ที่มา Thai E-News
โดยทีมข่าวไทยอีนิวส์
21 มีนาคม 2554
'เพชรวรรต'ผอ.วิทยุเชียงใหม่51เข้ามอบตัวแล้วหลังหลบภัย9เดือน ประกาศเดินหน้าสู่สนามเลือกตั้ง พรุ่งนี้ดีเจอ้อมมอบตัวที่กรุงเทพฯหลังยืนหยัดจนนาทีสุดท้ายที่ราชประสงค์ ทะเหี้ย..มกองทัพภาค3ปูด188รายชื่อแกนนำแดงภาคเหนือตกเป็นเป้าจับตามอง
เพชรวรรต ผอ.วิยุเชียงใหม่51มอบตัวเตรียมลงเลือกตั้ง
วันนี้ นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เดินทางมามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีแกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 รุ่นที่ 2 ร่วมมาให้กำลังใจ โดยผอ.เพชรวรรตได้รับทราบข้อกล่าวหา และยื่นขอประกันตัวในคดีบุกรุกกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 โดยใช้หลักทรัพย์จำนวน 1 แสนบาท ก่อนที่จะออกมาพบปะกับสมาชิกกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จำนวนหนึ่งที่มารอแสดงความยินดีบริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรแม่ปิง
นายเพชรวรรต เป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยคนสำคัญของเชียงใหม่ เป็นผู้อำนวยการสถานีวิทยุรักเชียงใหม่ 51 ที่มีบทยาทต่อต้านเผด็จการเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างโดดเด่น ได้ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีต่างๆ หลายคดี แต่ได้หายตัวไปนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงเดือนเมษายน 2553 จนกระทั่งเมื่อแกนนำคนเสื้อแดงที่หลบภัยไปหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มทยอยเดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายเพชรวรรตจึงได้เดินทางมามอบตัว
นายเพชรวรรต กล่าวถึงการเข้ามอบตัวในครั้งนี้ว่า ได้ยื่นประกันตัวใน 2 คดี รวมประมาณ 20 ข้อหา ซึ่งในส่วนของคดีความนั้นจะดำเนินการสู้คดีต่อไป ที่ผ่านมาได้หลบไปพักอาศัยอยู่ในต่างประเทศ ก่อนจะตัดสินใจเดินทางกลับมาสู้คดี เนื่องจากรัฐบาลเตรียมที่จะยุบสภาและจัดการเลือกตั้ง รวมทั้งผู้ใหญ่ได้แนะนำให้เข้ามามอบตัวสู้คดีด้วย
สำหรับแนวทางการเคลื่อนไหวในอนาคตนั้น คงจะเป็นการเตรียมการเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งตามที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ ซึ่งจากบัดนี้ไปก็จะเหลือเวลาอีกประมาณ 45 วันก่อนที่จะมีการยุบสภา โดยที่ตัวเขาเองได้รับมอบหมายจากพรรคเพื่อไทยให้รับผิดชอบในการออกไปประชาสัมพันธ์และให้ความรู้เกี่ยวกับนโยบายและแนวทางการดำเนินงานของพรรคในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ รวมทั้งยังชื่อเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคอีกด้วย แต่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตใดนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพรรค
ดีเจอ้อมเข้ามอบตัวพรุ่งนี้ที่กรุงเทพฯ
ขณะที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นั้น นายเพชรวรรตกล่าวว่า คงจะไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับทางกลุ่มมากนัก เพราะจะต้องรับผิดชอบเดินสายให้ความรู้กับประชาชนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง อีกทั้งกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เองก็มีแกนนำรุ่นที่ 2 ซึ่งจะเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆ ของทางกลุ่มเอง
ส่วนความเคลื่อนไหวของแกนนำของกลุ่มคนอื่นๆ ที่ยังหลบหนีคดีความอยู่นั้น นายเพชรวรรตกล่าวว่าทั้งหมดจะทยอยกันมามอบตัว โดยนางกัญญาภัค มณีจักร หรือดีเจอ้อม แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 อีกคนหนึ่งจะเดินทางกลับมามอบตัวสู้คดีที่กรุงเทพฯ ในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ดีเจอ้อมเล่าในเฟซบุ๊คว่า วันที่มีการสลายการชุมนุมนั้นเธอเดินไปหน้าเวทีราชประสงค์ และยืนยันปักหลักสู้จนถึงที่สุด แต่มีหญิงชราคนหนึ่งที่จำเธอได้ดีมากอดแล้วร้องไห้ขอร้องให้หลบภัยไปก่อน เพราะเกรงว่าเผด็จการต้องสังหารเธอแน่ เพราะฝ่ายเผด็จการกล่าวหาว่าเธอเป็นพวกแดงฮาร์ดคอร์ เธอจึงต้องจำใจผละจากที่ชุมนุมและหลบภัยยาวนาน
ด้านนายกฤษณะ พรมบึงรำ แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 รุ่นที่ 2 กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ว่า จากนี้ไปกลุ่มคนเสื้อแดงจะเน้นไปที่การตั้งมั่นอยู่ในพื้นที่เพื่อเตรียมรับการเลือกตั้ง โดยมีเป้าหมายคือต้องช่วยกันทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งและได้จัดตั้งรัฐบาล ขณะเดียวกันก็จะมีการติดตามเรียกร้องความเป็นธรรมจากรัฐบาล ออกประชาสัมพันธ์เผยแพร่แนวคิดประชาธิปไตย และพบปะประชาชนเพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่นโยบายของพรรคเพื่อไทยให้ประชนรับทราบ ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียง 250 เสียงขึ้นไปก็จะมีเสียงข้างมากและมีความชอบธรรมที่จะจัดตั้งรัฐบาล
เชียงใหม่51เปิดทางให้คนในรัฐบาลมาหาเสียงได้ไม่ต่อต้าน
นอกจากนี้ แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 รุ่นที่ 2 ยังเปิดเผยด้วยว่าทางกลุ่มจะเน้นในเรื่องการลดเงื่อนไขความขัดแย้งเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง โดยต่อจากนี้จะไม่มีการออกมาต่อต้านหากมีรัฐมนตรีจากรัฐบาลเดินทางมาปฏิบัติงานที่จังหวัดเชียงใหม่ เช่นเดียวกับในช่วงการเลือกตั้งที่ทุกพรรคการเมืองจะมีสิทธิในการหาสียงและนำเสนอนโยบายโดยไม่มีการต่อต้าน ซึ่งในส่วนนี้ทางกลุ่มจะได้ชี้แจงและขอความร่วมมือจากสมาชิกของกลุ่มต่อไป ทั้งนี้เชื่อว่าสมาชิกของกลุ่มเป็นคนมีเหตุผลและรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร
“ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี หรือ ครม.สามารถเดินทางมาเชียงใหม่ได้โดยจะไม่มีการต่อต้าน รวมไปถึงช่วงการเลือกตั้งด้วย โดยเราตั้งใจจะให้เชียงใหม่เป็นแบบอย่าง ว่าใครก็สามารถเดินทางมาหาเสียงได้ ไม่มีการประท้วงต่อต้านเพื่อที่สมาชิกของพรรคเพื่อไทยจะได้สามารถเดินทางไปยังภาคอื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน”
นายกฤษณะ กล่าวด้วยว่า อาจมีการแสดงความเห็นหรือแสดงออกในเชิงคัดค้านหรือไม่เห็นด้วย อาทิการยกป้ายประท้วง หากมีคนขอรัฐบาลเดินทางเข้ามาในพื้นที่ซึ่งถือเป็นสิทธิส่วนบุคล แต่ทางกลุ่มจะพยายามขอความร่วมมือจากสมาชิก โดยจะไม่ให้มีการใช้กริยาที่ไม่สุภาพหรือการด่าทออย่างเด็ดขาด
กองทัพภาค3ขึ้นรายชื่อ188แกนนำเสื้อแดงภาคเหนือต้องจับตา
เอกสารซึ่งอ้างว่า กองทัพภาคที่ 3 ขึ้นบัญชีรายชื่อ 188 แกนนำเสื้อแดงภาคเหนือภาคส่วน (รายละเอียดทั้งหมดอ่านที่กระทู้ในกระดานสนทนาอินเตอร์เน็ตฟรีด้อม)
ขณะเดียวกันมีการเปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 3 ซึ่วเป็นทหารที่ควบคุมภาคเหนือทั้งหมดได้รวบรวมรายชื่อแกนนำมวลชน ในเขต 17 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 188 คน ขึ้นบัญชีที่ต้องติดตามความเคลื่อนไหว โดยในเอกสารดังกล่าวนี้มีการใส่เครื่องหมาตราดาวให้ตั้งแต่ 1 ไปถึง 3 ดาว ตามแต่บทบาทของแต่ละคน เช่น ผอ.เพชรวรรต และดีเจอ้อมได้ 3 ดาว เพราะมีบทบาทมาก
แกนนำเสื้อแดงภาคเหนือรายหนึ่งเปิดเผยว่า แกนนำทั้ง 188 รายนี้ ส่วนใหญ่จะเคยโดนทหารเรียกตัวไปพูดคุยหลายครั้ง หรือทุกครั้งที่เราจะทำกิจกรรมของคนเสื้อแดง แต่ในครั้งนี้มีการเปิดเผยอีกว่ามีรายชื่อใหม่ๆ ในกลุ่มที่ไม่เคยโดน และมีติดรายชื่อทุกจังหวัดของภาคเหนือ
จากการวิเคราะห์ของกลุ่ม “ศูนย์ประสานงานกลาง นปช. แดงเชียงใหม่”แล้ว พอจะมีรายละเอียดดังนี้
1. ในจังหวัดเชียงใหม่เป็นรายชื่อเดิมๆ เป็นส่วนมาก ที่มีหายไปหลายชื่อเพราะบางคนไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมมาแล้วหลายปี (ไม่ออกหน้า) ส่วนที่มีรายชื่อเพิ่มเข้ามาก็ไม่แน่ใจว่าเพิ่งมีรายชื่อ หรือไม่เคยไปรายงานตัว เพราะบางท่านที่ไม่ค่อยมีบทบาทในการทำกิจกรรมกลับมีรายชื่อ (มีอยู่คนหนึ่งเป็นอดีตสมาชิกสมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตย ติดอยู่ในรายชื่อนี้ แต่เจ้าตัวบอกว่า ไม่เคยทราบมาก่อน ) เพราะฉะนั้นหมายความว่า ในรายงานชิ้นนี้ มีการปรับปรุงข้อมูลเช่นกันในการตัดรายชื่อและเพิ่มรายชื่อ แต่ยังเป็นข้อมูลที่ไม่ยังไม่เป็นปัจจุบัน
รายชื่อเหล่านี้ น่าจะจัดทำช่วงปลายปี 2552
2.สังเกตจากรายชื่อของกลุ่ม ศูนย์ประสานงานกลาง นปช. แดงเชียงใหม่ ( รายชื่อเชียงใหม่ ลำดับที่ 15 – 23 เป็นกลุ่มบุคคลที่โดนเรียกตัวทุกครั้ง) ในรายงานพฤติกรรมของทุกๆคน และการเขียนชื่อบุคคลในลำดับที่ 20 นายสาทิน(นิกร) สุกันทา มีความเหมือนกันมากในรายงานการประชุมกลุ่มศูนย์ประสานงานฯ ที่พิมพ์แจกจ่ายในการประชุม (ในการรวมกลุ่มกันครั้งแรก เราก็ยังไม่รู้จักกันเป็นส่วนตัว จึงยังต้องมีการแนะนำตัวเองในที่ประชุม เรารวมกลุ่มกัน หลัง เม.ย 52 ) อย่างเช่นคุณสาทิน ไม่มีใครรู้จัก เพราะเรารู้จักชื่อเดิมเขาในชื่อ นิกร จึงต้องวงเล็บไว้ และที่จริงต้องเขียนว่า สาธิน จึงจะถูกต้อง แต่ในที่ประชุมครั้งนั้นมีการเขียนผิด และรายชื่อของ ทพ.3 ก็เลยผิดตาม
3.ในรายชื่อกลุ่ม ศูนย์ประสานงานกลาง นปช. แดงเชียงใหม่ ลำดับที่ 15 คุณ สุเทพ สายทอง ไม่เคยเข้าร่วมในการทำกิจกรรมใดๆเลย (เพราะต้องเก็บตัวจากอุปสรรคงานประจำ และธุรกิจ) และลำดับที่ 17 นายพีรพล มรกต ไม่ได้เข้าร่วมทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่ม มาตั้งแต่ หลัง 19 พ.ค.53 พอสรุปได้ว่ารายชื่อเหล่านี้หลุดไปจาก รายงานการประชุมกลุ่มฯ และมีอีกหลายรายชื่อที่ทหารมีอยู่ในมือ แต่ยังไม่นำเอาเข้าใส่ในรายชื่อบัญชีเป้าหมาย และรายชื่อเหล่านี้น่าเป็นข้อมูลเก่าตั้งแต่ปี 2552 - 2553
การที่กองทัพภาคที่ 3 นำรายชื่อเหล่านี้"หลุด"ออกมาเผยแพร่ในครั้งนี้ น่าจะเป็นการออกมาป้องปราบแกนนำคนเสื้อแดงบางคนให้เท่านั้น เพราะช่วงนี้จะเป็นการเดินทางกลับมาของบุคคลในบัญชีรายชื่อหลายท่าน โดยเฉพาะในกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่ ผอ.เพชร(ลำดับที่ 1.) และ ดีเจอ้อม (4.) จะเดินทางเข้ามอบตัว
เพราะฉนั้นพอสรุปได้ว่า ในการเอารายชื่อเหล่านี้ออกมาเปิดเผยน่าจะเป็นฝีมือของทหาร และต้องนำออกมาจำนวนมากหลายชุด เพื่อหวังผลในการกดดันแกนนำ และสร้างความแตกตื่นให้แก่มวลชนที่ได้รับเอกสารเหล่านี้ โดยการอำพรางว่าเป็นเอกสารลับ
"เราจึงมีความคิดกันว่า ต้องทำให้เอกสารเหล่านี้กลายเป็นเอกสารสว่าง หรือเอกสารธรรมดาไม่มีความพิเศษ ใครก็สามารถเห็นได้โดยทั่วไป จึงมีการนำเอกสารของทัพภาคที่3ออกเผยแพร่เพื่อแสดงว่าแกนนำเสื้อแดงเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผย ตามระบอบประชาธธิปไตย"แกนนำเสื้อแดงภาคเหนือรายหนึ่งระบุ