ที่มา มติชน
จากกรณีที่มีรายงานแจ้งว่า การเดินทางไปที่ ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ของนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ เกิดจากมีหนังสือร้องเรียนเข้าไปยังสมณโพธิรักษ์ เจ้าสำนักสันติอโศก ว่า มีชาวกัมพูชารุกล้ำเข้ามาสร้างบ้านเรือนในเขตแดนไทยที่ จ.ปราจีนบุรี จึงมีการแจ้งไปยังนายพนิช ที่เป็นศิษย์สำนักสันติอโศก ในฐานะที่เป็นอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญความร่วมมือไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ให้เข้าไปตรวจสอบนั้น
สมณโพธิรักษ์ ให้สัมภาษณ์ "มติชน" ว่า ไม่ได้มีความเห็น แต่อาตมาได้รู้ความจริง ไม่ใช่สันติอโศกส่งไป เรื่องมีอยู่ว่านายพนิช ได้มาคุยที่สันติอโศก กับ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ในเรื่องที่ดินที่เป็นปัญหาของชาวบ้าน ก็ต้องไปดูกันให้ชัดเจนว่ามันปัญหาอย่างไร ทางนายพนิชก็บอกว่าพาไปได้หรือไม่ ทางเราก็ตอบไปว่าพาไปได้ ถ้าอยากไป
เจ้าสำนักสันติอโศกกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นนายพนิชกับคณะก็หายไปพักใหญ่ ไม่นานก่อนวันที่ 29 ธันวาคม 2553 ก็ติดต่อมาอีกว่าให้พาไปได้หรือไม่ ทางลูกศิษย์ก็มาบอกว่า นายพนิชติดต่อให้พาไป จึงบอกว่าอยากจะไปก็ไป และตอนแรกนั้นนายวีระ สมความคิด ไม่รู้เรื่องที่จะไปกัน แต่มารู้เรื่องที่หลังก็มีการชวนกันไปด้วย เพราะก่อนหน้านี้นายวีระเคยไปมาแล้ว ทั้งนี้ นายวีระเองเคยมาที่สันติอโศก เหมือนชาวบ้านทั่วไปที่มาศึกษาธรรมะ ส่วนนางนฤมล (จิตรวะรัตนา) อาตมาไม่ค่อยจะรู้จัก ส่วน น.ส.ราตรี (พิพัฒนาไพบูรณ์) รู้จักกับนายวีระ
"สันติอโศกจะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้อง เราเป็นคนไทยอยากจะพิสูจน์ความจริงว่ามันเป็นอย่างไรตรงที่ที่มีปัญหากันอยู่ ก็รู้อยู่แล้วว่าตอนนี้เราจะเสียแผ่นดิน ซึ่งในเรื่องนี้สันติอโศกก็พยายามออกข่าวและพยายามที่จะต่อสู้อยู่ และเรื่องที่จะมีความคิดอย่างโน้นอย่างนี้ไม่ใช่ ก็บอกจะไปดูที่ดินที่มีปัญหาก็พาไปได้ ยิ่งคนที่อยู่ในรัฐบาลมารับรู้ยิ่งดีใหญ่เลย" สมณโพธิรักษ์กล่าว