ที่มา มติชน
(ที่มา หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 3 มีนาคม 2554)
การปล่อยตัวชั่วคราว 7 แกนนำเสื้อแดง ประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายนิสิต สินธุไพร นายขวัญชัย ไพรพนา นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย และ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ แม้จะถูกมองเป็นเรื่องของการปรองดองสมานฉันท์เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง
แต่การปล่อยตัวของ 7 แกนนำเสื้อแดงครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะหน่วยข่าวไม่อาจนอนใจได้ การติดตามข้อมูลความเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆ ยังคงต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันที่ 7 แกนนำเสื้อแดงได้รับอิสรภาพ กลุ่มคนเสื้อแดงร่วมครึ่งหมื่นเดินทางมาถึงหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯหลังรับทราบคำสั่งศาลเพียงไม่นาน เพื่อคอยต้อนรับและร่วมแสดงความยินดีกับอิสรภาพครั้งนี้
บ่งบอกว่าแกนนำเสื้อแดง 7 คนนี้เป็นแม่เหล็กดึงพลังมวลชนได้อย่างดี และการแจ้งข้อมูลข่าวสารของกลุ่มคนเสื้อแดงทำได้รวดเร็วมาก!
ต่อมาวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 7 แกนนำเสื้อแดงพร้อมนางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธาน นปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา เดินทางไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต 91 ศพ จากเหตุสลายการชุมนุมทางการเมืองเมื่อเมษายนถึงพฤษภาคม 2553 ที่วัดปทุมวนารามฯ ซึ่งหน่วยข่าวนับยอดกลุ่มเสื้อแดงที่มาร่วมงานบุญครั้งนี้ 1,000 กว่าคน เรียกว่ามากันแน่นวัด
จากการประชุมของหน่วยงานด้านความมั่นคงและการข่าว อาทิ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) สำนักข่าวกรองแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ฯลฯ ซึ่งนัดประชุมประเมินสถานการณ์ทุกวัน ก่อนนำรายงานศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ที่มี พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ทำหน้าที่เป็น ผอ.ศอ.รส. ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจสันติบาลวิเคราะห์สถานการณ์การชุมนุมหลังปล่อยตัว 7 แกนนำเสื้อแดง ว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะคึกคักขึ้นเป็นธรรมดา
อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้หน่วยข่าวประเมินว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงไม่พบความรุนแรง โดยเฉพาะในส่วน 7 แกนนำเสื้อแดงที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวออกมา ยังสงวนท่าทีในการเป็นตัวตั้งตัวตีเรียกร้องเคลื่อนไหว ด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ 1.แกนนำเสื้อแดงทั้ง 7 คน ต้องระมัดระวังในการพูด ให้สัมภาษณ์หรือปราศรัยในทุกๆ สถานที่ ด้วยมีเงื่อนไขการประกันตัวที่ศาลกำหนดไว้ค้ำคออยู่ คือ ห้ามมิให้กระทำการอันเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน อันที่จะทำให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรหรือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และห้ามจำเลยดังกล่าวเดินทางออกนอกราชอาณาจักร และ 2.ถ้าแกนนำเสื้อแดงทั้ง 7 คน ประพฤติตัวดีเป็นแบบอย่าง เพื่อนๆ กลุ่มเสื้อแดงที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำก็มีแนวโน้มได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้แกนนำเสื้อแดงจะยังคงเคลื่อนไหวในเชิงสัญลักษณ์เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2553 ทั้ง 91 ศพ ช่วยกลุ่มคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และเรียกร้องความเป็นธรรมด้านคดีด้วย ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดจะทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงไม่หายไปจากหน้าหนังสือพิมพ์
ส่วนการนัดชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 12 มีนาคม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งตรงกับวันเคลื่อนขบวนเข้ากรุงเทพฯของคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 นั้น หน่วยข่าวประเมินว่า สถานการณ์การชุมนุมไม่น่าจะมีความรุนแรง โดยแกนนำเสื้อแดงทั้ง 7 คนที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจะเดินทางมาร่วมชุมนุมด้วย แต่จะขึ้นเวทีปราศรัยด้วยหรือไม่นั้นยังไม่แน่ชัดเนื่องจากยังติดข้อกำหนดการปล่อยตัวชั่วคราว เบื้องต้นคาดยอดผู้ชุมนุมในครั้งนี้ประมาณ 30,000 คน และน่าจะเลิกตามเวลาที่กำหนด
นอกจากนี้ มีอินไซด์จากที่ประชุมด้านการข่าว พบว่ากองบัญชาการตำรวจสันติบาล ปูดข้อมูลลับด้วยว่า มีนักรบชุดดำเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯจำนวนหนึ่ง แต่ข่าวนี้หน่วยข่าวยังไม่ให้น้ำหนักความน่าเชื่อถือ เพราะยังดูลอยๆ และยังไม่ชัดเจน!