากเห็นการเลือกตั้งเกิดขึ้นก็มีมากเช่นกัน

การเลือกตั้งถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะรัฐบาลและสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ต้องการการมีส่วนร่วมจากประชาชน

คมสัน โพธิ์คง

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช


สาเหตุที่รัฐบาลออกมาประกาศยุบสภาในเวลานี้เนื่องจากรัฐบาลถูกแรงกดดันจากทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นผู้ชุมนุม ทั้งเสื้อแดง เสื้อเหลือง รวมถึงผู้ชุมนุมกลุ่มอื่นๆ พรรคการเมืองทั้งพรรคร่วมและฝ่ายค้าน รวมถึงกองทัพ

เมื่อถูกกดดันจากหลายกลุ่มจึงอาศัยการประกาศยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เพื่อจะบอกว่า "ลงเลือกตั้งแล้วนะ ไม่ต้องมายุ่งกับผม"

เป็นการทำเพื่อลดกระแส ลดแรงกดดัน แต่มาทำเวลานี้เลยเวลาไปแล้ว หลายกลุ่มต้องการขับไล่รัฐบาลและต้องทำให้ถึงที่สุด ดังนั้น จึงไมได้ทำให้กระแสความรุนแรงในการชุมนุมลดลงไปได้ เนื่องจากปัญหาของพวกเขายังไม่ได้รับการแก้ไข รวมถึงปัญหาข้าวของแพง เช่น น้ำมันแพง มีการกักตุนสินค้า ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข

นอกจากนี้ การประกาศยุบสภายังไม่สามารถลดบรรยากาศในการอภิปรายไม่ไว้วางใจลงด้วย เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านเขารู้ดีกว่า ไม่สามารถล้มรัฐบาลได้อยู่แล้ว แต่การอภิปรายมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ทำให้ประชาชนทั่วไปได้ดู เป็นการทำงานควบคู่ไปกับการชุมนุมนอกสภา

เวลานี้ไม่ว่ารัฐบาลจะประกาศยุบสภา และเลือกตั้งใหม่ ได้รัฐบาลใหม่ซึ่งอาจจะนำโดยพรรคไหนก็ได้เข้ามาบริหารงานก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่ประเทศเรากำลังเผชิญอยู่ได้

ผลสำรวจสำนักหนึ่งระบุว่า ประชาชนร้อยละ 58.6 ระบุว่า ถ้ามีการเลือกตั้งครั้งใหม่จะไม่เลือกพรรคอะไรเลย ทำให้เห็นว่าทุกวันนี้ประชาชนเขาไม่เอานักการเมืองแล้ว ดังนั้น เลือกตั้งมาใหม่ก็ไม่เกิดประโยชน์

การเมืองในระบบเดินมาถึงทางตัน การเมืองนอกระบบก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ไม่รู้ประเทศชาติจะเดินทางไหน ดังนั้น ต้องมาปฏิรูปทางความคิด ปฏิรูประบบกันสักที ยอมเสียสละผลประโยชน์ตัวเองบ้าง