ที่มา Thai E-News
ที่มาภาพ:sacravatoons
ที่มา เว็บบอร์ดประชาทอล์ค
18 กรกฎาคม 2554
แพ้ยับเยินในศาลโลก เลิกโกหกเหอะ ถอนสองฝ่ายจริง แต่อนุญาตให้เขมรพัฒนาปราสาทและบริเวณรอบปราสาทฝ่ายเดียว นี่ซีที่ไทยแพ้ !!!
ฟังคำพิพากษาศาลโลกแล้ว (อ่านเพิ่ม ไทยรัฐ: ศาลโลกรับคำร้องเขมร คุ้มครองชั่วคราว ให้2ฝ่ายถอนทหาร 18 ก.ค.)
เศร้า ฟังคำพิพากษาแล้ว ฝ่าย ปชป ยังพยายามบิดเบือนอ้างว่า ถอนทหารสองฝ่าย เป็นข้อเรียกร้องที่ไทยเรียกร้องมาตลอด และที่เจ็บปวดสำหรับกัมพูชาคือ ปราสาทเป็นของเขมรแล้ว แต่ทหารเขมรเข้าไปรอบปราสาทไม่ได้ ตรงนี้ ฝ่ายไทยน่าจะได้เปรียบ สมประโยชน์เรา และเรื่องดินแดนเป็นของใคร ก็ต้องพิจารณากันต่อไป
แต่ ปชป. ลืมจะพูดอีกสองข้อคือ
คำสั่ง ศาลโลกให้ กัมพูชาพัฒนาพื้นที่พิพาทรอบตัวปราสาทฝ่ายเดียวได้ ห้ามไทยขัดขวาง ตรงนี้คือ สิ่งที่กัมพูชาพยายามจะทำ และเป็นต้นเหตุให้ฝ่ายไทยไม่ยอม และเกิดการปะทะกันขึ้น ศาลระบุชัดเจนด้วยคะแนน 15-1 ห้ามไทยขัดขวาง
และสำคัญที่สุด คือ ให้มีการเจรจาสามฝ่าย คือ ไทย เขมร และผู้สังเกตการณ์อาเซียนตามกรอบแก้ปัญหาของอาเซียน ตรงนี้ ทำให้ ปชป.เสีย และไทยแพ้ เพราะเราพูดมาตลอดว่า จะเจรจาเพียงสองฝ่ายเท่านั้น !!!! แต่นับไป นับมาคราวนี้ มันหลายฝ่ายชัดๆ
ขัดกับความต้องการของไทยที่ ไม่ต้อง การให้เขมรพัฒนาปราสาทฝ่ายเดียว ต้องการพัฒนาร่วม ขัดกับความต้องการของไทยที่ต้องการคุยกับเขมรสองฝ่ายเพราะไทยใหญ่กว่า ข่มขู่กัมพูชาได้ง่าย หากไม่มีกรรมการ
แต่คำพิพากษาก็มีผลดีกับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ในอนาคต ที่จะแก้ปัญหาข้อพิพาทด้านดินแดนกับเขมรได้โดยสันติ ไม่ต้องกลัวการกดดันของฝ่ายพันธมิตรฯต่อไป
งานนี้พูดกันตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ฝ่ายไทยเสียเปรียบแทบทุกประเด็น
ทั้ง ที่เกณฑ์ดรีมทีมที่ปรึกษากฎหมายฝรั่ง และนักกฎหมายจากกระทรวงการต่างประเทศที่ต้องการให้ศาลโลกจำหน่ายคดีนี้เสีย เพราะเรื่องดังกล่าวไม่อยู่ในอำนาจศาลโลก แต่เอาเข้าจริงศาลโลกกลับสอนกฎหมายกรมสนธิสัญญาของไทยว่า เรื่องนี้ เป็นอำนาจของศาลโลกโดยตรง
ปชป.จึงแพ้ทั้งการเมืองในประเทศ และการเมืองระหว่างประเทศ อย่างปฎิเสธไม่ได้ !!!!