ที่มา thaifreenews
โดย lovethai
ขอ“เบิ้ล”อีกเทอม
หลังจากเปิดโอกาสให้ ส.ส-ส.ว.อภิปรายน้ำลายแตกฟองมา 2วันเต็มๆ วันนี้ (25 พ.ย.) เป็นวันโหวตชี้ชะตาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 4 ฉบับติดต่อกัน
การลงมติจะใช้วิธีขานชื่อ ส.ส.-ส.ว. ทีละคนให้ออกเสียงอย่างเปิดเผยจนครบ 620 คน
กว่าจะขานชื่อ ส.ส. ส.ว. ลงมติครบ 4 ฉบับ คาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง
โดยจะโหวตเรียงตามลำดับเริ่มจาก ฉบับ คปพร. หรือ "ฉบับหมอเหวง" ซึ่งประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเจ็ดหมื่นหนึ่งพันคน เข้าชื่อเสนอแก้ไขให้กลับไปใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ทุกมาตรา
หวยล็อกออกมาแล้วว่าเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส.-ส.ว. จะไม่รับหลักการ
ต่อมาก็จะเป็นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ประเด็นที่เสนอโดย ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล 102 คน หรือที่เรียกสั้นๆว่า "ฉบับบรรหาร-เนวิน" ซึ่งเสนอแก้มาตรา 190 เกี่ยวกับการทำสัญญาข้อตกลงกับต่างประเทศ และแก้ไขกติกาเลือกตั้ง ส.ส. จากระบบแบ่งเขตเรียงเบอร์ กลับไปเป็นระบบเขตเดียวเบอร์เดียว 400 เขต 400 คน
"แม่ลูกจันทร์" คาดว่าผลการลงมติจะออกมาตามใบสั่ง คือไม่ผ่านความเห็นชอบตามฟอร์ม
ทีนี้ก็เหลือญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ อีก 2 ฉบับ ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีมีนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นโต้โผนำแสดง
ญัตติแรก เสนอแก้ไขมาตรา 190 เกี่ยวกับการทำสัญญากับต่างประเทศ รัฐบาลไม่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาทุกกรณี
ส่วนญัตติที่ 2 ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญคือ ขอแก้กติกาเลือกตั้ง ส.ส. จากระบบแบ่งเขตเรียงเบอร์ กลับไปใช้ระบบเขตเดียวเบอร์เดียว
โดยให้ลดจำนวน ส.ส.เขต จาก 400 คน ให้เหลือ 375 คน
ยกเลิกระบบ ส.ส.สัดส่วนกลุ่มจังหวัด กลับมาใช้ระบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ บัญชีเดียว
แต่มีรายการหมกเม็ดเพิ่มจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อจาก 80 คน เป็น 125 คน
"แม่ลูกจันทร์" ฟันธงว่าญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลทั้ง 2 ฉบับ จะผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาอย่างแหงแซะแบเบอร์
หรือได้เสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่ง หรือเกิน 310 คน ตามกติกา
โดยจะมีเสียง ส.ส.รัฐบาลโหวตเห็นชอบเต็มอัตราศึก 270 คน และจะได้เสียง ส.ว.ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลอีก 60 ถึง 70 คน
หมายฟามว่าเสียงสนับสนุนญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับของรัฐบาลจะได้เสียง 330 หรือ 340 เสียง จากทั้งหมด 620 เสียงแน่นอน!!
สรุปว่ายุทธการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยรัฐบาลเพื่อประโยชน์รัฐบาลผ่านสะดวกโยธิน
ทีนี้ก็มาถึงเบื้องหลังการถ่ายทำ
เพื่อตอบคำถามว่าเหตุใด "นายกฯอภิสิทธิ์" ถึงต้องรีบเร่งแก้กติกาเลือกตั้งอย่างอุตลุดชุลมุน
เหตุที่ต้องเร่งแก้ไขกติกาเลือกตั้ง ส.ส.ก็เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาลได้เปรียบพรรคเพื่อไทย ในศึกเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป 3 ประการคือ...
1, ระบบเขตใหญ่ทำให้พรรคเพื่อไทยกวาดเก้าอี้ ส.ส.ได้เป็นกอบเป็นกำ ถ้าแก้กติกากลับมาเป็นเขตเล็ก จะเปิดช่องให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเบียดแทรกง่ายขึ้นกว่าเดิม
2, การลดจำนวน ส.ส.เขต จาก 400 คน ให้เหลือ 375 คน ทำให้โควตา ส.ส.ภาคอีสาน และภาคเหนือ ซึ่งเป็นฐานใหญ่ของพรรคเพื่อไทยลดลงไปเกือบ 20 คน
ทำให้พรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสได้ ส.ส.มากกว่าพรรคเพื่อไทย
3, การเพิ่มจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อจาก 80 คน เป็น 125 คน ทำให้พรรคขนาดกลางๆ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้ส่วนแบ่งโควตา ส.ส.มากขึ้นอีกพอสมควร
นี่คือเหตุผลที่ "นายกฯอภิสิทธิ์" ต้องกลืนน้ำลายตัวเองขอแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่ถามประชามติประชาชน เพื่อจะกลับมาเป็นนายกฯเบิ้ลอีก 1 เทอม
เนี่ย...มันเป็นซะอย่างนี้แหละ ท่านประธาน.
แม่ลูกจันทร์
(ที่มา ไทยรัฐ , 25 พ.ย.2553)