ที่มา มติชน
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(สทอภ.) และคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ดอนเมือง-หลักสี่ และบางเขนว่า ขณะนี้น้ำในบริเวณดังกล่าวทรงตัว มีน้ำไหลเข้ามาเติมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น น้ำในพื้นที่ดังกล่าว มีระดับไม่สูงขึ้น เพียงแต่ขยายวงกว้างมากขึ้น หากการกระสอบทรายยักษ์ (บิ๊กแบ๊ก) กั้นแนวรังสิต-เมืองเอก ได้เสร็จตามกำหนดในวันที่ 4 พฤศจิกายน นั้น น้ำก็จะไม่เติมเข้ามาในพื้นที่อีก การจัดการน้ำจะเป็นการระบายน้ำออกเพียงอย่างเดียว แต่อุโมงค์ระบายน้ำอยู่บริเวณพระราม 9 ซึ่งอยู่ไกลจากบริเวณที่น้ำท่วมอยู่ จึงจะต้องใช้เวลาในการนำน้ำออกจากพื้นที่ โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน สถานการณ์น้ำในพื้นที่ดอนเมือง หลักสี่ และบางเขน จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทุกพื้นที่ไม่มีน้ำขัง
ส่วนพื้นที่ตะวันตกของ กทม. หรือฝั่งธนบุรีนั้น ตอนนี้ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ เป็นน้ำท่วมที่ล้นจากอ้อมมาจากคลองมหาสวัสดิ์ ปกติฝั่งธนบุรีมีพื้นที่สูงกว่า กทม.แต่ขีดความสามารถป้องกันมีน้อยกว่า กทม. เพราะฝั่งธนบุรีใช้ระบบแก้มลิงอาศัยหลักการน้ำขึ้นน้ำลง โดยคลองทางฝั่งธนบุรีเป็นแบบแกมลิงหมด ซึ่งปัญหาใหญ่ฝั่งนี้คือรอยรู้รั่วเมื่อปิดไม่ได้ระบบประสิทธิภาพแก้มลิงก็ ต่ำลง พอน้ำขึ้นก็ทำให้น้ำรั่วเข้ามาทางรูที่รั่ว อีกทั้งน้ำในตอนเหนือคลองมหาสวัสดิ์ขึ้นไป ถึง จ.พระนครศรีอยุธยายังมีมากถึงประมาณ 1,700-2,000 ล้านลบ.ม. เมื่อดูจากสถานการณ์นี้แล้วก็คาดว่า พื้นที่ในฝั่งธนฯจึงจะท่วมไปอีกประมาณ 1 เดือน