ที่มา thaifreenews
โดย Yang Wenli
คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง ทัศนะใคร
โดย กาหลิบ
หลัก ฐานที่มัดตัว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้ากับแผนยั่วยุกัมพูชา จนข้าช่วงใช้ทั้งหลายถูกจับกุมตัวเรียบหมด ๗ คนนั้น เอาเข้าจริงยังสำคัญน้อยกว่าทัศนะของนายอภิสิทธิ์ฯ ที่แสดงออกอย่างชัดเจนในคลิปที่น่าสนใจนี้
การแอบมอบหมาย นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ซึ่งเป็น ส.ส. พรรคตนให้เดินทางไปปฏิบัติงานลับโดยไม่แจ้งให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องได้ รับรู้ และไม่ยอมปริปากใดๆ กับผู้ร่วมรับผิดชอบในคณะรัฐมนตรีและฝ่ายการเมืองได้ทราบเลยนั้น เป็นสิ่งส่อแสดงว่านายอภิสิทธิ์ฯ รับงานเรื่องนี้มาจากผู้มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ หรือคนที่ชาวบ้านตาสว่างเขาเรียกกันว่า “มือที่มองไม่เห็น” นั่นเอง
มือ หรือตีนที่ (นึกว่าคนเขา) มองไม่เห็นนี้ มีทัศนะที่น่าตกใจเกี่ยวกับการดำรงของประเทศไทยในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์หรือ อุษาคเนย์มานาน เหตุการณ์ไร้สาระล่าสุดนี้ ความจริงก็ยืนยันถึงสันดานอันต่อเนื่องนี้ได้เป็นอย่างดี แถมยังโยงมาถึงพฤติกรรมเลวร้ายอย่างสม่ำเสมอที่เขากระทำต่อคนไทยด้วยกัน
คนๆ นี้เชื่อว่าเมืองไทยที่เขานึกว่าเขาครอบครองอยู่แต่เพียงผู้เดียวนั้น จะเจริญก้าวหน้าโดดเด่นได้ก็ต่อเมื่อเพื่อนบ้านรอบทิศเขาตกต่ำ ยากจน และเต็มไปด้วยความขัดแย้งจนโงหัวไม่ขึ้น
เมื่อใดที่เพื่อนบ้านรอบไทย ไม่ว่าจะเป็นพม่า มาเลเซีย ลาว และกัมพูชา และแม้กระทั่งเวียดนามที่มิได้มีพรมแดนติดต่อกัน เกิดสันติภาพและเตรียมพัฒนาตัวเองให้หลุดจากความล้าหลัง จะพบว่าคนใหญ่ของเมืองไทยกลับทำทุกอย่างที่จะให้เขากลับเข้าสู่วงจรอุบาทว์ แห่งความโง่ จน เจ็บ เหมือนกับตัวทำกับคนไทยครึ่งค่อนประเทศมาตลอดระยะเวลาแห่งการครองชาติ
ใน กรณีพม่านั้น ก็ถึงขนาดให้ทหารไทยปลอมตัวเป็นกองกำลังไทยใหญ่ แอบโจมตีจนทหารพม่าเขาล้มตายไปเป็นร้อย เพราะความเกลียดชังมาแต่ครั้งประวัติศาสตร์ที่โคตรตระกูลของตัวเองถูกฝ่าย เขาโค่นอำนาจลงด้วยความโง่
ลาวนั้นเจ็บหลายแบบ ทั้งส่งทหารรับจ้างสัญชาติไทยเข้าไปโค่นรัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์ที่ได้ อำนาจมาด้วยการปฏิวัติของประชาชนและพยายามยึดครองดินแดนของเขาด้วยกำลัง
มาเลเซียก็โดนทั้งเรื่องดินแดน การขนส่งสินค้าผิดกฎหมายข้ามประเทศ และอื่นๆ
กัมพูชา นั้นเรียกว่าถูกรางวัลที่ ๑ มาตลอด คนๆ นี้เกลียดชังกัมพูชามาแต่ครั้งที่เขาเป็นคนหนุ่มและเจ้าชีวิตของกัมพูชาก็ ยังอยู่ในวัยคะนอง การขับเคี่ยวแข่งขันของเด็กเสียคนสองคน ความขี้อิจฉาริษยาอย่างหนักของฝ่ายไทย และการแข่งขันระหว่างประเทศ ทำให้ผู้มีอำนาจไทยเข้าไปแทรกแซงจนความขัดแย้งระหว่างกลุ่มอำนาจและสายที่ ต่างกันทางอุดมการณ์ระเบิดขึ้นเป็นสงครามกลางเมืองยืดเยื้อยาวนานและทำลาย โอกาสของกัมพูชามากว่าสามทศวรรษ และทำให้ไม่อาจหลุดพ้นจากวงจรอันยากลำบากทางเศรษฐกิจมาจนถึงทุกวันนี้
การ หาเรื่อง เรื่องปราสาทและดินแดน ทั้งๆ ที่ผู้เกี่ยวข้องเขากำลังแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบและเป็นทางการอยู่ เป็นเครื่องชี้ว่าผู้มีอำนาจไทยมีวิสัยและทัศนะที่เป็นอันธพาล พร้อมจะกวนน้ำให้ขุ่นและปลุกเร้าลัทธิคลั่งชาติมาเป็นเครื่องมือของตัวเอง ตลอดเวลา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สนิทกับใคร ใครแสดงตัวว่ารักใคร่และพร้อมอุปถัมภ์ เราก็รู้อยู่แก่ใจจากการแสดงออกบ่อยครั้งผ่านข่าวของรัฐทุกช่อง ไม่ต้องเสียเวลาปฏิเสธ และไม่ต้องมาอ้อนวอนให้เห็นใจคนแก่
คงเสี้ยม สอนกันมาแล้วสิว่า การจะครอบครองประเทศไทยให้เบ็ดเสร็จสมบูรณ์ นายอภิสิทธิ์ฯ จะต้องทำลายความสำเร็จและโอกาสก้าวหน้าของประเทศเพื่อนบ้านในทุกเวลาที่ทำ ได้
ทำแล้วผู้อุปถัมภ์ที่นั่งสั่งฆ่าคนอย่างเลือดเย็นอยู่บนที่สูงคง จะพึงพอใจ เติมคะแนนให้กับคนรับใช้ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แผนการยั่วยุกัมพูชาจึงได้เกิดขึ้น
เวรกรรมคงมีจริง อุตส่าห์อำพรางตัวเองว่าฉลาดเลิศคนมาหลายปี มาบัดนี้ทำอะไรก็หลุดก็รั่วไปหมด ราวกับไฟธาตุใกล้จะแตก
พอแผนแตกคาที่อย่างนี้แล้ว ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
ซัวสะเดยสิครับงานนี้.