ที่มา ประชาไท
"ในประเทศที่มีแต่ละคร เราถูกสอนว่าตัวละครที่ติดเพชรแวววาว นั่งอยู่บนตั่งสูง ทุกคนประนมกรกราบไหว้ชาบู คือตัวละครพระราชา .."
ในประเทศที่มีแต่ละคร
เราถูกสอนว่าตัวละครที่ติดเพชรแวววาว
นั่งอยู่บนตั่งสูง
ทุกคนประนมกรกราบไหว้ชาบู
คือตัวละครพระราชา
ในประเทศที่มีแต่ละคร
ตัวละครพระราชา
มักจะมีแต่บทพูดจาสั่งสอนตัวละครอื่น
กระทั่งเรื่องที่ตัวเองทำไม่ได้
และไร้บทให้ตัวละครอื่นถาม
ในประเทศที่มีแต่ละคร
แม้จะชั่วช้าสามานย์
หากคุณรับบทพระราชา
ก็ไม่มีใครเกริมเหิม
ทุกคนล้วนแซ่ซ้องสรรเสริญตามบท
ในประเทศที่มีแต่ละคร
ตัวละครพระราชามักจะรวยอย่างไร้เหตุผล
ไม่ต้องทำมาหากิน
มีที่ดินจำนวนมาก
และเก็บเบี้ยบาทจากทาสไพร่
ในประเทศที่มีแต่ละคร
เมีย ลูกสาว ลูกสะใภ้พระราชา
มีไว้ประดับบารมี
บทบาทเพียงเพื่อสร้างสำราญผู้ชม
ในฉากตบตีว่าหมาใครน่ารักกว่ากัน
ในประเทศที่มีแต่ละคร
แม้จะมากทรัพย์สฤงคารมหาศาล
แต่ไม่เคยพอแบ่งให้ลูกหลาน
ตัวละครพระราชามักจะตรอมใจ
เฝ้าดูลูกหลานห้ำหั่นฟันฆ่ากันและกัน
ในประเทศที่มีแต่ละคร
ตัวละครพระราชา
ตรวจสอบความรักของไพร่ทาส
ด้วยการก่อสงครามกับรอบข้าง
แล้วใช้ไพร่ทาสให้ไปตายแทน
ในประเทศที่มีแต่ละคร
ตัวละครทหารเอกชำนาญศึก
มักจะมีสัมพันธ์ล้ำลึก
กับมเหสีแลสนมของพระราชา
ทิ้งให้พระองค์อยู่เหย้าอย่างเดียวดาย
ละครในประเทศที่เจริญแล้ว
ตัวละครพระราชามักน่าหัวร่อ
สะท้อนข้อบกพร่องของสังคม
น่าแปลก...พระราชาเหล่านั้นมักไม่ตายดี
แฮมเล็ต แม็คเบธ ริชาร์ด หลุยส์ ไกเซอร์ ซาร์ ฯลฯ
ละครในประเทศที่เจริญแล้ว
ไม่มีใครอยากเขียนบทพระราชาขึ้นมาใหม่
ไม่มีใครอยากรับบทพระราชาน่าหัวร่อ
เพราะยากที่จะเล่นให้ผู้ชมเชื่อตาม
พระราชาเป็นเพียงบทที่นำมาปัดฝุ่น ไม่ก็หลงยุคทะลุเวลา
ละครในประเทศที่เจริญแล้ว
ตัวละครสามัญชนรวยจนชั่วดี
ครอบครัวร้างรามีสุข
หรือตกทุกข์ได้ยาก
ต่างมีที่มาที่ไป
ในประเทศที่มีแต่ละคร
ร้างไร้ผู้คนบนท้องถนน
ละครขับกล่อมสังคม ให้ลืมความโสมมของชีวิต
เฝ้าลุ้นให้ข่าวฆ่าฟันรายงานจบสิ้น
จะได้เต็มอิ่มกับโลกในละคร.