ที่มา มติชน
รับชมรายละเอียดและข่าว VDO คลิ้ก มติชน
ศิริกร มณีรินทร์
สำนักงาน บริษัท ไอคิวดี ต้นความรู้
ประมวลภาพ การพาไปซัมเมอร์แคมป์ - ทัวร์การศึกษาต่อปริญญาโท
คณะทัวร์การศึกษาของ ดร.สิริกร เมื่อช่วง ต.ค. 53 ที่ประเทศอังกฤษ
มหาวิทยาลัยชั้นนำในอังกฤษ
คณะทัวร์การศึกษาของ ดร.สิริกร เมื่อช่วง ต.ค. 53 ที่ประเทศอังกฤษ
คณะทัวร์การศึกษาของ ดร.สิริกร เมื่อช่วง ต.ค. 53 ที่ประเทศอังกฤษ
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัจจุบัน การศึกษากลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิตไปแล้ว นอกเหนือจากความจำเป็น ด้านที่อยู่อาศัย อาหารเครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค ซึ่งมีบทบาทความจำเป็นในการช่วยแก้ปัญหาทุก ๆ ด้านของชีวิตท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ด้วยการศึกษาสร้างคนให้มีความรู้ ความสามารถ มีทักษะพื้นฐานที่จำเป็น พร้อมต่อสู้เพื่อตนเองและสังคม ในการประกอบการงานอาชีพ ช่วยให้คนเจริญงอกงาม ทั้งทางปัญญา จิตใจ ร่างกาย และสังคม จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นประชากร เกินกว่าครึ่งหนึ่งทั้งหมดของโลก ต่างมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับผู้ที่เคยทำงานด้านการศึกษามาก่อน...
ดร.สิริกร มณีรินทร์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเมื่อครั้งยุครัฐบาลทักษิณ ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่เห็นความสำคัญของการศึกษา หลังจากถูกคำสั่งศาลให้เว้นวรรคงานทางการเมือง เป็นเวลา 5 ปี จากกรณียุบพรรคไทยรักไทย เมื่อ พ.ศ. 2550 ก็ไม่ได้ทำให้อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หยุดนิ่งเรื่องการศึกษา โดยในวันนี้ เธอพร้อมเพื่อนๆ ได้ร่วมกันเปิดโรงเรียนสอนภาษา ชื่อ ต้นความรู้ ไอคิวดี
"อยากจะให้เด็กเติบโตและงอกงามเรื่องความรู้ และปัญญา เน้นภาษาอังกฤษให้กับเด็กและครูไทย แต่ในช่วงเวลาปีแรกเนี่ยเราก็จะมีกำลังและเวลาเน้นให้เด็กก่อน โดยเราจะแบ่งสายงานของเราออกเป็น 3 ด้าน ด้านแรกช่วยเด็กให้มีความเข้าใจในการสอบ ไอเอล โทเฟล หรือว่า ซียู แอด หรือแม้กระทั่งสมาร์ท วัน ต่างๆได้ อยากให้เด็กสนใจใกล้ชิดและมีคุณภาพ ทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษเนี่ยเป็นสิ่งที่จะต้องใช้เวลาพิจารณาและเอาใจใส่ จี้จุดที่อ่อนและเติมเต็มในสิ่งที่เขาขาด โดยเฉพาะการไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูด เขียนได้ดี"
ส่วนธุรกิจอีกหนึ่งอย่าง ที่ ดร.สิริกร กำลังดำเนินการไปได้สวย คือ เรื่องของการแนะแนวการศึกษาต่อ และการจัดทัวร์การศึกษาซึ่งเน้นพาคณะพ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ไปดูที่เรียนในระดับมหาวิทยาลัยชั้นนำที่เรียนอังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ด้วยความต้องการช่วยเหลือเด็กให้ไปเรียนรู้วัฒนธรรมของโลกตะวันตก ซึ่งจะมีการจัดค่ายซัมเมอร์ไปเรียนภาษา พาไปเที่ยวเพื่อการศึกษาในจุดที่ควรจะไป เช่น อิมพีเรียล คอเลจ , รอยอล ฮอร์ลเวย์ เค็นช์ ของอังกฤษ ซึ่งจะเริ่มพาไปวันที่ 27 มี.ค. นี้ ส่วนเดือน เมษายน ก็จะพาอีกคณะหนึ่งไปดูที่ อเมริกา เช่น ลอสเองเจลิส และซานฟรานซิสโก หลังประสบความสำเร็จจากการพาไปทัวร์ เมื่อเดือนตุลาคม ปี2553ที่ผ่านมา ซึ่งมีทางมหาวิทยาลัยต่าง ๆเหล่านั้นติดคต่อกลับ และการจัดซัมเมอร์แคมป์ เมื่อช่วงต้นปีเดียวกัน
"การได้พบผู้รับสมัครได้รับการสัมภาษณ์ และเอาเอกสารไปด้วยตัวเองมันช่วยได้มาก และพ่อแม่ผู้ปกครองจะได้ดูว่าที่อยู่ที่กินอย่างนี้ถูกใจไหม ปลอดภัยไหม ค่าใช้จ่ายอย่างนี้รับได้ไหม ส่วนใหญ่เห็นเป็นครอบครัวและในทริปนี้ตั้งใจจะพาไปเองและใช้ประสบการณ์จากที่เคยดูแลลูกๆ ที่เคยไปเรียนต่อต่างประเทศ ไปแนะนำว่า ควรจะไปดูที่ไหน ห้องนอนหอพัก จะกินยังไง อยุ่ยังไง การเดินทาง ค่าใช้จ่าย"
และในปี 2554 นี้ ทางคณะทัวร์ของ ดร.สิริกร ก็ตั้งใจจะไปดูมหาวิทยาลัยที่สอนหลักสูตรนานาชาติ ที่สาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย ซึ่งขอบอกว่า ตอนนี้ผู้สนใจร่วมคณะทัวร์ยังไม่เต็ม แต่ด้วยการจัดแบบคุณภาพเลยเน้นจำนวนจำกัด
"สิ่งที่เราต่างจากทัวร์อื่นก็คือกลุ่มเล็กแล้วก็ดูแลและคัดสรรในสิ่งที่ดีที่สุดเข้ามาให้ไม่ว่าจะเป็นที่เรียน เช่น ซัมเมอร์แคมป์ ในระยะเวลา 4 สัปดาห์ เป็นโรงเรียนปลอดภัย กลุ่มเล็ก อย่างเช่น เมืองนอร์ทติงแฮม เป็นเมืองโรบินฮูด โรงเรียนที่ไปเขาจะให้โปรเจ็คมาเลยว่า วีรบุรุษของไทยและวีรบุรุษของเมืองนอร์ทติงแฮม เพราะฉะนั้นก่อนเด็กไปเราจะต้องไปติวเด็กว่า วีรบุรุษของไทยเรานั้นมีใคร เช่น นายจันทร์หนวดเขี้ยว หรือเป็นพระเจ้าตากสิน หรือ รัชกาลที่ 1 เป็นต้น ไม่ใช่ไปเรียนรู้ภาษา หรือแกรมม่า หรือในห้องเรียนเท่านั้นแต่จะมีโปรเจ็คให้ทำให้ไปอยู่กับคนในเมืองนอทร์ติงแฮมให้ไปสัมภาษณ์ความรู้สึกของเขาที่เกี่ยวกับโรบินฮูด แล้วมานำเสนอเป็นรายงานแบบมัลติมีเดีย มี Portfolio ที่ดูดีมีคุณค่า เพราะมาจากสมองของเขาเอง นอกจากนั้นเราพาไปเที่ยวที่เที่ยวก็คัดสรรค์อย่างดี นี่คือความต่างของค่ายซัมเมอร์ของเรา เราจัดค่ายซัมเมอร์ที่มีคุณภาพไม่ใช่โรงเรียนประเภทห้องแถวธรรมดา ซึ่งที่พักอาศัยก็อยู่ homestay มีพี่เลี้ยงดูแล" อดีตรมช.ศึกษาธิการ อธิบาย
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายทัวร์การศึกษาที่หลายคนสงสัย นั้นก็ไม่สูงอย่างที่คิด ดร.สิริกร บอกว่า เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ล้านกว่าบาทเนี่ยก็อยู่ได้ทั้งกินอยู่และค่าเล่าเรียน
เห็นได้ว่า การเรียนภาษาที่ 2 และ 3 เพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นไปแล้วสำหรับโลกโลกาภิวัตน์ ทุกที่ทุกมุมโลกสามารถติดต่อเชื่อมโยงถึงกันได้แบบไร้ขอบเขต โดยเฉพาะภาษาอังกษที่สื่อสารเป็นสากลทั่วโลก ซึ่งตรงจุดนี้ ดร.สิริกรเห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญ หากเริ่มจากที่ตัวพ่อแม่เอง หากไม่ต้องการเสียสะตุ้งสตางค์ลงทุนส่งพวกเขาข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนกับประเทศเจ้าของภาษา หรือเรียนในสถาบันที่สอนด้วยหลักสูตรอินเตอร์
"ซื้อหนังสือให้ลูกมาอ่านเป็นประจำ แล้วอ่านให้ลูกฟัง ตั้งแต่เล็กเลย พาไปที่ประเทืองปัญญาเป็นระยะๆ บางทีสิ่งที่ตัวเองพูดอาจเป็นสิ่งดัดจริตว่าต้องพาลูกไปเรียนเมืองนอกแต่ถ้าถามว่า ถ้าเรียนเมืองไทยแล้วให้ความสนใจกับภาษาอังกฤษเป็นประจำเช่น ดูหนังที่พูดภาษาอังกฤษ ไม่ใช่หนังพากษ์ อ่านหนังสือ ฟัง BBC ทำพวกนี้เป็นประจำ เคร่งจนภาษาอังกฤษได้ระดับนึง เพราะเราได้ภาษาเดียวนี่คงไปไม่รอดแล้ว จริงแล้วหลักสูตรของในประเทศสิงค์โปรต้องรู้ 3 ภาษาไปถึง 4 ภาษาแล้ว คือมีภาษาจีนมาอีกภาษาหนึ่ง อย่างของไทยนี่ขอไทยอังกฤษให้แข็ง ถ้าขยับขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งให้ได้ภาษาเพื่อนบ้านคือ ภาษาจีนอีกภาษาหนึ่งก็จะสุดยอด แต่ภาษาอังกฤษมันเป็นอีกภาษาหนึ่งที่เลี่ยงไม่ได้แล้วในโลกปัจจุบันนี้"
สนใจรับทราบข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษาต่อ หรือ เรียนพิเศษทางด้านภาษาได้ที่ www.iqd-knowledgetree.com