ที่มา มติชน
รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 มกราคม แจ้งว่า นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้รายงานให้ที่ประชุม ครม.รับทราบ กรณีที่ 7 คนไทยถูกทางการกัมพูชาจับตัวในข้อหารุกล้ำเขตแดน โดยใช้เวลาในการชี้แจงกว่า 20 นาที โดยนายกษิตรายงานว่า ได้พยายามคุยกับรัฐบาลกัมพูชาแล้วว่า ข้อปฏิบัติในกรณีนี้ให้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า ในกรณีที่มีการล้ำเขตแดน ให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ประสานงานกัน เพราะไม่อยากให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
"แต่ในกรณีนี้ทางการกัมพูชาคงโกรธนายวีระ สมความคิด แกนนำกลุ่มประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ที่เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวมา 3 ครั้งแล้ว จึงเข้าไปจับกุม เพื่อนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การกระทำของคณะคนไทยถือเป็นการกระทำที่อ่อนหัด ไม่รู้กระบวนการของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม วันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาไปแล้วครั้งหนึ่ง คาดว่าภายใน 1-2 วัน ศาลจะตัดสินอีกครั้งหนึ่ง ถ้ายังไม่มีการตัดสิน เราจะทบทวนความสัมพันธ์" แหล่งข่าวอ้างคำพูดนายกษิต
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายกษิตรายงานว่าจากการเข้าไปตรวจสอบของกรมแผนที่ทหารในพื้นที่ที่ 7 คนไทยถูกจับกุม หากวัดตามระบบของกัมพูชาจะเข้าไปในพื้นที่ของกัมพูชา 40-50 เมตร แต่ถ้ายึดตามแนวสันปันน้ำตามแบบไทยจะล้ำเข้าไปในพื้นที่กัมพูชา 8 เมตร ทั้งนี้ ยังมีพื้นที่ทับซ้อนที่ยังมีความเข้าใจไม่ตรงกันอีก 15 จุด เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว
วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงที่ทำเนียบรัฐบาลถึงผลการหารือใน ครม. กรณีที่นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และคณะรวม 7 คนถูกทหารกัมพูชาจับกุมตัวเนื่องจากเดินทางเข้าไปลุกล้ำดินแดนกัมพูชาว่า ในที่ประชุม ครม. นายกษิต ได้รายงานสถานการณ์ และระบุว่าภารกิจของรัฐบาลขณะนี้คือ ต้องให้ความช่วยเหลือ 7 คนไทยให้มีโอกาสกลับประเทศโดยเร็วที่สุด โดยจะใช้การประสานงานทุกช่องทาง เพราะต้องการให้เรื่องนี้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ไม่ให้บานปลาย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดน หากไม่ไปยืดเยื้ออยู่ในกระบวนการยุติธรรมก็จะดีที่สุด และเราก็กำลังพยายามอยู่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้เคยชี้แจงไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ธันวาคมว่าได้มอบหมายนายพนิชให้ไปประสานงานกับกลุ่มคนที่มีความข้องใจเกี่ยวกับปัญหาไทย-กัมพูชา เพื่อลดความขัดแย้งในสังคมไทย ส่วนการลงพื้นที่นั้น เป็นเรื่องที่นายพนิช เคยรายงานให้ทราบว่ามีประชาชนเดือนร้อนเรื่องที่ทำกินบริเวณชายแดน ก็จะไปลงพื้นที่เพื่อดูแลเรื่องนี้ โดยวันที่นายพนิชเดินทางไปก็ยังบอกด้วยซ้ำว่าเดินทางไปปราจีนบุรี ไม่ใช่ไปสระแก้ว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับคลิปวีดีโอที่เผยแพร่ในอินเตอร์เน็ตนั้น ได้ดูแล้วแต่ยังไม่ใช่คลิปวีดีทั้งหมด เพราะในคลิปฉบับเต็มนั้นมีความยาว 20 กว่านาที ซึ่งนายกษิตได้รับมาจากทางการกัมพูชา อีกทั้งยังมีคลิปความยาว 4 นาทีกว่าๆ อยู่ในเว็บไซด์ยูทูปที่สามารถยืนยันได้ว่า ในคลิปนายพนิช ได้พูดว่ายังอยู่ในเขตไทย แล้วกำลังไปที่หลักหมุด 46 แต่มีคนไปโพสต์โดยตัดเหลือเพียงนาทีกว่าๆ ทำให้เกิดความสับสน
เมื่อถามว่า ในคลิปวีดีโอ นายพนิช ระบุว่ามีการแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบเพียงคนเดียว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมชี้แจงไปแล้ว" เมื่อถามย้ำว่าตกลงมีการรุกล้ำเข้าไปในกัมพูชาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า "ก็ต้องฟังคุณพนิชต่อ คลิปตัวเต็มนั้นอยู่ในยูทูป ต้องไปดูคลิปให้จบ" เมื่อถามว่า ทำไมนายพนิชถึงย้ำว่าต้องแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบเพียงคนเดียว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เพราะตอนที่นายพนิชจะไปก็มีรายงานให้ตนทราบ เพราะฉะนั้นถ้าเลขาฯ ของตนไปบอกกับคนอื่นก็ไม่รู้เรื่องว่ามันคืออะไร ก็ต้องแจ้งให้ตนทราบไม่เช่นนั้นจะไปแจ้งใคร
เมื่อถามว่าก่อนหน้าที่นายพนิชจะเดินทางไป ได้มีการชักชวนนายปานเทพ พัวพงศ์พันธุ์ และนายเทพมนตรี ลิปพยอม เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไปด้วย แสดงว่ารู้ล่วงหน้าว่าจะมีการรุกล้ำเขตแดนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายพนิช แจ้งให้ตนทราบเพียงว่าจะไป จ.ปราจีนบุรี ไปดูเรื่องที่ทำกิน ดังนั้นจะขอตอบแต่เฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับตน ไม่ขอวิจารณ์คนอื่นๆ
เมื่อถามว่า กำลังจะบอกว่า นายพนิชทำงานนอกเหนือคำสั่งของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์เลี่ยงที่จะตอบคำถามโดยอ้างงว่า จะขอไม่วิจารณ์ใคร เพียงแต่นายพนิช ต้องการไปรับฟังประเด็นที่กลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องอยู่ว่ามีอะไรบ้าง ตนไม่ต้องการให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย กระทบต่อความสัมพันธ์ นายพนิชจึงไปช่วยหาข้อมูล ซึ่งตนไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่มีการตกลงว่าจะไปลงพื้นที่ และมีการแจ้งว่าจะไป จ.ปราจีนบุรี
เมื่อถามว่าได้คุยกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาหรือยัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ยังครับ" เมื่อถามว่า ทำไมไม่คุยกับสมเด็จ ฮุน เซน โดยตรงเพื่อช่วยเหลือคณะคนไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่และผู้ประสานงานต่างๆ ก็ทำงานกันอยู่จึงไม่อยากให้เกิดความสับสน แต่ก็ยังไม่ขอพูดในรายละเอียดเพราะอยากให้การทำงานราบรื่นที่สุด เมื่อถามว่า จะประสานให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสมเด็จฯฮุน เซ็น ให้มาช่วยเหลือ 7 คนไทยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมไม่ทราบครับ"