ที่มา ข่าวสด
เหล็กใน
สมิงสามผลัด
ศึกซักฟอกรัฐบาลในช่วง 2-3 วันนี้ เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยของฝ่ายค้าน
เป็นเวทีที่พรรคเพื่อไทยใช้เขย่าพรรคประชาธิปัตย์ก่อนถึงวันเลือกตั้งใหม่ ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สรุปแล้วว่าจะยุบสภาช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค.นี้
เชื่อได้เลยว่าคดี 91 ศพจะเป็นเป้าหมายถล่มรัฐบาลอีกครั้งในสภา และจะดุเดือดกว่าครั้งก่อนๆ โดยเฉพาะคลิปคนเผาห้างเซ็นทรัล(ตัวจริง)
เชื่อได้เลยว่าคดีภาษีบุหรี่ต่างประเทศจะถูกขุดคุ้ยขึ้นมาประจานกันกลางสภา
เป็นการหาเสียงล่วงหน้าที่ดีที่สุดของพรรคเพื่อไทย
จะว่าไปแล้ว พรรคเพื่อไทยถือว่าพร้อมที่สุดหากมีการเลือกตั้งใหม่
การชุมนุมกันอย่างสงบของคนเสื้อแดงเรือนหมื่นเรือนแสน แม้จะชุมนุมกันเดือนละครั้งก็ตาม
แต่ก็เป็นตัวบ่งบอกได้ชัดเจนว่ากระแสคนเสื้อแดงยังแรงไม่ตก
ยิ่ง 7 แกนนำได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวออกจากเรือนจำ
การหาเสียงของพรรคเพื่อไทยก็เหมือนกับพยัคฆ์ติดปีก
เมื่อดูจากโพลของพรรคเพื่อไทยเองสำรวจการเลือกตั้งครั้งหน้า ก็คุยโวจะได้ส.ส.มากกว่าตอนที่เป็นพรรคพลังประชาชน
คาดการณ์กันไว้ว่าจะได้ส.ส.เกือบกึ่งหนึ่งของสภา
เพราะจะชูแคมเปญ "คืนความเป็นธรรมให้คนเสื้อแดง ต้องเลือกพรรคเพื่อไทย"
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องพบกับศึกหนักแน่ๆ
ความจริงแล้วพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ต้องการยุบสภา แต่ประเมินแล้วว่าหากปล่อยให้ถึงวันครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์สลายม็อบราชประสงค์
เสถียรภาพจะย่ำแย่ไปกว่านี้
การยุบสภาน่าจะลดกระแสได้ดีที่สุด
และหากมีการเลือกตั้งใหม่ขึ้นมาจริงๆ
พรรคประชาธิปัตย์ต้องเจอศึก 2 ด้าน
เพราะนอกจากต้องฟาดฟันกับพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงแล้ว
ยังต้องต่อกรกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง
พรรคภูมิใจไทยกับพรรคชาติไทยพัฒนาประกาศฮั้วกันไว้ล่วงหน้าแล้ว
กอดกันกลม ทำสัตยาบันไม่ทอดทิ้งกัน
แถมยังระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่เพื่อนที่รู้ใจกันอีกแล้ว
มิตรที่เคยร่วมหัวจมท้าย กลายเป็นเหินห่างไปซะแล้ว
จะกลับไปใช้มุขเดิมๆ ได้คะแนนเสียงอันดับสองแล้วใช้ "ตัวช่วย" จัดตั้งรัฐบาลใหม่ก็คงยาก
จะพึ่ง "มือที่มองไม่เห็น" ก็คงลำบาก
เพราะผลงาน 2 ปีที่ผ่านมาก็ยืนยันชัดเจนว่านายอภิสิทธิ์สร้างความปรองดองไม่ได้เลย