WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, January 5, 2011

ชวน "จอดับ" ต้านกฎหมายคุมสื่อของฮังการี

ที่มา ประชาไท

"แบล็กเอาท์ฟอร์ฮังการี" กลุ่มพลเมืองเน็ตชวนสื่อออนไลน์ในฮังการีและที่ต่างๆ ต้านการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต ด้วยเปลี่ยนหน้าจอเป็นสีดำ ในวันที่ 5 ม.ค. เป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับการออกกฎหมายควบคุมสื่อฉบับใหม่ของฮังการี

4 ม.ค. 54 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ รัฐบาลอนุรักษ์นิยมของฮังการีได้ผ่านกฎหมายฉบับดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2553 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม ปีนี้ (2554) กฎหมายนี้ได้เพิ่มอำนาจของรัฐบาลในการเฝ้าระวังและลงโทษสื่อเอกชน โดยให้อำนาจแก่คณะกรรมการกำกับสื่อซึ่งแต่งตั้งขึ้นใหม่โดยนายกรัฐมนตรี ในการลงโทษปรับสื่อสารมวลชนที่รายงานข่าว "ไม่สมดุล" (unbalanced) ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

โดยสื่อโทรทัศน์อาจถูกปรับเป็นเงินสูงถึง 950,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากละเมิดกฎหมายดังกล่าว ขณะที่หนังสือพิมพ์รายวันและเว็บไซต์ข่าวอาจถูกปรับสูงถึง 119,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าปรับของสิ่งพิมพ์รายสัปดาห์และรายเดือนก็อาจสูงถึง 48,000 ดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ คณะกรรมการนี้ยังสามารถตรวจสอบสื่อและบังคับให้ผู้สื่อข่าวเปิดเผยชื่อแหล่งข่าวได้ด้วยในกรณีที่เชื่อว่าเข้าข่ายภัยต่อความมั่นคงของชาติ

ข้อมูลจากเว็บของกลุ่ม "แบล็กเอาท์ฟอร์ฮังการี" วิจารณ์ว่า กฎหมายฉบับนี้ทำให้พรรคที่ครองเสียงข้างมากสามารถควบคุมอินเทอร์เน็ตผ่านการตั้งองค์กรเซ็นเซอร์ใหม่ขึ้น โดยนอกจากทำลายกลไกการปกป้องแหล่งข่าวแล้ว กฎหมายฉบับนี้ยังไม่แยกแยะความแตกต่างของสื่อประเภทต่างๆ โดยจับเอาพื้นที่ออนไลน์และสื่อทีวีวิทยุที่มีมาแต่เดิมรวมกัน และทำให้สื่อทั้งหมดต้องอยู่ในมาตรฐานแบบเดียวกัน

กลุ่ม "แบล็กเอาท์ฟอร์ฮังการี" ยังระบุด้วยว่า พรรคเสียงข้างมากของฮังการีจงใจหลีกเลี่ยงการรับฟังความเห็นของสาธารณะต่อกฎหมายฉบับนี้ นี่ทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการควบคุมและเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต โดยหลีกเลี่ยงกระบวนการทางประชาธิปไตย กดขี่เสียงที่เห็นต่าง ฝ่ายตรงข้ามและไม่มีความโปร่งใส

กลุ่ม "แบล็กเอาท์ฟอร์ฮังการี" ระบุว่า ในโอกาสที่ประเทศฮังการีจะรับตำแหน่งประธานคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปในวันที่ 6 มกราคมนี้ ทางกลุ่มจึงเชิญชวนให้พลเมืองในฮังการีและที่ต่างๆ ซึ่งห่วงใยในประเด็นสิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพ ในการแสดงความเห็น ร่วมกันเปลี่ยนหน้าจอเป็นสีดำ หรือแสดงข้อความภาพ (ดูภาพประกอบ) เพื่อต่อต้านกฎหมายเผด็จการนี้ ในวันที่ 5 มกราคมนี้ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง

ข้อความภาพอธิบายถึงเหตุผลในการรณรงค์ "จอดับ" โดยมีคำแปลดังนี้

จอดับเพื่อฮังการี

วันที่ 21 ธันวาคม พรรคเสียงข้างมากในสภาได้โหวตรับกฎหมายสื่อฉบับใหม่ซึ่งเป็นกฎหมายที่รวมการกดขี่บังคับสื่อมากที่สุด และเป็นกฎหมายที่ไม่เป็นประชาธิปไตยที่สุดในภูมิภาคยุโรป

เพื่อร่วมแสดงออกถึงความห่วงใยต่อสิทธิพื้นฐานและเสรีภาพในการพูด สื่อออนไลน์ในฮังการีและประเทศอื่นๆ พร้อมใจกันจอดับตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2554 นาน 24 ชม.

ด้านนางแองเจลา เมอร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีแสดงความไม่เห็นด้วยต่อกฎหมายใหม่นี้ โดยโฆษกของเธอระบุว่า ในฐานะของประเทศที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งประธานคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ฮังการีมีหน้าที่จะต้องรับผิดชอบต่อภาพลักษณ์ของสหภาพยุโรป

ขณะที่นายฌอง อัสเซลบอร์น รัฐมนตรีต่างประเทศของลักเซมเบิร์ก ตั้งคำถามต่อความพร้อมของฮังการีในการเป็นตัวแทนของสหภาพยุโรป "เห็นได้ชัดว่าแผนการนี้ขัดต่อเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาต่างๆ ของสหภาพยุโรป"

ด้านองค์การว่าด้วยความมั่นคง และความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Cooperation in Europe หรือ OSCE) แสดงความเห็นว่า การออกกฎหมายฉบับนี้ละเมิดบรรทัดฐานของ OSCE เรื่องเสรีภาพของสื่อและเป็นการคุกคามความเป็นอิสระของกองบรรณาธิการ

แปลและเรียบเรียงจาก

Blackout for Hungary
http://blackout4hungary.net

Hungarian press law fuels EU concerns
http://online.wsj.com/article/SB40001424052748704774604576035681357321692.html

Hungary Waves Off Criticism Over Media Law
https://www.nytimes.com/2010/12/26/world/europe/26hungary.html