WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, January 8, 2011

ปกขาวเพื่อไทย-ถลกรัฐบาล2ปี

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ รายงานพิเศษ




พรรคเพื่อไทย โดยคณะกรรมการติด ตามและตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาล (คตร.) ที่มี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค เป็นประธาน จัดทำสมุดปกขาว "2 ปีสอบตก รัฐบาลอภิสิทธิ์" ความหนาทั้งสิ้น 10 หน้า เนื้อหาโดยสรุป ดังนี้



1.ด้านเศรษฐกิจ

การบริหารประเทศ 2 ปีที่ผ่านมา ประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในโครงการเศรษฐกิจหลักๆ เช่น โครงการแจกเงิน 2,000 บาท โครงการต้นกล้าอาชีพ โครงการชุมชนพอเพียงที่มีการคอร์รัปชั่นมากมาย

รัฐบาลเน้นการสร้างหนี้ภาครัฐบาล โครง การแจกเงินเพื่อติดสินบนประชาชน ทำให้ประชาชนยากจนลง ขาดโอกาสสร้างฐานะ หวังพึ่งเงินที่รัฐบาลแจก

อีกทั้งเงินที่นำมาแจกเป็นเงินที่กู้มา ประชาชนต้องแบกรับภาระในอนาคต โดยหนี้ภาครัฐบาลเพิ่มขึ้นอย่างมากมายจาก 3.4 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 37 ของจีดีพี เมื่อสิ้นปี཯ เพิ่มเป็น 4.5 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 46 ของจีดีพี ในสิ้นปีཱ

รัฐบาลสร้างหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นกว่า 1.1 ล้านล้านบาท การสร้างหนี้เพิ่มขึ้นมากมายในเวลาเพียง 2 ปี จะนำพาระบบเศรษฐกิจของชาติล้มละลายได้เหมือนที่เคยเกิดเมื่อปีཤ

ผลงานด้านเศรษฐกิจยังปรากฏข้อมูลและข้อเท็จจริง ดังนี้

1) ทุจริตอย่างกว้างขวาง ผลสำรวจล่าสุดพบว่าต้องจ่ายกันถึง 25-30% หรือมากกว่านั้น

2) ไทยถูกจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศลดลง จากอันดับ 36 มาอยู่ที่ 38 ปีที่แล้วก็ตกจากอันดับ 34 มาอยู่ที่ 36

3) ไทยไม่ได้อยู่ในรายชื่อประเทศที่น่าลงทุนอีกต่อไป

4) ปัญหาค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ กระทบการส่งออก

5) ปัญหามาบตาพุดสร้างความไม่มั่นใจให้นักลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่เป็นผู้ลงทุนสูงสุด เหมือนสาเหตุการตายของนักข่าวญี่ปุ่นซึ่งสถานทูตญี่ปุ่นยังค้างคาใจ

6) ปัญหาประมูล 3 จี นายกฯ ไม่เร่งดำเนินการ ยังต่อปากต่อคำกับผู้ให้บริการที่เรียกร้องความยุติธรรม

7) ปัญหาราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มทะลุเกิน 100 เหรียญ

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นประชาชนพบว่าให้คะแนนความพึงพอใจผลงานด้านเศรษฐกิจในรอบ 2 ปีของรัฐบาลอยู่ที่ 3.82 คะแนน

ย้อนกลับไปปีཨ รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้คะแนนความพึงพอใจถึง 7.47 คะแนน แสดงถึงความสามารถที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง



2.ด้านสังคมและคุณภาพชีวิต



รัฐบาลไร้ความสามารถแก้ปัญหาด้านสังคมและการเพิ่มคุณภาพชีวิต การบริหารราชการแผ่นดินบกพร่อง ผิดพลาด สร้างปัญหาต่างๆ ให้สังคมและคนไทยมากขึ้น ดังนี้

1) ปัญหายาเสพติด แม้รัฐบาลยืนยันว่าเอาจริงเอาจังแต่กลับพบว่าประเทศไทยมีการแพร่ระบาดของยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น

2) ปัญหาอาชญากรรม โดยเฉพาะสวัสดิภาพในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

3) ปัญหาผู้มีอิทธิพล ทั้งเรื่องการเรียกค่าคุ้มครอง การดูแลสถานบันเทิง การดูแลวินรถมอเตอร์ไซค์และประจำทาง การข่มขู่คุกคามสุจริตชน การปล่อยเงินกู้ บ่อนการพนัน หวยใต้ดิน การลอบสังหารศัตรูทางการค้า การทำร้ายศัตรูทางการเมือง

4) ปัญหาด้านสังคมและคุณภาพชีวิตอันเกิดจากนโยบายของรัฐบาลที่ขาดความชัดเจน อาทิ

- นโยบายเรียนฟรี 15 ปี แต่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังต้องจ่ายเงินให้กับการศึกษาที่เรียกเก็บนอกจากค่าเล่าเรียนอีกหลายรายการ หัวใจของการศึกษาไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเรียนฟรี แต่อยู่ที่คุณภาพและมาตรฐานการศึกษา

- นโยบายแก้หนี้นอกระบบ แม้รัฐบาลอ้างว่าประสบความสำเร็จ ตัวเลขลูกหนี้ที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 600,000 ราย เข้าโครงการแล้ว 1,000,000 ราย

แต่เมื่อตรวจสอบกับสถาบันการเงินที่รับผิดชอบ คือธนา คารออมสินที่ดำเนินการได้เพียง 90,000 ราย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินการได้เพียง 300,000 ราย

- นโยบายเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตและสังคม พบว่าโครงการจำนวนมากที่กระจายสู่ท้องถิ่นหรือหน่วยงานราชการทุกระดับ ถูกแทรกแซงโดยกลุ่มผลประโยชน์ที่เชื่อว่าประกอบไปด้วยกลุ่มนักการเมือง ข้าราชการและพ่อค้า มีการเรียกรับผลประโยชน์จากงบประมาณ



3.ด้านความมั่นคงของรัฐ



รัฐบาลนี้นอกจากไม่สามารถก่อให้เกิดความมั่นคงภายในแล้ว ยังก่อความไม่มั่นคงเสียเอง ดังนี้

- ล้มเหลวแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งที่รัฐบาลมีฐานเสียงสนับสนุนอย่างมากในภาคใต้ แต่เหตุการณ์ใน 3 จังหวัด ยังคงระดับความรุนแรงทั้งในด้านกว้างและลึก

ปฏิบัติการทางการเมืองและทางกองกำลังของฝ่ายก่อการร้ายขยายพื้นที่จากเขตชนบทเข้าสู่เขตเมืองมากขึ้น

- ใช้กฎหมายความมั่นคงในภาวะฉุกเฉินยาวนานเกินความจำเป็น ทั้งที่สถานการณ์ฉุกเฉินยุติแล้ว เท่ากับว่ารัฐบาลนี้ใช้ข้อยกเว้นมากกว่าบทบัญญัติทั่วไปที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนในรัฐธรรมนูญ

- ทุ่มงบจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์มากกว่ารัฐบาลชุดใด เหมือนส่งสัญญาณว่าประเทศกำลังมีปัญหาความมั่นคงอย่างรุน แรง แต่อีกด้านหนึ่งถูกมองว่ารัฐบาลอ้างความมั่นคงเพียงเพื่อจัดซื้อยุทโธปกรณ์เอาใจฝ่ายทหารซึ่งมีบทบาทจัดตั้งรัฐบาลนี้

- ใช้หน่วยงานความมั่นคงเพื่อประโยชน์ทางการเมืองมากกว่ารักษาความมั่นคงของชาติ



4. ด้านการต่างประเทศ



เป็นยุคที่การต่างประเทศไทยตกต่ำถึงขีดสุด ผิดพลาดตั้งแต่แต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ เป็นรมว.ต่างประเทศ ทั้งที่เป็นผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายปิดสนามบินสุวรรณภูมิ

การต่างประเทศในยุคนี้จึงเป็นการนำประเทศไปใช้ทำลาย ศัตรูทางการเมือง เอาประโยชน์ของพวกพ้องมาก่อนประโยชน์ของชาติ เปลี่ยนมิตรให้เป็นศัตรู ทำให้ภาพลักษณ์และสถานะของประเทศไทยในเวทีโลกตกต่ำอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

รัฐบาลล้มเหลวในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กรณีกัมพูชา จนปัจจุบันความสัมพันธ์ยังไม่ปกติ มีโอกาสเสื่อมลงทุกเมื่อ

กรณีแต่งตั้งพล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ที่เกี่ยวพันกับคดี เพชรซาอุฯ เกือบทำให้ความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ ขาดสะบั้น

กรณีนายวิกเตอร์ บูท ที่นายศิริโชค โสภา คนสนิทนายกฯ ใช้อภิสิทธิ์ไปพบในเรือนจำ กระทบสัมพันธ์ไทย-รัสเซียอย่างมาก เพราะรัสเซียเห็นว่ามีการแทรกแซงกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน



5.ด้านการเมืองและการส่งเสริมประชาธิปไตย



- จำกัดเสรีภาพ แทรกแซง และปิดกั้นสื่อมวลชนในรูปแบบต่างๆ เช่น ใช้สื่อของรัฐโจมตีฝ่ายตรงข้าม ปิดเว็บไซต์มากกว่า 5 หมื่นเว็บ รวมถึงเลือกปิดเฉพาะสถานีวิทยุชุมชนและโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล

- ปฏิบัติต่อประชาชนในลักษณะสองมาตรฐาน

- แก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของตนเอง เปลี่ยนเขตเลือกตั้งเป็นเขตเล็ก ลดส.ส.พื้นที่จาก 400 คน เหลือ 375 คน โดยเพิ่มส.ส.บัญชีรายชื่อจาก 100 คน เป็น 125 คน ให้ตนเองและพรรคร่วมรัฐบาลได้เปรียบเลือกตั้ง

- ทำลายระบบพรรคการเมือง ตั้งรัฐบาลโดยแย่งชิงสมาชิกพรรคการเมืองอื่น แสดงว่าไม่ให้ความสำคัญกับระบบพรรคการเมือง

- ทำให้กระบวนการยุติธรรมเสื่อมเสีย



6.ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน



- ระบบราชการเสียหาย ถูกทำลายความน่าเชื่อถือจากการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงอย่างผิดกฎเกณฑ์และระเบียบธรรมเนียมปฏิบัติ เช่น กรณีกระทรวงมหาดไทยในเรื่องทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากเหตุการณ์พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา

- ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง เช่น เลือกปฏิบัติในการสนับสนุนงบลงพื้นที่อย่างไม่เป็นธรรม หรือกรณีมอบสิ่งของที่จัดซื้อโดยงบของรัฐแต่แนบนามบัตรส่วนตัวของนักการเมือง

ใช้งบของหน่วยงานรัฐเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ โดยมีภาพนายกฯ หรือรัฐมนตรีอย่างไม่เหมาะสมหรือจำเป็น เข้าลักษณะเบียดบังงบของรัฐเพื่อโฆษณาตนเอง

- การบริหารงานที่ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ ไม่สามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อน ตอบสนองประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง เช่น โครงการใหญ่ๆ ของกระทรวงคมนาคม พาณิชย์ และมหาดไทย

รวมถึงปัญหาข้อสงสัยการชนะประมูลในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ โดยบริษัทเอกชนบางรายที่มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบุคคลที่มีอิทธิพลหรือมีบารมีทางการเมืองในพรรครัฐบาล

- แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไม่ทันต่อเหตุ การณ์ เช่น ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการช่วยเหลือของฝ่ายเอกชนและสื่อมวลชน