ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ รายงานพิเศษ
แรกเริ่มเดิมที พรรคประชาธิปัตย์ผลักดันให้เปิดซักฟอกวันที่ 9 มี.ค.
แต่หลังฝ่ายค้านยื่นญัตติ มีความเคลื่อน ไหวจากพรรคร่วมรัฐบาลต้องการให้เป็นวันที่ 15 มี.ค.
ด้วยเหตุผลที่หลากหลาย กระแสหนึ่งระบุเป็นเพราะพรรคภูมิใจไทยยังไม่พร้อม บ้างว่าหนีม็อบ เลี่ยงงานระดมทุนของพรรคชาติไทยพัฒนา
รวมถึงการถอยของรัฐบาลเพื่อตั้งหลัก หาข้อมูลหักล้างข้อกล่าวหา
ที่สุดแล้วการเลื่อนวันซักฟอก ใครได้ประโยชน์
ธนิตพล ไชยนันทน์
เลขานุการวิปรัฐบาล
การอภิปรายที่เลื่อนวันออกไป เนื่องจากวิปรัฐบาลได้ไปพูดคุยกับเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ทราบข้อมูลว่าขณะนี้ฝ่ายเลขาธิการสภาฯ กำลังตรวจลายมือชื่อส.ส.ที่ลงชื่อรับรองญัตติ และมีเรื่องของเอกสาร เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดในส่วนการเปิดอภิปรายที่ต้องยื่นต่อ ป.ป.ช. สภากำลังดูในข้อกฎหมายว่าสิ่งที่ฝ่ายค้านกล่าวหานายกฯ และรัฐมนตรีแต่ละคนมีเรื่องที่เกี่ยวข้องและต้องนำส่ง ป.ป.ช.หรือไม่ ต้อง ตรวจสอบไม่เกิน 7 วัน จากนั้น ส่งให้ประธานสภา บรรจุระเบียบวาระ
เรื่องวันเปิดอภิปราย ผมยังไม่แน่ใจว่าเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายแล้วก็หนีไม่พ้นว่าจะต้องทำตามกฎหมาย
ส่วนการเลื่อนวันอภิปรายออกไป รัฐมนตรีไม่น่าจะมีข้อได้เปรียบอะไรมากมาย เพราะสุดท้ายก็อยู่ที่ข้อมูลที่แต่ละฝ่ายนำเสนอ การเลื่อนวันอภิปรายออกไปฝ่ายค้านจะได้มีเวลาตรวจสอบข้อมูล และหาข้อมูลได้นานขึ้น
กระแสข่าวเลี่ยงงานระดมทุนของพรรคชาติไทยพัฒนา วันที่ 12 มี.ค. ก็คงไม่เกี่ยวกัน เพราะการจัดงานระดมทุนพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคอื่นก็มี เป็นเรื่องปกติ และคิดว่าวุฒิภาวะของนายชัย ชิดชอบ ประธานสภา คงแยกออกระหว่างงานสภากับงานพรรคร่วมรัฐบาล จึงไม่คิดว่าจะเลื่อนด้วยเหตุผลกับงานที่ไม่เกี่ยวกับงานสภา อาจเป็นการตรวจสอบที่อยากให้ละเอียดรอบคอบมากกว่า
และคงไม่เกี่ยวกับการชุมนุมในวันที่ 12 มี.ค. เช่นกัน เพราะถ้าเป็นการชุมนุมโดยสงบก็ไม่ต้องหลีกเลี่ยงอะไร และฝ่ายความมั่นคงยืนยันว่าเตรียมการรับมือได้อยู่แล้ว
น.พ.อลงกต มณีกาศ
โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน
ไม่ว่าจะเป็นช่วงวันที่ 9-12 มี.ค. หรือวันที่ 15-18 มี.ค. รัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้เสียเปรียบ หรือได้เปรียบแต่อย่างใด เพราะคงมีการเตรียมความพร้อมเพื่อตอบข้อซักถามไว้ทุกกรณีอยู่แล้ว ยกเว้น เรื่องน้ำมันปาล์มที่อาจจะเหนื่อยหน่อย
ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยที่การอภิปรายครั้งก่อนพรรคเพื่อแผ่นดินโหวตสวน ลงมติไม่ไว้วางใจ เนื่อง จากพรรคภูมิใจไทยตอบข้อซักถามไม่เคลียร์ ครั้งนี้พรรคเพื่อแผ่นดินก็ต้องรอดูว่า การอภิปรายในสภาจะเป็นอย่างไร
การอภิปรายครั้งนี้ไม่ว่าจะเกิดช่วงไหน คนที่เป็นรัฐมนตรีตัวจริงก็คงสามารถตอบได้ทุกเรื่อง ไม่มีปัญหา ให้อภิปรายพรุ่งนี้เลยก็ยังได้ แต่สำหรับคนที่เป็นรัฐมนตรีนอมินี คงลำบาก เพราะจะต้องมีคนเขียนสคริปต์ตอบข้อซักถามในสภาให้ ก็คงจะต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวเหมือนกัน
การเลื่อนวันอภิปราย ความจริงรัฐบาลคงอยากชี้แจงประเด็นปัญหาต่างๆ ให้กระจ่างโดยเร็ว แต่คงกลัวการชุมนุมของกลุ่มนปช. ที่บังเอิญกำหนดวันชุมนุมในวันที่ 12 มี.ค.
ส่วนเหตุผลที่เลื่อนเพราะ 4 รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ยังไม่พร้อม ผมไม่ทราบต้องไปถามวิปรัฐบาล แต่คิดว่ารัฐมนตรีคนใดที่ทุจริตจะใช้เวลาในการเตรียมข้อมูลเท่าไหร่ก็คงไม่พอ เพราะข้อเท็จจริงยังไงก็ต้องปรากฏ
แต่คงไม่เกี่ยวกับเลื่อนวันอภิปรายเพราะไปตรงกับวันที่พรรคชาติไทยพัฒนา จัดงานระดมทุน คิดว่าเรื่องนี้คงไม่เกี่ยวข้องกัน ระดมทุนก็ส่วนระดมทุน คนที่คิดจะซื้อโต๊ะที่ได้ข่าวว่าราคาถึง 2 ล้านบาท เขาก็คงไม่ตัดสินใจภายในวันที่ 12 มี.ค. วันเดียวหรอก เขาคงคิดล่วงหน้าไว้ถึง 2 สัปดาห์แล้ว
พีระเดช ศิริวันสาณฑ์
ส.ส.นครสวรรค์ พรรคชาติไทยพัฒนา
ช่วงเวลาวันอภิปรายจะเป็นเมื่อไหร่ คิดว่าไม่ค่อยมีผลเท่าใดนัก เพราะรัฐบาลพร้อมชี้แจงอยู่แล้ว ความจริงยื้อไปก็ไม่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลและยิ่งจะเสียเปรียบด้วยซ้ำ ยิ่งทำให้ฝ่ายค้านเตรียมตัวและเตรียมข้อมูลได้มากขึ้น
ส่วนกระแสข่าวพรรคชาติไทยพัฒนาขอให้เลื่อนเพราะติดงานระดมทุน ไม่น่าจะเกี่ยวกัน พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้ขอเลื่อนและคงไม่ใช่ประโยชน์ของเราโดยตรงที่ต้องไปออกตัวขนาดนั้น พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นพรรคไม่กี่เสียง คงไม่เป็นผล เชื่อว่าคงอยู่ที่พรรคใหญ่คุยกันเองมากกว่า
เรื่องนี้ยิ่งลากยาว ยิ่งแย่ ทำให้เหลือเวลาให้ฝ่ายค้านมากขึ้น รัฐบาลก็ยิ่งจะกดดันมากกว่า หลังอภิปรายเสร็จรัฐบาลเสียอีกที่ต้องพยายามแก้ไข เพื่อให้คะแนนโดยเฉพาะของพรรคประชาธิปัตย์ ให้ได้มากขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้นรัฐบาลไม่น่าเพลี่ยงพล้ำ ก็ต้องดูที่ข้อมูล ถ้าข้อมูลแน่นกระแสสังคมคงกดดัน ซึ่งไม่ใช่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะตะบี้ตะบันเกาะกันไว้
ส่วนกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ว่าหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จแล้วนายกฯ จะยุบสภาหนีทันที นิสัยของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ใช่คนที่จะหนีอะไรอยู่แล้วและก็ผิดหลักการของคนพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
ประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ
ประธานส.ส. พรรคภูมิใจไทย
การเลื่อนวันอภิปราย คงไม่ใช่เพราะกระแสข่าวเลื่อนเพราะรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ไม่พร้อม ผมได้คุยกับประธานชัย ชิดชอบ เรียบร้อยแล้ว ท่านบอกว่าที่เลื่อนเพราะการส่งเอกสารบรรจุวาระการประชุมถึงประธานสภาฯ มันช้า ประกอบกับขณะนี้ถ้ารีบเร่งบรรจุวาระคงไม่ทันการณ์ ประเด็นอยู่เพียงเท่านี้
จากการสอบถามรัฐมนตรีของพรรคทุกคน ขณะนี้มีข้อมูลเตรียมพร้อมไว้ครบแล้ว ถือเป็นธรรมดาของรัฐมนตรีที่ต้องมีความพร้อมจะชี้แจงได้ทุกเรื่อง ตรงกันข้ามกลับเป็นผลดีแก่พรรคฝ่ายค้านด้วยซ้ำ ที่จะมีเวลาหาข้อมูล
ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า นายเนวิน ชิดชอบ ส่งสัญญาณไปยังประธานชัย เลื่อนวันอภิปรายก็ไม่เป็นความจริง เพราะนายเนวิน ไม่ได้เข้ามายุ่งอะไรด้วย เพียงแต่กำชับรัฐมนตรีทุกคนให้เตรียมความพร้อมไว้เท่านั้น
กระแสข่าวที่ถาโถมมายังพรรคภูมิใจไทยทั้งหมด เป็นเจตนาที่ต้องการดิสเครดิต ซึ่งพรรคชินเสียแล้ว เพราะคนภายนอกเห็นพรรคเราเป็นพรรคเข้มแข็งและอบอุ่น การโจมตีอะไรต่างๆ เกี่ยวกับการเมืองก็ต้องมาลงที่พรรคภูมิใจไทย มั่นใจว่าไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายช่วงไหน เวลาใด ในพรรคพร้อมชี้แจงทุกเรื่อง 100%
ผลได้หรือผลเสียต่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ไม่มีอะไรในกอไผ่ เพราะรัฐมนตรีในพรรคทุกคน ไม่ได้ทำอะไรเสียหายต่อกระทรวงที่รับผิดชอบ และรัฐมนตรีของเราทุกคนมีข้อมูลพร้อมชี้แจงอยู่แล้ว
วิทยา บุรณศิริ
ประธานวิปฝ่ายค้าน
เท่าที่ดูว่าเหตุผลของการเลื่อนวันอภิปราย คงเป็นเพราะความไม่พร้อมของรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคประชาธิปัตย์ระบุตลอดว่ามีความพร้อม ประเด็นจึงอยู่ที่พรรคภูมิใจไทย
ผมว่าเป็นเรื่องธรรมดา เวลานักมวยจะชกกันก็ต้องมีการให้เวลาเตรียมตัวกันบ้าง อย่าไปอิจฉาเขาที่มีเวลา หน้าที่ของเราคือทำให้ตัวเองพร้อมไว้ก่อน แล้วจริงๆ พรรคเพื่อไทยก็พร้อมเสมอ พร้อมตั้งแต่ยื่นญัตติแล้วด้วยซ้ำ
เมื่อเวลามีให้มากขึ้นขนาดนี้ก็ต้องดูว่ามวยที่จะชกกันจะชกกันสมราคาหรือไม่
พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
โฆษกพรรคเพื่อไทย
ที่เลื่อนออกไปเพราะอยากจะลอกข้อสอบ ล้วงตับฝ่ายค้านว่ามีอะไรบ้าง อ้างว่าลายมือชื่อของ ส.ส.ไม่ตรงกัน ทั้งที่จริงแล้วเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญเพราะอย่างไรจำนวนส.ส. เข้าชื่อเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดอยู่แล้ว
ที่มีข่าวเลื่อนไปอีกสัปดาห์ เพราะนายเนวิน ชิดชอบ ขอให้นายชัย ชิดชอบ ชะลอการบรรจุญัตติออกไป เพราะรัฐมนตรีไม่มีความพร้อม เก่งแต่ปาก น่าผิดหวังกับวิปรัฐบาลที่กำลังเล่นเกมในการโกงข้อสอบล่วงหน้า สะท้อนวิชามารทางการเมืองทั้งที่การอภิปรายครั้งนี้เป็นยกสุดท้ายแต่ก็ยังตุกติก
รัฐบาลประมาทนึกว่าฝ่ายค้านไม่มีอะไร แต่เมื่อเห็นรายละเอียดในญัตติถอดถอนก็เลยตกใจเพราะมีข้อมูลใหม่ที่รัฐบาลนึกไม่ถึง อย่างกรณีของบริษัทฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเตท ที่ไม่เคยปรากฏในสื่อทำให้รัฐบาลตั้งหลักไม่ทัน
จึงหวังใช้กลเกมขอประวิงเวลาออกไป เพื่อรอดูข้อสอบของฝ่ายค้านและหาข้อมูลในการตั้งรับ