WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, November 4, 2011

‘สุรชัย’ ไม่ได้ประกัน ทนายเตรียมยื่นเรื่องศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดสิทธิผู้ต้องหา

ที่มา ประชาไท

4 พ.ย.54 นายคารม พลพรกลาง ทนายความของนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือ แซ่ด่าน ผู้ต้องขังคดีหมิ่นสถาบัน มาตรา 112 เปิดเผยผลการยื่นประกันตัวนายสุรชัยว่า ศาลยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่า เป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง และเป็นการกระทำที่กระทบกระเทือนจิตใจของประชาชนโดยทั่วไป ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีการยื่นประกันตัวนายสุรชัยไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งตั้งแต่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 22 ก.พ.54 แต่ศาลยกคำร้อง โดยในครั้งนี้ใช้หลักทรัพย์เป็นพันธบัตรมูลค่า 1 ล้านบาท

นายคารม กล่าวด้วยว่า เขาเตรียมจะยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันตัวสุรชัยภายในสัปดาห์หน้าพร้อม กรณีของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยซึ่งศาลก็เพิ่งมีคำสั่งไม่ให้ประกันเช่นกัน ที่ผ่านมาไม่เคยอุทธรณ์คำสั่ง แต่ศาลชั้นต้นไม่ให้ประกันตัวโดยให้เหตุผลเดิมหลายครั้ง ทั้งที่ในชั้นนี้ยังเป็นเพียงข้อกล่าวหาและถือเป็นคดีทางการเมือง จำเลยก็ปฏิเสธตั้งแต่ชั้นสอบสวนและขอต่อสู้คดี ไม่มีเหตุในการหลบหนี เพราะที่ผ่านมาแม้โดนแจ้งข้อหาเหล่านี้มานานจำเลยก็ไม่เคยหลบหนี อีกทั้งหากได้รับการปล่อยตัวก็ไม่สามารถไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานใดๆ ได้ เพราะทุกอย่างอยู่ในสำนวนหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม หากศาลอุทธรณ์ยังยืนตามศาลชั้นต้นในการไม่ให้ประกัน ก็จะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไปว่า คำสั่งยกคำร้อง ไม่ให้ประกันตัวนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะในรัฐธรรมนูญมีหลายมาตราที่ระบุถึงสิทธิของผู้ต้องหาในการประกันตัว และผู้ต้องหาถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำตัดสิน

นายคารม ยังกล่าวถึงการสืบพยานคดีนายสมยศด้วยว่า จะมีการสืบพยานโจทก์นัดแรกวันที่ 21 พ.ย. ที่ศาลจังหวัดสระแก้ว จากนั้นจะต้องเดินทางไปอีกหลายจังหวัด เช่น เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สงขลา เนื่องจากอัยการไม่นำพยานมาสืบที่กรุงเทพฯ ซึ่งได้ทำคำคัดค้านไปแล้วเพราะเกรงจำเลยจะเกิดอันตรายจาการเดินทางไปหลาย จังหวัดและเห็นว่าเป็นเหมือนการกลั่นแกล้ง แต่ท้ายที่สุดศาลเห็นชอบด้วยกับอัยการ