ที่มา ประชาไท
เมื่อวันก่อนผมนั่งบนเวทีดำเนินการอภิปรายแนะนำคุณมีชัย วีระไวทยะ ผมให้เกียรติเอ่ยคำนำหน้าชื่อว่า “ท่าน” มีชัย ท่านกลับบอกว่า คำนี้ใช้เรียกราชนิกุลฝ่ายชายชั้นหม่อมเจ้า ให้ใช้คำนำหน้าว่า “คุณ” ก็พอ
แม้ความจริงคุณมีชัยอาจพูดคลาดเคลื่อนไปเล็กน้อย เพราะคําที่ใช้เรียกราชนิกุลฝ่ายชายและฝ่ายหญิงชั้นหม่อมเจ้า คือคำว่า “ท่านชาย” และ “ท่านหญิง” ไม่ใช่คำว่า “ท่าน” โดด ๆ แต่อย่างใด แต่หะแรกผมรู้สึกยกย่องคุณมีชัยว่าเป็นเสรีนิยม (Liberal) เห็นสามัญชนเสมอหน้ากัน ไม่นิยมให้ยกย่อง (ยกหาง) กันเกินงาม
ในความเป็นจริง การใช้คำว่าท่านถือเป็นการยกย่องเท่านั้น พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานก็ระบุไว้ว่า “ท่าน” เป็น “คําใช้แทนผู้ที่เราพูดด้วย เป็นคํากลาง ๆ หรือแสดงความเคารพ เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๒, ใช้แทนผู้ที่เราพูดถึงด้วยความเคารพ เช่น ท่านไม่อยู่ คุณพ่อท่านหลับแล้ว หรือโดยไม่เจาะจง เช่น อย่าลักทรัพย์ท่าน เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๓. คําที่ใช้ประกอบหน้าชื่อบรรดาศักดิ์หรือตําแหน่งแสดงความยกย่อง เช่น ท่านขุน ท่านอาจารย์ ท่านเจ้าอาวาส”
คำยกย่องสามัญชนในทำนองคำว่า “ท่าน” ของไทย ก็มีใช้กันในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ในลาวก็มีคำว่า “ท้าว” ในเวียดนามก็มี “แอง” ในอินโดนีเซียก็ “บาป๊ะ” หรือ “ป๊ะ” ในกัมพูชา มาเลเซียก็มีการเรียกขานกันในทำนองนี้ทั้งสิ้น ดังนั้นการใช้คำว่า “ท่าน” จึงไม่ใช่เป็นการตีตนเสมอเจ้า แต่สามัญชนก็มีสิทธิถูกยกย่องและใช้คำนี้ได้
ในทางตรงกันข้ามคำว่า “ท่าน” ก็คงไม่ได้สงวนไว้ใช้กับโจรหรือกังฉิน มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมใช้คำว่า “ท่าน” เพื่อแนะนำคุณประสาร มฤคพิทักษ์ ผู้มีอุปการคุณของผม แต่ท่านก็บอกว่าอย่าใช้คำนี้ พวก “ท่าน” มักเป็นพวก “โกงบ้านโกงเมือง” ซึ่งฟังดูดี แต่ออกเป็นการตีโวหาร เพราะในความเป็นจริงคำว่า “ท่าน” ก็สามารถใช้กับคนดี ๆ ได้เช่นกัน
เรามาส่งเสริมการใช้คำว่าท่านเพื่อให้เกียรติสามัญชนด้วยกันเอง ไม่ว่าจะเป็นผู้มีวัยวุฒิ คุณวุฒิ และโดยเฉพาะผู้ที่ทำคุณประโยชน์แก่ชุมชน สังคมและประเทศชาติส่วนรวม อย่าให้ใครมากีดกันหรือถูกผูกขาดให้ใช้เฉพาะกลุ่มผู้สูงศักดิ์ส่วนน้อย หรือพวกกังฉิน