ที่มา ข่าวสด
รายงานพิเศษ
ลงทุนรื้อศาลพระภูมิและปรับฮวงจุ้ยก็แล้ว แต่พรรคเพื่อไทยยังมิอาจต้านแรงเกาเหลา 'เหลิม-มิ่ง' ไปได้
ล่าสุด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตัดสินใจไขก๊อกจากตำแหน่ง ส.ส.สัดส่วน โดยให้นายสงวน แก้วกล้า เลขาฯส่วนตัว นำจดหมายลาออกไปยื่นต่อเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เมื่อช่วงเช้า 23 มี.ค.ที่ผ่านมา
หนังสือจั่วหัวว่าเขียนที่ บ้านริมคลอง เลขที่ 12 ซอยเอกชัย 119 แขวงบางบอน เขตบางบอน กทม.
ตามด้วยข้อความสั้นๆ พื้นๆ ระบุเพียงแค่ว่า
"ด้วยกระผม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สมาชิก สภาผู้แทนราษฎร หมายเลขที่ 52 แบบสัดส่วน พรรคเพื่อไทย มีความประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่ง นับแต่บัดนี้ (23 มี.ค. 2554) เป็นต้นไป"
"จึงกราบเรียนมาเพื่อกรุณาทราบ และขอแสดงความนับถืออย่างสูง ลงชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง"
ขนาดขยายตัวหนังสือไซซ์เท่าหม้อแกง แล้ว แต่ยังเหลือที่ว่างในจดหมายขนาดกระดาษเอ 4 อีกตั้งเยอะ
ขณะที่เจ้าตัว หลังทิ้งบอมบ์ลูกใหญ่ก็ปลีกวิเวก ขาดการติดต่อทันที
ทิ้งปริศนาให้คอการเมืองได้ขบคิดถึงเบื้องหลังการตัดสินใจครั้งนี้ โดยต่างก็วิเคราะห์คาดเดากันไปต่างๆ นานา
ทั้งปัญหาเดิมๆ เช่น งอนพรรค เซ็ง 'มิ่ง' ประมาณว่าอุตส่าห์ผลักดัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค แต่กลับถูกสกัดจากส.ส.กลุ่มใหญ่ที่ชู นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แทน
รวมไปถึงเรื่องตั้งพรรคใหม่ที่แอบจับมือกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย และ ร.ต.อ.นิติภูมิ นวรัตน์ เจาะพื้นที่ กทม.
เพื่อเปิดศึกกับคู่แค้นเก่าอย่าง เจ๊หน่อย-คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานภาคกทม. พรรคไทยรักไทย
หรือแม้แต่เรื่องปั่นค่าตัว ปูดข่าวเลิกเล่นการเมือง เรียกร้องความสนใจ คนก็ยังไม่ตัดประเด็นนี้ทิ้ง
อย่างไรก็ตาม ข่าวแว่วมาจากก๊วนสิงห์ เหลิมซึ่งเป็นส.ส.อีสานในพรรค 10 กว่าคน ระบุในทำนองว่า เมื่อช่วงหัวค่ำก่อนที่ร.ต.อ. เฉลิมจะลาออก ได้นัดส.ส.ในก๊วนมากินข้าวเย็น พร้อมวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองร่วมกัน
โดยร.ต.อ.เฉลิมออกอาการเซ็งว่าศึกซักฟอกที่ผ่านมา ไม่เป็นไปตามแผน
กล่าวคือ เบื้องต้นตั้งใจจะให้นายมิ่งขวัญซึ่งเปิดตัวเป็นผู้นำการอภิปรายเต็มตัว พร้อมมีชื่อเป็นนายกฯ ในญัตติแนบท้าย โดนพลพรรคประชาธิปัตย์ที่แก่กล้าพรรษาการเมือง ย้อนศรไล่ทุบตายคาเขียง
แต่พอเอาเข้าจริง หลังเสร็จศึกปรากฏว่า โพลเกือบทุกสำนักให้คะแนนฝ่ายค้านออกมาดีเกินคาด บางแห่งยังให้นายมิ่งขวัญชนะนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยซ้ำ
กลับกลายเป็นว่า 'เฮียมิ่ง-ฆ่าไม่ตาย'
อีกทั้ง สิงห์เหลิม ยังเห็นว่ารายการใหญ่ๆ ที่จะมีเวทีสภาให้ขึ้นโชว์ตัวนั้นหมดแล้ว ประกอบกับการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ใกล้มาถึง ระหว่างนี้ตำแหน่งส.ส.จึงไม่ผลต่อชีวิตตัวเองเท่าใดนัก
"แม้ร.ต.อ.เฉลิมลาออกจากส.ส. แต่ไม่ลาออกจากสมาชิกพรรค"
"และไม่วางมือทางการเมือง หรือออกไปตั้งพรรคใหม่แน่นอน จะยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย ช่วยพวกผมรณรงค์หาเสียงเหมือนเดิม"
นายธเนศ เครือรัตน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย คนใกล้ชิดร.ต.อ.เฉลิม เผยอนาคตของหัวหน้ากลุ่ม
พร้อมระบุเหตุผลการลาออกด้วยว่า ร.ต.อ.เฉลิมอยากมีเวลาลงพื้นที่ช่วยหาเสียง โดยไม่ติดเงื่อนไขประชุมสภา เพราะการเลือกตั้งใกล้เข้ามาทุกขณะ ล่าสุดตอบรับแล้วว่า จะไปช่วยส.ส.อีสานหาเสียง เริ่มจาก จ.ศรีสะเกษ เป็นแห่งแรก 28 มี.ค.นี้
ที่สำคัญ ในการเลือกตั้งรอบใหม่ ร.ต.อ.เฉลิมอาจลงเลือกตั้งด้วย ซึ่งส.ส.อีสานจะสนับสนุนเช่นเดิม
"ยอมรับว่าท่านอาจน้อยใจบ้าง ซึ่งไม่ปฏิเสธว่าการอภิปรายครั้งที่ผ่านมาก็มีส่วน"
"แต่เมื่อคืนวันที่ 22 มี.ค. ผมและส.ส.ที่ให้ความเคารพนับถือ เข้าไปพบพูดคุยกับร.ต.อ. เฉลิมที่บ้านริมคลอง ขอร้องไม่ให้ลาออกแล้ว แต่ไม่เป็นผล"
นายธเนศ กล่าวทิ้งท้าย
ปัญหาความขัดแย้งระหว่างร.ต.อ.เฉลิมกับนายมิ่งขวัญ ก่อตัวขึ้นตั้งแต่นายมิ่งขวัญเริ่มเข้ามามีบทบาทในพรรค ภายใต้การสนับสนุนของกลุ่มส.ส.เหนือและอีสาน 70-80 คน
นำโดย นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู, นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ ส.ส.สัดส่วน และสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย
ผ่านน้ำเลี้ยงท่อใหม่ที่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าใคร เป็นคนเปิดวาล์ว
สองกลุ่มนี้มีแนวคิดต่างกันสิ้นเชิง โดยร.ต.อ.เฉลิมยังเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นจุดขายสำคัญของพรรค จึงสนับ สนุนน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ
ขณะที่กลุ่มของนายมิ่งขวัญ ไม่ต้องการให้เกิดภาพนายใหญ่และเครือญาติตระกูลชินวัตรครอบงำพรรคอีก พรรคจะได้มีพื้นที่ทางการเมือง ไม่ต้องถูกยุบตัดตอนอยู่เรื่อยๆ
จึงเสนอนายมิ่งขวัญเป็นนายกฯ เพื่อเป็นทางออกของความขัดแย้งทางการเมือง
ปัญหาระหว่าง 2 กลุ่มนี้ปะทุขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ถึงขั้นเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้เกิดภาพความชัดเจนถึงคนที่จะชูเป็นนายกฯ คนต่อไป
และทุกครั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องลงมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เรื่องจึงจะยุติ
ครั้งนี้ก็เช่นกัน นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ นำสารของนายใหญ่มาถ่ายทอดทันที
ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณทราบเรื่องแล้ว ไม่ได้ตกใจ แค่แปลกใจเล็กน้อย ทั้งที่เพิ่งคุยกับร.ต.อ.เฉลิมเมื่อค่ำวันที่ 22 มี.ค. อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณฝากข้อความถึงประชาชนว่าให้สบายใจได้ แค่ปรากฏการณ์ภายในพรรคเล็กน้อย กก.บห.จัดการได้
"ขอให้สบายใจ การลาออกของร.ต.อ.เฉลิมไม่ทำให้การทำงานของพรรคเพื่อไทยมีอุปสรรค ยังคงเดินหน้าทำความสุขให้เกิดขึ้นกับประชาชน"
นายนพดล กล่าวอ้างคำพูดพ.ต.ท.ทักษิณ
พร้อมยืนยันด้วยว่า คนที่จะชูเป็นนายกฯ กับหัวหน้าพรรคเป็นคนละคนกัน เพื่อป้องกันการถูกยุบพรรคและตัดสิทธิ์การเมือง โดยพรรคจะเปิดชื่อแคนดิเดตนายกฯ หลังการยุบสภาซึ่งจะชัดเจนต้นเดือนพ.ค.นี้
ต้องจับตาว่าชื่อที่เปิดมา จะช่วยลดหรือเพิ่มความขัดแย้ง?