ที่มา มติชน กรณี ที่มีการไปแจ้งความเกี่ยวกับการให้การเท็จในศาลก็ดี การร้องให้ยุบ พท.ก็ดี เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินคดีกันไป แต่ไม่อาจเป็นเหตุให้กกต.ไม่รับรองคุณยิ่งลักษณ์ได้เลย
"จาตุรนต์ ฉายแสง" ประธานสถาบันศึกษาการพัฒนาประชาธิปไตย ทวิต วิจารณ์เรื่องการยังไม่รับรองคุณยิ่งลักษณ์ ดังนี้
ตามที่เป็น ข่าวจึงเหลืออีกประเด็นเดียวคือเรื่องทักษิณคิด เพื่อไทยทำและการที่นักการเมืองที่อยู่ระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิ์ช่วยคุณยิ่ง ลักษณ์หาเสียง
เรื่องนี้ประเด็นสำคัญที่สุดอยู่ที่ว่าตามกฎหมาย ผู้สมัครและพรรคการเมืองสามารถใช้ผู้ที่อยู่ระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิ์ทำอะไร ได้ ทำอะไรไม่ได้หรือพูดอีกอย่างหนึ่งคือผู้ที่อยู่ระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือก ตั้ง ถูกกฎหมายห้ามไม่ให้ทำอะไรบ้าง
ผู้ที่อยู่ระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งที่เป็นผลสืบเนื่องจากการยุบพรรคการเมืองนั้นถูกห้ามอยู่ใน 2 ส่วนด้วยกันคือ....
1.ห้ามไปก่อตั้งพรรคการเมือง ห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองใดๆ
2.ห้ามออก เสียงเลือกตั้งซึ่งมีผลให้ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งและไม่สามารถดำรง ตำแหน่งทางการเมืองบางตำแหน่งที่กำหนดคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งนั้นๆ ไว้ว่าจะต้องไม่อยู่ระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง จากการที่ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งจึงทำให้ผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์จึง ไม่สามารถเป็นสมาชิกพรรคการเมืองด้วย
โดยสรุปผู้ที่ถูกเพิกถอน สิทธิ์เลือกตั้งอันเป็นผลมาจากการที่พรรคการเมืองที่ตนเป็นกรรมการบริหาร พรรคถูกยุบไปจะถูกห้ามกระทำในสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้
- ห้ามเป็นสมาชิกพรรค ห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรค ห้ามร่วมกับผู้ใดก่อตั้งพรรคการเมือง ห้ามไปออกเสียงเลือกตั้ง ห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งและ
- ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่กฎหมายกำหนดคุณสมบัติไว้ว่าจะต้องไม่อยู่ระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งเช่นรัฐมนตรีเป็นต้น
ดัง นั้นจึงเห็นได้ว่าผู้ที่อยู่ระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งทั้ง111 และ 109 คนนั้นไม่ได้ถูกกฎหมายห้ามไม่ให้แสดงความคิดเห็นในเรื่องใดๆ ทั้งนี้รวมทั้งไม่มีกฎหมายใดห้ามบุคคลเหล่านี้หาเสียงให้แกผู้สมัครหรือพรรค การเมืองแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ผู้ที่อยู่ระหว่างการถูกเพิกถอนสิทธิ์ เลือกตั้งจึงยังคงมีสิทธิ เสรีภาพตามรํฐธรรมนูญและกฎหมายไทยที่จะแสดงความคิดเห็นหมือนคนไทยทั่วไปทุก ประการที่ผ่านมา ในระหว่างการหาเสียง ผู้ที่อยู่ระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งก็แสดงความเห็นอยู่บ่อยๆ เกี่ยวกับผู้สมัคร ทั้งสนับสนุนและไม่สนับสนุนซึ่งก็เท่ากับเป็นการช่วยหาเสียงนั่นเอง
และ ก็ไม่มีใครว่าอะไรที่ถูกเพ่งเล็งและเป็นประเด็นถกเถียงกันเรื่อยมาก็คือการ ไปช่วยปราศัยหาเสียง ซึ่งยังไม่มีข้อยุติในเรื่องนี้ในการเลือกตั้งครั้งก่อน พรรคพปช.เคยถามกกต.ว่าผู้ถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งทำอะไรได้แค่ไหน แต่กกต.ก็ตอบมาอย่างกำกวม
กกต.บอกว่าผู้ที่อยู่ระหว่างถูกเพิกถอน สิทธิ์เลือกตั้งถูกห้ามเป็นกรรมการบริหารพรรคการจึงไม่พึงทำอะไรที่เป็น หน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคแล้วก็เกิดการตีความเลยเถิด เลอะเทอะไปว่ารวมถึงการห้ามถ่ายรูปคู่กับผู้สมัคร ขึ้นเวทีหาเสียงหรือเดินตามช่วยหาเสียงด้วย
กกต.ไม่ได้มีระเบียบใดๆในเรื่องนี้อาจเป็นเพราะรู้ว่าตนเองไม่มีอำนาจ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้ห้าม แต่กกต.ก็อาศัยการตีความอย่างกำกวม
เมื่อ กกต.ตีความอย่างกำกวม พรรคการเมืองและนักการเมืองก็หลังจะได้ใบเหลือง ใบแดงจึงไม่กล้าให้ผู้ถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งขึ้นเวทีหรือช่วยหาเสียง
นอก จากนั้นผู้ที่อยู่ระหว่างก็มักถูกขอร้องไม่ให้ไปหาเสียงให้พรรคการเมืองหรือ ผู้สมัคร ถึงแม้จะอยู่คนละเวทีกันก็ตาม ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะความกลัว ไม่มีกฎหมายอะไรรองรับแม้แต่น้อย
ถ้าจะพูดให้เฉพาะเจาะจงลงไป ก็คงต้องมาดูว่าการช่วยหาเสียงเป็นการกระทำตามหน้าที่ของกก.บห.พรรคหรือไม่
กก ต.ใช้ตรรกะว่ากก.บห.พรรคมีหน้าที่ช่วยลูกพรรคหาเสียง เพราะฉะนั้นใครที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงย่อมกำลังทำเสมือนเป็นกรรมการปริหาร พรรคอยู่ เมื่อผู้ถูกเพิกถอนสิทธิ์ถูกห้ามเป็นกรรมการบริหารแล้วมาทำอะไรเสมือนเป็น กรรมการบริหารจึงผิดกฎหมาย
ยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นได้ง่ายๆ เช่นหมอที่อยู่ระหว่างถูกเพิกถอนใบประกอบโรคศิลป์ย่อมถูกห้ามสั่งจ่ายยาที่ เป็นอำนาจของหมอ ห้ามผ่าตัดคนไข้แต่หมอที่ถูกถอนใบประกอบโรคศิลป์ไม่ได้ถูกห้ามไม่ให้คุยกับ คนไข้ หรือห้ามทายาแดงให้คนไข้หรือเช็ดตัวให้คนไข้เพราะใครๆก็มีสิทธิ์ทำได้จะ บอกว่าเวลาหมอตรวจคนไข้ต้องคุยกับคนไข้ เพราะฉะนั้นใครคุยกับคนไข้ย่อมทำเสมือนเป็นหมอไม่ได้พลเมืองไทยจะถูกห้ามทำ อะไรก็ด้วยกฎหมายเท่านั้น การที่กกต.ห้ามผู้ถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งช่วยผู้สมัครหาเสียงจึงเป็นการ กระทำเกินกว่ากฎหมาย
ว่ากันตามกม. กรณี ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ กรณี111 109 ช่วยผู้สมัครหาเสียง ไม่เป็นเหตุให้กกต.สามารถให้ใบเหลืองหรือใบแดงแก่ผู้สมัครรายใดได้เลยการไม่ รับรองคุณยิ่งลักษณ์จึงเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลรองรับ แต่ที่แย่คือจะบอกว่ากกต.ไม่มีอำนาจก็ไม่ได้ เพราะกกต.อาจให้ใบเหลือง ใบแดงใครก็ได้กกต.สามารถให้ใบเหลือง ใบแดงใครก็ได้โดยไม่ต้องมีพยานหลักฐานว่าได้ทำอะไรผิดหรืออาจตัดสินตรงข้าม กับพยานหลักฐานก็ได้และเมื่อตัดสินแล้วก็สิ้นสุด