WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, December 20, 2011

แนวทางศาลสัญญาณไม่ปรองดอง

ที่มา Thai E-News


ที่มา Dr. Sunai FanClub
ภาพประกอบ จิตรา คชเดช
20 ธันวาคม 2554

บทชี้นำ
จาก RED POWER ฉบับที่ 22 ปักษ์แรก ธันวาคม 2554

ใน ขณะที่เสียงออดของสภากดส่งสัญญาณเรียกร้องการปรองดองด้วยการผ่านญัตติการ ปรองดอง แต่เสียงกลองศึกจากศาลก็ยังตีดังตุ่ม ตุ่ม มาก่อนหน้ายาวนานแล้วจากคดีดาตอร์ปิโดและคดีคนเสื้อแดง และยิ่งตีกลองเสียงดังกระชั้นสวนเสียงออดของสภาจากการไม่ให้ประกันตัวนักโทษ การเมืองเสื้อแดงและล่าสุดจากการตัดสินลงโทษ “คดีอากง” นายอำพล ตั้งนพกุล อายุ 61 ปี ตามมาตรา 112 เป็นเวลา 20 ปี

นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นักโทษการเมือง มาตรา 112 ในฐานะเจ้าของหนังสือพิมพ์ Voice of TAKSIN และ Red Power ยื่นขอประกันตัวระหว่างการพิจารณาซึ่งเป็นสิทธิอันชอบธรรมตามกฎบัตรสหประชา ชาติมา 5 ครั้งแล้วก็ได้รับการปฏิเสธจากศาลมาตลอดทุกครั้งด้วยคำสั่งสั้นๆว่า “ไม่อนุญาต”แม้สมยศจะร้องขอให้ศาลเปิดการไต่สวนว่าเขาไม่ได้หลบหนีและมีเหตุ อันควรอนุญาตให้ประกันตัวได้แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาต


ล่าสุดศาลจะต้องส่งตัวสมยศไปฟังการสืบพยานโจทก์ที่ศาลจังหวัดสระแก้ว ศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ และศาลจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งใครๆก็รู้ว่าการนั่งรถทัวร์เรือนจำและพักโรงแรมคุกในแต่ละจังหวัดตะลอนๆ ไปนั้นมันทรมานอย่างยิ่ง เพราะรถทัวร์คุกไม่มีแอร์ประกอบกับผู้โดยสารต้องถูกตีตรวนและที่พักต้องยัด ทะนานนอน มันแสนจะทรมาน สมยศจึงขอสละสิทธิ์ที่จะเดินทางไปฟังการเบิกความและยินยอมให้ศาลสืบพยานลับ หลังจำเลย โดยทนายความจำเลยยื่นขอต่อศาลและอัยการก็ไม่คัดค้านแต่ศาลไม่ยินยอม

ทนายความเล่าว่าถ้าเช่นนั้นขอให้ศาลมีหมายเรียกพยานมาเบิกความที่กรุงเทพโดยทนายจำเลยยอมจ่ายค่าพาหนะให้ แต่ศาลก็ไม่ยินยอม

การปรองดองเป็นเรื่องที่โครงสร้างอำนาจรัฐทุกฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากันก่อนที่ประชาชนจะหันหน้าเข้าหากัน

การปรองดองเป็นเรื่องที่ต้องยึดหลักนิติรัฐอย่างเดียวกัน มิใช่วินิจฉัยจากความโกรธแค้นของสีเสื้อที่สำคัญที่สุดคือ

“การ ปรองดองจะต้องเริ่มจากโครงสร้างอำนาจรัฐต้องส่งสัญญาณเมตตาธรรมต่อประชาชน ทุกฝ่ายที่เป็นเหยื่อของวิกฤติการเมือง อันเป็นผลจากการใช้อำนาจรัฐที่ไม่เป็นไปตามกลไกแห่งระบอบอำนาจของประชาชน”

เสียงกลอง ศึกจากกองทัพยังเริ่มเบาลง แต่เสียงกลองศึกจากศาลยังไม่มีวี่แววว่าจะลดความดังลงเลย แล้วประชาชนจะรับรู้สัญญาณการปรองดองได้อย่างไร

สภาจะกดออดส่งสัญญาณเรียกอย่างไรก็เชื่อว่าประชาชนจะไม่เข้าห้องประชุมสภาเพื่อรับรองญัตติการ ปรองดองอย่างแน่นอน