ที่มา ประชาไท
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 54 ที่ผ่านมา นางขนิษฐา รัฐกาญจน์ ทนายความของจำเลย 22 รายจังหวัดอุดรธานีในข้อหาคดีร่วมกันเป็นผู้ร่วมโฆษณาประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิดร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์โรงเรือนอันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน,มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปโดยใช้กำลังประทุษร้าย,กระทำการให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง,ฝ่าฝืนประกาศที่ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปหรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย,ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวชั่วคราวของจำเลยทั้ง 22 รายโดยเตรียมวงเงินใช้ในการวางหลักทรัพย์รายละ 5 แสนบาททั้งหมดเป็นจำนวน 11 ล้านบาท แต่ศาลไม่อนุญาติให้ประกัน
ช่วงเช้าหลังจากญาติผู้ต้องขังขอเข้าเยี่ยมที่เรือนจำจังหวัดอุดรธานีจึงเดินทางไปยื่นเรื่องประกันที่ศาล ต่อมาศาลได้วินิจฉัยและมีความเห็นยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่า พฤติการณ์แห่งคดีในคดีของศาลอาญาที่จำเลยทั้งยี่สิบสองอ้าง จำเลยเป็นคนละคนกัน ข้อหาก็ต่างกัน สถานที่เกิดเหตุก็คนละแห่งกันกับคดีนี้ ซึ่งความผิดที่จำเลยทั้ง 22 ถูกฟ้องมีโทษสถานหนัก พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศชาติ ประกอบกับยังสืบพยานโจทย์ไม่แล้วเสร็จหากอนุญาติให้ปล่อยตัวชั่วคราว เกรงว่าจำเลยทั้ง 22 คนจะหลบหนี ในชั้นนี้จึงยังไม่มีเหตุให้ไต่สวนคำร้องและเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ให้ยกคำร้องและไม่รับหลักประกัน หลังจากศาลไม่อนุญาตท่าทีขอตัวจำเลยรวมทั้งญาติมีสีหน้าสิ้นหวัง บางรายร้องให้และสวมกอดกับจำเลย หลังจากนั้นจึงแยกย้ายกันกลับ
โดยในวันนี้ (1 มี.ค. 54) มารดานายกิตติพงษ์ ชัยกัง ผู้ต้องหาอายุ 18 ปี ได้เข้าเยี่ยมลูกชายหลังจากศาลไม่อนุญาตวานนี้ให้สัมภาษณ์ว่า "มันพูดไม่ออกคาดหวังไว้สูง คิดว่าแกนนำได้ประกันแล้วเราก็น่าจะได้บ้าง คนอยู่ข้างในกำลังใจไม่ดีเมื่อวานยังหน้าตาสดใส วันนี้เขาบอกว่าเหนื่อยมากเหมือนสิ้นหวังไปแล้ว บางคนยังร้องให้อยู่" ต่อคำถามที่ว่าหากยังไม่ได้รับประกันจะทำอย่างไรกันต่อไป มารดานายกิตติพงษ์ กล่าวว่า "ถ้าประกันไม่ได้เราก็จะลงมาเรียกร้องกับแกนนำหรือพรรคหรือคนที่จะช่วยเหลือเราได้ให้มาดูแลเราบ้าง"
โดยในวันจันทน์ที่ 7 มีนาคม 2554 ทนายความจะยื่นอุทธรณ์การประกันตัวอีกครั้งหนึ่ง