ที่มา ข่าวสด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 16 ต.ค. นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน และคนงานกว่า 10 คน ที่ร่วมช่วยกันปฎิบัติภารกิจกู้พนังกั้นน้ำที่พังลงบริเวณถนนด้านข้างประตู ระบายน้ำคลองบ้านพร้าว หมู่ 3 ต.บ้านปทุม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่าการทำงานตลอดทั้ง 4 คืน 5 วัน ที่จะต้องเร่งทำงานกู้คลองบ้านพร้าวนี้ เพราะระยะช่องทางน้ำที่พังลงมีความกว้างกว่า 80 เมตร ส่งผลทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนในเขต ต.บ้านปทุม ,ต.เชียงรากใหญ่ รวมถึงชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมคลองบ้านพร้าว ทั้งในพื้นที่ ต.สวนพริกไทย ,ต.บางพูน ,ต.บางพูด เพราะปริมาณน้ำที่ทะลักเข้าท่วมพื้นที่เหล่านี้จะไหลลงสู่คลองเปรมประชากร ซึ่งหากปล่อยไว้นานก็จะส่งผลถึงย่านรังสิต ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต นิคมอุตสาหกรรมนวนคร และรวมถึงกทม.รอบนอกได้ เจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วนจึงต้องเร่งทำงานกันอย่างหนัก เพื่อให้สามารถกู้คลองบ้านพร้าวให้เร็วที่สุด
นายชาญ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่จะใช้วิธีการดำเนินงานตามแผนงานเดิมที่วางกันไว้คือ นำแท่นเหล็กตอกเข็มยึดแนวคันทีละ 5 เมตร ยึดลงใต้พื้นดินประมาณ 6 เมตร โผล่ขึ้นมา 2 เมตร เพื่อใช้แผ่นเหล็กวางกั้นน้ำรองต่อเพื่อชะลอความแรงและความดันของน้ำ ส่วนแผ่นเหล็กที่รองกั้นน้ำจะวางเผื่อไป 1 เมตรเพื่อที่เครื่องจักรจะได้ดำเนินการตอกเสาเข็มต่อไปอีก ซึ่งทำให้สะดวกและง่ายเมื่อเครื่องจักรลงเข็มยึดรองพื้น โดยดำเนินงานวิธีการนี้ตลอดภารกิจ ถึงแม้จะมีอุปสรรคเรื่องกระแสน้ำบ้าง ความดันน้ำบ้าง เรื่องวัสดุอุปกรณ์ในการทำงานบ้าน แต่ก็สามารถชะลอปริมาณน้ำได้สำเร็จ แต่ก็ยังคงมีปริมาณน้ำเพียงบางส่วนที่ต้องไหลผ่านช่องน้ำระหว่างแท่งเหล็ก ซัพพลายบ้าง ตามซอกถุงกระสอบทรายบ้าง ซึ่งจากนี้ไปพื้นที่บ้านเรือนประชาชน ที่เคยไดรับผลกระทบจากคลองบ้านพร้าวจะได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนน้อยลง แต่ก็ยังคงต้องคอยเฝ้าระวังดูระดับน้ำที่ถูกระบายมาจากหลายทิศทาง โดยต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนคอยเฝ้าระวังดูระดับน้ำอย่างใกล้ชิดและ ติดตามข่าวสารสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และเตรียมเก็บข้าวของ รถยนต์ไว้ในที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหายของทรัพย์สิน