WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, March 25, 2011

′ณัฐวุฒิ′

ที่มา มติชน



โดย ปราปต์ บุนปาน

(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 24 มีนาคม 2554)

หลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวตามคำสั่งศาลอาญา แกนนำ นปช.ระดับ "แม่เหล็ก" อย่าง "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" ก็ขึ้นปราศรัยใหญ่บนเวทีการชุมนุมหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมาแล้ว 2 ครั้ง

เป็นการขึ้นปราศรัยในช่วงเวลาตี 2 ทั้งคู่ นัยว่าคือกลยุทธ์ดึงดูดคนเสื้อแดงให้ปักหลักบนถนนราชดำเนินจนการชุมนุมเลิกรา

และดูเหมือนกลยุทธ์ดังกล่าวจะประสบผลสำเร็จด้วยดี

อย่างไรก็ตาม ในระยะหลังๆ ณัฐวุฒิและแกนนำ นปช. ถูกวิพากษ์วิจารณ์จาก "แดงเสรีชน" จำนวนไม่น้อย ถึงปัญหาแนวทางการต่อสู้แบบ "ประนีประนอม"

กระทั่งบางครั้งเกิดความเชื่อว่าแกนนำหรือการ์ด นปช. อาจร่วมมือกับอำนาจรัฐในการสอดส่องคนเสื้อแดงบางกลุ่ม

จนส่งผลให้เป้าหมายซึ่งคนเสื้อแดงบางส่วนคาดหวังไว้ อาจกลายสถานะเป็นเพียงปลายทางที่เดินไปไม่ถึง

นี่เป็นกระบวนการถกเถียงและคลี่คลายตัว ที่ขบวนการประชาธิปไตยซึ่งเต็มไปด้วย "ความหลากหลายภายใน" จำเป็นต้องเผชิญ

นอกจากนี้ เป็นไปได้ว่าณัฐวุฒิ, แกนนำ นปช. และพรรคเพื่อไทย อาจกำลังเผชิญหน้าอยู่กับปัญหาอีกชุดหนึ่ง อันแตกต่างไปจากคนเสื้อแดงกลุ่มอื่นๆ

แต่ถึงที่สุดแล้ว ณัฐวุฒิก็ต้องก้าวเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า ด้วยฐานะกำลังสำคัญในการปราศรัยหาเสียงของพรรคเพื่อไทยอยู่ดี

หากมองย้อนกลับไป เส้นทางทางการเมืองของเขามีความน่าสนใจอยู่มิใช่น้อย


จากนักโต้วาที และนักแสดงในรายการ "สภาโจ๊ก" สู่นักการเมืองตัวเล็กๆ ที่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก

ทว่าสถานการณ์หลังรัฐประหาร 2549 และสภาวะทางการเมืองหลังการยุบพรรคพลังประชาชน กลับค่อยๆ หล่อหลอมให้ณัฐวุฒิกลายเป็นนักการเมืองและนักต่อสู้บนท้องถนนคนสำคัญ

ผู้พัฒนาลีลาการพูดจาและองค์ความรู้ทางการเมืองไทยขึ้นมาอย่างน่าจับตามอง

เขาได้ใจจากแม่ยก ได้รับการยอมรับจากนักวิชาการบางส่วน

ขณะเดียวกัน มีการปราศรัยของณัฐวุฒิซึ่งถูกยกให้เป็น 1 ในคำปราศรัยที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยสมัยใหม่

ที่สำคัญ หากไม่มีอะไรผิดพลาด ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อาจได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งในอนาคต

น่าสังเกตด้วยว่า นักการเมืองหนุ่มที่ไม่ได้มีประวัติครอบครัวและประวัติการศึกษาน่าสนใจอย่างณัฐวุฒิเติบโตขึ้นมาในจังหวะรวดเร็วก้าวกระโดด ท่ามกลางสภาวะ "อปกติ" ของระบอบประชาธิปไตยไทย

ที่รัฐบาลซึ่งมาจากการเลือกตั้งถูกทำรัฐประหาร, พรรคการเมืองหลายพรรคที่มีฐานคะแนนเสียงจากประชาชนถูกยุบ และนักการเมืองชุดใหญ่ถูก "ชำระล้าง" ออกจากเวทีการเมืองที่ถูกมองว่าสกปรกโสมม

ถ้าวงจรผิดปกติเช่นนั้นหมุนย้อนกลับมาอีกหน

สังคมการเมืองไทยก็อาจให้กำเนิด "ณัฐวุฒิ" ขึ้นมาอีกหลายคน

และคาถาต่อต้านอำนาจนอกระบบแบบทีเล่นที่ว่า "อียิปต์ ตูนิเซีย ลิเบีย ลิเบีย ตูนิเซีย อียิปต์"

ก็อาจมีความหมายในเชิงทีจริงมากยิ่งขึ้น