ที่มา Thai E-News
โดย ปาแด งา มูกอ
24 มีนาคม 2554
วันนี้ผมได้กลิ่นบูดูทางภาคใต้ บวกกับกลิ่นปลาร้า ที่ภาคอีสาน กลิ่นนี้ไม่สู้จะหอมซักเท่าไหร่
เพราะมันเป็นกลิ่นที่มาจากแผนลับ แผนหนึ่งที่หน่วยความมั่นคงกำลังปฏิบัติงานอยู่ในขณะนี้ ผมเพียงเตือนให้ท่านชาวเว็ปเสื้อแดงทุกท่าน ได้โปรดใช้วิจารณญาณ โปรดใช้สติให้รอบคอบ เพราะพวกเราส่วนใหญ่มันยังมือใหม่ในเรื่องของโลกไซเบอร์ พลั้งเผลอหลับในอาจลงข้างทางหรือตกเหวสูงได้
แผนลับที่กล่าวถึง เริ่มมีการวางแผนในรูปแบบใหม่เพื่อให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ภายหลังที่แกนนำทั้ง 7 ได้รับการประกันตัวออกมาจากบ้านไทรทองหลังใหญ่
หลังจากที่เพลี่ยงพล้ำกับชาวเนทที่โตวันโตคืนในช่วงกลุ่มเสื้อแดงกำลังจะรวมพลังครั้งยิ่งใหญ่
ที่เพลี่ยงพล้ำก็เกิดจากการหวงความรู้ หวงวิชา ของเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงนั่นเอง กลัวคนอื่นเขาจะเก่งกว่า หรือขึ้นมาเทียบรัศมี
อย่างเช่นพ่อญาณแห่งดีเอสไอ สมัยอยู่กรมตำรวจก็อย่างงั้นๆ ได้เปรียบกว่าตำรวจคนอื่นที่ไม่ต้องออกไปโบกจราจรตากแดดตากฝน เลยมีเวลาฝึกฝนเล่นเนทจนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญทางเนท แต่เชี่ยวชาญไปในทางจับผิดชาวบ้านนี่ซิ น่ากลัว
ผมฟันธงได้เลยครับ ว่า ในหน่วยงานด้านความมั่นคงทุกหน่วย มีเจ้าหน้าที่ไม่กี่ตัวครับที่เชี่ยวชาญในเรื่องเนท ในเรื่องแฮกเกอร์โดยเฉพาะ
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงทำให้หน่วยงานดังกล่าวจำเป็นต้องสังคายนาครั้งใหญ่ เพื่อให้ทันสมัยเท่าเทียมกับชาวเนทเอกชนทั้งหลายที่กำลังแพร่ขยายเครือข่ายมากขึ้นเรื่อยๆ
แผนลับครั้งนี้ มันก็ยังหนีไม่พ้นในวงจรอุบาทว์แบบเก่าๆอีกล่ะครับ อย่างที่ผมบอกไปแล้วหลายครั้งหลายหนแล้วครับว่า สงครามไซเบอร์ มันได้เริ่มขึ้นแล้ว ทีนี้ใคร ฝ่ายไหนจะเก่งกว่าใคร เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ
แต่เนื่องจาก สงครามรูปแบบใหม่นี้ พลังมวลชนคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ระดับรากหญ้า ผมกลัวว่าบรรดาท่านลุงป้าน้าอาว์จะตามไม่ทัน ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของพวกเราชาวเนทตัวจริง ของจริง ของปลอมไม่เกี่ยวน่ะเว้ย ทุกท่านต้องออกมาช่วยกันน่ะครับ ถล่มแม่งไปเลย
ประเทศไทยถึงเวลาแล้วที่ต้องสู้กันแบบนี้ เรามันมีแต่เพียงปืนฉีดน้ำอันเดียวจะไปสู้กับมันได้ยังไง ก็ต้องสู้กันแบบเนทๆนี่แหล่ะ
แผนลับรูปแบบใหม่ที่กล่าวถึง มีดังนี้ครับ
1.ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งรับผิดชอบเรื่อง สงครามไซเบอร์โดยเฉพาะ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เชี่ยวชาญทางเนท บุคลากรที่เชี่ยวชาญเรื่องเนท เรื่องแฮกเกอร์จากเอกชน
2. เริ่มปฏิบัติงานสืบสวน สืบหา ติดตาม บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ฝักใฝ่กลุ่มเสื้อแดง
3. แยกกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน ใครแดง ใครเหลือง ใครเขียว ใครช้ำเลือดช้ำหนอง
4. ค้นหาแกนนำ,หัวหน้า,ผู้ริเริ่ม ในกลุ่มเป้าหมาย ออกจากแนวร่วมหรือกลุ่มผู้สนับสนุน
5. ตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนสรุป
6. รวบรวมรายชื่อแกนนำ,หัวหน้า,ผู้ริเริ่ม ไว้ทั้งหมด
7. ตรวจสอบประวัติ บรรดาแกนนำ,หัวหน้า,ผู้ริเริ่ม
8.-9. ปฏิบัติการ เข้าแฝง เข้าร่วม เข้ากลุ่ม กับกลุ่มเป้าหมายในทันที
10. รวบรวมหลักฐาน การนัดหมาย การเคลื่อนไหว
11. จัดการทำลาย ( มี 2 รูปแบบ แบบที่ 1 ดำเนินการทางกฎหมาย แบบที่ 2 เป็นผู้หายสาบสูญ)
นี่คือ แผนลับทำลายแดงทางอินเตอร์เนท
FACEBOOK ดีจริงหรือ???
ทีมนักวิจัยด้านความปลอดภัยบนอินเตอร์เน็ตเผย ผู้ใช้งานเว็บไซต์ สังคมออนไลน์ชื่อดัง facebook ถูกแฮกเกอร์จารกรรมข้อมูลกว่า 1.5 ล้านล็อกอินแล้ว...
ทีมนักวิจัยด้านความปลอดภัยในอินเทอร์เน็ต จาก VeriSign iDefense Labs ระบุว่า ชื่อล็อกอินผู้ใช้งานเว็บไซต์สังคมออนไลน์ยอดนิยม หรือ Facebook กว่า 1.5 ล้านผู้ใช้งาน อาจถูกนักจารกรรมข้อมูลหรือแฮคเกอร์ ลักลอบนำ USERNAME และ PASSWORD ไปขายในตลาดมืดกว่า 1 ล้าน 5 แสนบัญชี ประกาศขายคืนเจ้าของเดิมในเว็บไซต์ Carder.su ของรัสเซีย
ห้องวิจัยดังกล่าวอ้างว่า มีนักจารกรรมข้อมูลที่ชื่อ เคอร์ลอส (kirllos) ประกาศนำบัญชี FACEBOOK ออกมาขาย โดย ตั้งราคาล็อกอินตามจำนวนเพื่อน อาทิ หากมีเพื่อน 10 คน จะสนนราคาอยู่ที่ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 25 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 800 บาท) และหากมีเพื่อนมากกว่า 10 คนขึ้นไป ราคาจะเพิ่มเป็น 45 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1,450 บาท ) และอาจเพิ่มสูงขึ้นมากถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 32,300 บาท)
ริก ฮอเวิร์ด ผู้อำนวยการ VeriSign iDefense Labs กล่าวว่า กรณีขโมยล็อกอินเว็บไซต์สังคมออนไลน์ มาขายอย่างผิดกฎหมาย เกิดขึ้นมากที่สุดในบริเวณทางตะวันออกของยุโรป รวมถึงในสหรัฐฯ โดยวิธีการจะมีการสร้างหน้าเวปเทียม เพื่อให้ผู้ใช้บริการกรอกข้อมูล USERNAME และ PASSWORD รวมไปถึงการติดตั้งซอฟต์แวร์เพื่อจำการใส่รหัสบนแป้นพิมพ์ ข้อมูลสำคัญที่บรรดานักจารกรรมข้อมูลต้องการ คือวัน เดือน ปีเกิด ที่อยู่ โทรศัพท์ เพื่อนำไปใช้ปลอมลักษณะบุคคล ซึ่งอาจนำไปใช้ในการปลอมการทำธุรกรรมต่อไป
ขณะที่โฆษกของ Facebook แบรี่ ชนิทท์ พยายามติดต่อล่อซื้อข้อมูลจาก เคอร์ลอส "kirllos" นักจารกรรมข้อมูล กลับคืนมาแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ
การจารกรรมข้อมูลส่วนตัวทางอินเทอร์เน็ต นับเป็นอาชญากรรมอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งแฮกเกอร์จะจัดการเปลี่ยนพาสเวิร์ดเดิมของผู้ใช้งาน ทำให้เจ้าของตัวจริงไม่สามารถเข้าสู่ระบบใช้งานได้ รวมถึงอาจปล่อยสแปม หรือโปรแกรมอื่นๆ เพื่อทำลาย และก่อกวนระบบ หากเจ้าของต้องการข้อมูลทั้งหมดคืน ต้องมีการแลกเปลี่ยนบางประการ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการเรียกเก็บเงิน
สำหรับผู้ใช้งานเว็บไซต์สังคมออนไลน์ที่เกรงถูกจารกรรมข้อมูลนั้น สามารถแจ้งได้กับศูนย์ช่วยเหลือ Help Centre ของเว็บไซต์นั้นๆ