WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, March 25, 2011

ศาลยกฟ้องอดีตผู้สมัคร ส.ส.ปชป.แอบอ้างเบื้องสูง เคลียร์ตำรวจบางเขนคดีละเมิดลิขสิทธิ์

ที่มา มติชน

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลพิพากษายกฟ้อง นายปริญช์ มาลากุล ณ อยุธยา อายุ 48 ปี อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และประชากรไทย จำเลยในความผิดฐานดูหมิ่นพระราชินีและรัชทายาท ปลอมและใช้เอกสารปลอม

ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญาเป็นโจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2553 จำเลยทำหนังสือ มีตราประจำพระองค์ และลายพระหัตถ์ ส่งให้พนักงานสอบสวน สน.บางเขน โดยอ้างว่า น.ส.จุฬาลักษณ์ ฟอสเตอร์ หรือหม่อมอุ๋มอิ๋ม สั่งให้นำมาให้ ตำรวจตรวจดูแล้วเป็นหนังสือไม่ปิดผนึก และมีข้อความทำนองว่าให้ตำรวจช่วยเหลือ น.ส.จุฬาลักษณ์ เกี่ยวกับคดีละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งต่อมา น.ส.จุฬาลักษณ์เดินทางมาพบตำรวจเพื่อวิ่งเต้นเคลียร์แผงจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งตำรวจ สน.บางเขนไม่เชื่อว่าเป็นจดหมายจริง จึงตรวจสอบไปยังตำรวจประจำสำนักพระราชวัง พบว่าไม่เคยมีหนังสือฉบับดังกล่าว และ น.ส.จุฬาลักษณ์ก็ไม่ใช่ ม.ล.จุฬาลักษณ์ ไม่ใช่ราชนิกูล แต่เป็นผู้ต้องหารับของโจรของสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ตำรวจจึงจับกุมคนทั้งสองไว้ได้ จำเลยให้การปฏิเสธไม่ได้ร่วมกระทำผิดกับ น.ส.จุฬาลักษณ์

ศาลพิเคราะห์ว่า โจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่าจำเลยเกี่ยวข้องกับ น.ส.จุฬาลักษณ์ ปลอมหนังสือฉบับนี้อย่างไร และจำเลยเพียงนำจดหมายมาส่งแทน น.ส.จุฬาลักษณ์แล้วก็ไม่ได้กระทำอย่างใดต่อไปอีก ฟังไม่ได้ว่าจำเลยทำและใช้เอกสารปลอม อีกทั้งไม่มีพิรุธว่าได้รับประโยชน์จากการใช้หนังสือปลอมแต่อย่างใด และจำเลยก็ไม่ได้เป็นกลุ่มผู้ต้องหาคดีละเมิดลิขสิทธิ์ จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยแอบอ้างและดูหมิ่นฯตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ น.ส.จุฬาลักษณ์ ศาลอาญามีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกในความผิดฐานแอบอ้างและดูหมิ่นเบื้องสูง ในกรณีเดียวกันนี้รวม 2 สำนวน โดยสำนวนแรกศาลลงโทษจำคุก 3 ปี 2 เดือน สำนวนที่สองลงโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน