ที่มา Thai E-News
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
24 มีนาคม 2554
หลังจากเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำไม่เหมาะสมของนักร้องเพลงเพื่อชีวิตรุ่นใหญ่ "แอ๊ด คาราบาว" หรือนายยืนยง โอภากุล โดยทุ่มกีตาร์ลงพื้นก่อนเดินลงจากเวที ในงานประกาศผลรางวัลสีสันอวอร์ด ครั้งที่ 23 เมื่อคืนวันที่ 23 มีนาคม ที่โรงแรมทาวน์ อิน ทาวน์ แอ๊ด คาราวบาว ได้ออกมาแถลงชี้แจงสาเหตุที่ระเบิดอารมณ์ดังกล่าวเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่บริษัท เฟรช แอร์ เฟสติวัล จำกัด ย่านอาร์ซี
โดยมี นายทิวา สาระจุฑะ บรรณาธิการนิตยสารสีสัน เจ้าของงานสีสันอวอร์ด และนายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เฟรช แอร์ เฟสติวัล จำกัด ผู้จัดคอนเสิร์ต มหกรรมคอนเสิร์ต 30 ปี คาราบาว ร่วมด้วย
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการประกวดรางวัลนักร้องเดี่ยวหญิงยอดเยี่ยม กับนักร้องเดี่ยวชายยอดเยี่ยม โดยวงคาราบาวขึ้นแสดงเต็มวง ในเพลง "เฒ่าทะเล" ขับร้องโดยนายปรีชา ชนะภัย หรือเล็ก คาราบาว จากนั้นก็เตรียมลงจากเวที เพื่อให้มีการประกาศรางวัลตามคิวที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม นายมรกต โกมลบุตร หรือโด๋ว ดีเจคลื่นแฟตเรดิโอ 104.5 บอกให้ผู้ร่วมงานปรบมือเรียกร้องให้วงคาราบาวขึ้นมาร้องเพลงต่อ ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นมาตามคำเรียกร้อง และกล่าวหยอกเย้ากับผู้ชมอย่างสนุกสนาน โดยผู้ชมบางส่วนตะโกนแซวขึ้นไปบนเวทีเป็นระยะ ในช่วงนั้นเองเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เมื่อ แอ๊ด คาราบาว ที่ขึ้นมาสะพายกีตาร์ทำท่าจะเล่นต่อ ได้ถอดสายสะพายทุ่มกีตาร์ลงพื้นเวที แล้วเดินลงจากเวทีไปอย่างรวดเร็ว สร้างความงุนงงให้แก่คนในงาน
แอ๊ด คาราบาว แถลงข่าว ชี้แจงว่า "ผมขอโทษ และยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนั้นผมอยู่ในอารมณ์โมโหจริงๆ เนื่องจากแอมป์กีตาร์ และไมโครโฟนของผมไม่ดัง ด้วยความผิดพลาดของลูกน้องผมเอง ที่เซตอุปกรณ์ไม่ดี ซึ่งผมพยายามเรียกน้องมาแก้ไขถึง 2 ครั้ง แต่เขาก็ไม่สนใจ ทำให้ผมฟิวส์ขาด เลยเขวี้ยงกีตาร์ลงพื้น ผมต้องขอโทษทิวา ที่ต้องทำให้งานสีสันอวอร์ดต้องด่างพร้อย แต่เป็นเรื่องของอารมณ์ศิลปินจริงๆ ซึ่งผมไม่อยากให้เกิดเรื่องขึ้นอีก"
ส่วนกระแสข่าวที่ว่าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปด้วย จึงทำให้เกิดอารมณ์ร้อนนั้น แอ๊ด คาราบาว ยอมรับว่าดื่มจริง แต่ไม่ถึงกับเมา แต่เป็นเพราะเรื่องอุปกรณ์ผิดพลาด ซึ่งเคยเกิดเรื่องมาครั้งหนึ่งแล้วในงานคอนเสิร์ต 30 ปี คาราบาว จึงโกรธมากขึ้น เพราะไม่มีการแก้ไขให้ดีขึ้น
"การที่ขว้างกีตาร์เหมือนเป็นการประชดเขา ผมก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้เรียกลูกน้องมาเคลียร์แล้วเมื่อเช้าวันที่ 24 มีนาคม ถ้าสมัยก่อนผมคงไม่ใช่แค่ขว้างกีตาร์ ผมคงชกไปเลย ถ้าพ่อผมอยู่ คงได้รับโทรศัพท์ด่าไปแล้ว แต่เมื่อพ่อผมเสียไปแล้ว ผมก็พยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่ และคงไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก ต้องยอมรับว่าผมก็เหนื่อย พอขึ้นคอนเสิร์ต แล้วไม่ได้นอนมา 2 วัน จริงๆ งานสีสันอวอร์ดไม่อยากมาด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะน้าทิวากับผมรู้จักสนิทสนมกันมานาน และขอร้องให้มาโชว์ ผมจึงยอมรับปาก"
"ส่วนที่มีคนบอกว่าผมไม่พอใจที่คนตะโกนด่าในงานนั้น (ในคลิปมีคนดูตะโกนว่าอยากฟังผลประกวดมากกว่าอยากฟังแอ๊ดร้องเพลง) ตรงนี้ไม่เกี่ยวเลย และไม่มีคนตะโกนด่าด้วย มีแต่ตะโกนขอเพลงว่าอยากให้เราร้องอีก ซึ่งเราเองก็อยากจะร้องเหมือนกัน แต่มันดันเกิดปัญหา ซึ่งถามว่าผมโกรธไหม ผมก็ไม่ได้โกรธ คงต้องโทษที่ลูกพี่มันไม่ดี ไม่สามารถสอนลูกน้องให้ดีได้ ใจจริงก็อยากไล่ออก แต่สงสารลูกเมียมัน จะอยู่จะกินยังไง และผมไม่เคยไล่ใครในวงออก ทำงานและปรับจูนกันไป ต้องขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน และลำบากที่จะต้องมาฟังผมอธิบายเรื่องนี้ ขอบคุณแฟนๆ พี่น้องทุกคนที่ให้กำลังใจ แต่มันเป็นเรื่องของอารมณ์ที่ตอนนั้นผมทนไม่ได้จริงๆ"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาเคยฟิวส์ขาดขนาดนี้หรือไม่ นักร้องชื่อดังกล่าวว่า เคยเตะคนดูมาแล้ว แต่ในฐานะที่เป็นคนของประชาชน จึงออกมาชี้แจงเรื่องนี้ ไม่อยากให้วัยรุ่นเอาเยี่ยงอย่าง ตอนนี้รู้สึกเสียใจมาก และเสียดายกีตาร์ตัวนั้น เพราะเพื่อน (ทศพร หงส์นัน) เป็นคนซื้อให้ในวันเกิด หลังจากเกิดเหตุการณ์ พอตื่นมาดูกีตาร์ก็เห็นว่าสามารถซ่อมได้ก็เลยสบายใจขึ้น
*******
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:
-แคมเปญเสื้อแดง40ล้านคนบอยคอตคาราบาวฮ็อตในเวบสนุกด็อตคอม 2วันยอดคนแห่อ่านเกินครึ่งแสน
วินิจ เลิศรัตนชัย มืออีเว้นต์คู่บุญเนวินกับงานวันพ่อ ถึงยุคพอเพียงอลังการ500ล้านงบประมาณจากภาษี