ที่มา ข่าวสด
บทบรรณาธิการ
คณะ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดไว้ ว่าวันนี้จะเป็นวันประกาศผลการพิจารณา ว่าที่ผู้แทนราษฎรทั้งระบบบัญชีรายชื่อและระบบเขตที่ถูก 'แขวน' ไว้
เพราะ ในอีกด้านหนึ่งกรอบของกฎหมายก็ขีดเส้นเอาไว้ว่า กกต.จะต้องประกาศรับรองส.ส.ให้ได้ร้อยละ 95 ของสภาหรืออย่างน้อย 476 คนภายใน 30 วัน จึงจะสามารถเปิดประชุมสภาตามกฎหมายได้
ความล่าช้า หรือปัญหาที่ไม่คาดหมายอะไรก็ตามที่เกิดขึ้น จะยิ่งทำให้ 'ความอึมครึม' ทาง การเมือง ที่คนจำนวนมากคิดว่าหมดสิ้นไปแล้วตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคมย้อนกลับมาใหม่
เป็นทั้งภาระและความคาดหวังของสังคมที่กกต.จะต้องแบกรับและปฏิบัติให้ลุล่วงไป
ที่สำคัญก็คือ กกต.จะต้องเปิดกว้างรับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตน เองจากสังคมให้มากขึ้น
เพราะที่ผ่านมามีปัญหาหรือข้อสงสัยหลายประการที่ยังไม่มีคำตอบ และยังไม่มีแนวทางชัดเจนว่าจะป้องกันมิให้เกิดขึ้นซ้ำอีกอย่างไร
เช่น ความขลุกขลักของการเลือกตั้งล่วงหน้า ตั้งแต่การประกาศสิทธิ์ไปจนกระทั่งความทุลัก ทุเลเนื่องจากประชาชนมาใช้สิทธิ์จำนวนมากในวันเลือกตั้ง
หรือปัญหา ตัวเลขที่ไม่สอดคล้องกันของจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง และผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ที่โดยหลักแล้วไม่ควรจะเหลื่อมผิดจากกันเลย
หลังจากนี้กกต.จะต้องมีการทบทวนการทำงานครั้งใหญ่
ยิ่ง ไปกว่านั้น เมื่อความขลุกขลักในการทำ งานเกิดขึ้นพร้อมกับพฤติกรรมที่ไม่อาจใช้เหตุผลปกติอธิบายได้ในประการอื่นๆ ข้อสังเกตต่อกกต.ก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วย
ในขณะที่ กกต.ตัดพ้อว่าในสนามเลือกตั้งซึ่งมีพรรคการเมืองต่างๆ ลงแข่งขัน ควรจะต่อสู้กันตามกติกา มิใช่หันมาดึงเอากรรมการไปเป็นคู่ชกด้วย
กกต.ก็จะต้องย้อนกลับมาตรวจสอบตัวเองด้วยว่า ทำให้สังคมเกิดศรัทธาความเชื่อถือหรือเกิดข้อสงสัยมากกว่ากัน
ทองคำแท้ย่อมไม่กลัวไฟฉันใด ผู้บริสุทธิ์ย่อมไม่เกรงกลัวต่อการพิสูจน์ฉันนั้น
ถ้ากกต.มั่นใจว่าตนเองเป็นทองคำแท้ก็ย่อมไม่กลัวไฟ