ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
จากกรณีมีผู้นำคลิปเหตุการณ์
ขณะที่คณะของ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ เดินจากฝั่งไทยข้ามไปยังเขตกัมพูชา จนทำให้ถูกทหาร กัมพูชาจับกุม มาเผยแพร่ทางยูทูบ
ถ้าใครได้ดูจะพบมีอยู่ 3 ประเด็นสำคัญ คือ
นายพนิชและคณะรู้ดีว่าพื้นที่นั้นอยู่ในเขตกัมพูชา ทั้งยังรู้ว่าถ้าเดินล้ำเข้าไปจะต้องถูกทหารกัมพูชาจับกุม
ในคลิปยังมีเสียงนายพนิช พูดโทรศัพท์กับคนชื่อ 'คิว' ให้แจ้งคนชื่อ 'สมเกียรติ' เลขานุการส่วนตัวของนายกฯ ว่าแจ้งให้นายกฯ ทราบเผื่อมีอะไรจะได้ประสานได้
ทั้งยังกำชับไม่ให้บอกใคร "เพราะนายกฯ รู้เรื่องนี้คนเดียว"
คาดว่าคลิปเดียวกันนี้เองที่กัมพูชานำมาเปิดให้นายกษิต ภิรมย์ ดูในวันบินไปพบนายฮอร์ นัมฮง รมต.ต่างประเทศกัมพูชา เพื่อเจรจาช่วยเหลือ 7 คนไทย
และเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยอมรับว่าทำให้ไทยตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
แม้จะมีความพยายามจากรัฐบาลในการอ้างว่าคณะส.ส.ไทยพลัดหลงเข้าไปโดยไม่มีเจตนารุกล้ำเขตแดน
แต่กับคลิปภาพและเสียงที่เผยแพร่ออกมานั้น เป็นสิ่งบ่งชัดว่านายพนิชและคณะมีเจตนาหรือไม่มี
เข้าใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความลำบากใจให้นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างมากทั้งในฐานะผู้นำรัฐบาลและในฐานะผู้ถูกพาดพิง
จะยอมรับว่าจริงตัวเองก็เสียหาย ถ้าปฏิเสธก็เหมือนกับลอยแพ
แล้วก็เป็นอย่างที่คาด นายกฯ อภิสิทธิ์ ชี้แจงเรื่องนี้แบบ 'ภาคเสธ' หรือการปฏิเสธแบบกึ่งยอมรับ
คือรู้แต่เพียงว่านายพนิช จะเดินทางเข้าไปในพื้นที่แนวชายแดน แต่ไม่รู้ว่าเดินทางเข้าไปในบริเวณใด อีกทั้งคลิปที่มีการนำมาเผยแพร่ก็ตัดตอนมาเพียงส่วนเดียว ไม่ใช่เหตุการณ์ทั้งหมด
คำแก้ต่างของนายกฯ อภิสิทธิ์ดังกล่าวใครจะเชื่อหรือไม่ ถือเป็นวิจารณญาณของแต่ละคน
แต่ที่หลายคนเป็นห่วงคือเรื่องส.ส.ไทยรุกล้ำเขตแดนกัมพูชาจนถูกจับกุมครั้งนี้
ไม่น่าเป็นผลดีต่อการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ในอีก 6 เดือนข้างหน้า ที่บาห์เรน
ซึ่งไทยกับกัมพูชายังต้องถกเถียงกันต่อในประเด็นพื้นที่รอบปราสาทเขาพระวิหาร
อย่างแน่นอน