ที่มา Thai E-News
โอฬาร ชนะสงคราม แกนนำการชุมนุมกล่าวแถลงข่าวสรุปความเป็นมาของปัญหาและข้อเรียกร้อง
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
5 พฤศจิกายน 2554
กลุ่มเกษตกรผู้ที่ไร้ที่ดินทำกิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในนามกลุ่มจุดไฟในสายลมภาคใต้ ซึ่งมีสมาชิกประมาณ 5,000 คน ได้เดินทางมาร่วมกันชุมนุมขับไล่นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ที่บริเวณสะพานนริศ อำเภอเมือง สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ผู้ชุมนุมให้เหตุผลว่า ไม่พอใจที่นายธีระยุทธไม่สนองนโยบายรัฐบาลเรื่องให้เกษตรกรเช่าที่ดินทำกิน ได้รายละ 10 ไร่ โดยกำหนดเหลือเพียงรายละแ่ค่ 2 ไร่ และให้เฉพาะบริวารญาติมิตรนักการเมืองอิทธิพลในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายโอฬาร ชนะสงคราม แกนนำการชุมนุมแถลงว่า เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา กลุ่มเกษตกรไร้ที่ทำกิน ได้เดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่ทำเนียบรัฐบาล ท่านก็ได้มารับหนังสือ และ สัญญาว่า จะจัดการให้เป็นไปตาม นโยบายเดิมของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ในอดีต ที่จะให้เกษตรกรได้เช่าทำกินรายละ 10 ไร่
แต่พอเกษตรกรเดินทางกลับมาถึงสุราษฎร์ธานี ปรากฎว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด รู้การเคลื่อนไหวของกลุ่่มเกษตรกร ก็ชิงเรียกผู้ใหญ่บ้าน กำนัน มาบอกว่า ทางจังหวัดจะจัดสรรที่ให้คนละ 2 ไร่ และ รายชื่อของคนที่จะได้นั้นเป็นชื่อของลูกน้องนักการเมืองทั้งสิ้น การกระทำเช่นนี้ถือว่า เป็นพ่อเมืองแต่ไม่ดูแล และรักษาผลประโยชน์ให้ชาวบ้าน แต่ไปปกป้องผลประโยชน์ให้กลุ่มทุนผู้มีอิทธิพลในจังหวัด
ดังนั้นทางกลุ่มเกษตกรผู้ไร้ที่ทำกิน จึงต้องรวมตัวกันชุมนุมเพื่อขับไล่ผู้ว่าฯคนนี้ และจะได้ปักหลักอยู่จนกว่าผู้ว่าฯจะย้ายออกจากพื้นที่
สำหรับความเป็นมาของกรณีดังกล่าวนี้ ในอดีตกลุ่มเกษตกรไร้ที่ทำกินภาคใต้ ได้ยื่นเรื่อง ให้มีการปฎิรูปที่ดิน ในสมัยรัฐบาล ทักษิณ และรัฐบาลทักษิณก็ทำการปฎิรูปสำเร็จไปแล้ว 20,000 ไร่ โดยให้ประชาชนเช่า คนละ 10 ไร่ จากเดิมเป็นของกลุ่มทุนกลุ่มเดียว และ จะมีการปฎิรูปตามมาอีก 40,000 ไร่ โดยให้ประชาชนผู้ไร้ที่ทำกิน คนละ 10 ไร่ แต่น่าเสียดายที่ รัฐบาลทักษิณถูกยึดอำนาจเสียก่อน เรื่องการปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตกร จึงชะงักไป
ต่อมา ประชาชนผู้ไร้ที่ทำกิน ได้พากันเข้าไปยึดที่ดินของนายทุน ซึ่งเป็นที่ดินที่รอการปฎิรูปเพิ่ม และ หมดสัญญาสัมปทานแล้ว แต่นายทุนยังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ สวนปาล์ม 4-5 หมื่นไร่ มีรายได้เดือนหนึ่ง หลายสิบล้านบาท และเงินส่วนนี้ยังเป็นท่อน้ำเลี้ยงของนักการเมืองภาคใต้
ประชาชนไร้ที่ดินทำกินผู้ที่รอการปฎิรูปที่ดินแปลงนี้อยู่ เห็นว่า นายทุนไม่ยอมออก ทั้งที่หมดสัมปทานแล้ว ก็พากันเข้าไปยึด สวนปาล์ม
แต่ถูกกลุ่มนายทุน นักการเมือง และเจ้าหน้าที่รัฐ บางคนสมคบกันนำกำลังเข้าสลาย เผาทำลาย และยิงเกษตรกรบาดเจ็บ และล้มตาย ตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา ถึงปัจจุบัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย
รวมทั้งมีผู้บาดเจ็บ พิการอีกจำนวนมาก และ ที่ถูกจับกุมคุมขัง และ มีคดีความ อีกมากมาย และ ยังถูกกล่าวหาเป็นผู้ร้ายในสังคม โดยการใส่ร้าย บิดเบือนข้อเท็จจริง โดยกลุ่มผู้ที่มีอิธิพลในจังหวัด เช่น หลอกลวง สัญญาว่าจะได้ที่ทำกิน แล้ว มีการเรียกเก็บเงินจากผู้ชุมนุมเป็นรายหัว และอีกหลายๆเรื่อง ที่จะทำลายความชอบธรรมของกลุ่มแกนนำเกษตกรผู้ยากไร้
การบิดเบือนข้อเท็จจริงเหล่านี้ได้ถูก ปั้นแต่งขึ้นมาเป็นขบวนการ โดย นักการเมืองใหญ่ในจังหวัด ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ โดยผ่านสื่อที่รับใช้
และที่น่าแปลกใจก็คือว่า กลุ่มผู้ชุมได้ตั้งเวทีชุมนุมปราศรัยเรียกร้องมาสิบกว่าวันแล้ว มีสื่อมวลชนมาทำข่าว แต่ทางเราก็ไม่เห็นออกสื่อไหนเลย จึงเชื่อว่ามีการปิดข่าวความเคลื่อนไหวของประชาชน
ทางด้านนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดว่า คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์นี้จะเสนอเข้าที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 จำนวน 20-30 ตำแหน่ง โดยเกณฑ์การพิจารณาจะดูตามความเหมาะสม ไม่มีการย้ายล้างบาง และจะไม่มีการนำผลงานช่วยน้ำท่วมมาพิจารณาด้วย
เกษตรกรที่เข้าร่วมการชุมนุมให้สัมภาษณ์
********
ข่าวเกี่ยวเนื่อง
-ชาวสุราษฎร์ฯร้องถูกนายทุนสวนปาล์มฟ้อง ต้องเสียค่าขึ้นศาลนับล้าน ร้องรัฐยุติดำเนินคดีเร่งปฏิรูปที่ดิน
-ม็อบล้อม สวนปาล์ม ถูกยิงดับ1