ที่มา ประชาไท
ธงทองแถลง ภาคกลางน้ำลดต่อเนื่อง นครสวรรค์เริ่มฟื้นฟูแล้ว ส่วนสถานการณ์ กทม. หากดำเนินการวางแนวกระสอบทรายยักษ์แล้วเสร็จ จะลดการไหลของน้ำเข้าสู่ดอนเมือง หลักสี่ ลาดพร้าว บางเขน เตือนการทำลายคันกั้นริมคลองประปาจะส่งผลเสียหายต่อสาธารณะ
มติชนออนไลน์ รายงานว่าเมื่อคืนวานนี้ (3 พ.ย.54) เวลา 21.10 น. ณ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) อาคารกระทรวงพลังงาน ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย แถลงรายงานสถานการณ์อุทกภัย โดยสรุปว่าสถานการณ์ภาพรวมปริมาณน้ำที่ไหลมาจากตอนเหนือของประเทศตั้งแต่ใต้ จังหวัดนครสวรรค์ลงมา รวมถึงบริเวณน้ำท้ายเขื่อนจ้ำพระยา และระดับน้ำที่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จังหวัดปทุมธานีลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ซึ่งช่วงเวลานี้จังหวัดนครสวรรค์ได้เริ่มฟื้นฟูทำความสะอาดจังหวัดครั้งใหญ่ โดยจะมีกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ในวันเสาร์ที่ 5 พ.ย. นี้
ส่วนความคืบหน้าสำคัญในเรื่องการวางแนวป้องกันกระแสน้ำจากทิศเหนือบริเวณ รอยต่อระหว่างกรุงเทพฯ กับปทุมธานี ที่กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักดำเนินการร่วมกับกองทัพไทยและกรุงเทพมหา นคร เร่งดำเนินการวางกระสอบทรายยักษ์หรือบิ๊กแบ็กหนักใบละ 2 ตันเศษจำนวนหลายพันใบ สมทบกับกระสอบทรายใบเล็กจำนวนหลักแสนใบ ที่หากดำเนินการแล้วเสร็จจะทำให้กระแสน้ำที่ไหลเข้าสู่พื้นที่ดอนเมือง หลักสี่ ลาดพร้าวและบางเขนลดปริมาณลง ส่วนน้ำที่อยู่ในพื้นที่เดิมก็จะสามารถระบายลงสู่อ่าวไทยได้ในที่สุด ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ให้ความมั่นใจว่าการดำเนินการวางกระสอบทราย ยักษ์จะแล้วเสร็จวันพรุ่งนี้ และจะส่งผลดีต่อปริมาณน้ำทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ
ส่วนการเร่งระบายน้ำ ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีน้ำเอ่อสูงขึ้นในพื้นที่บางชัน ที่มีข้อสงสัยว่าเป็นเพราะการเปิดประตูกั้นน้ำระบายน้ำที่ใดที่หนึ่งโดย เฉพาะ ซึ่งต้องเรียนว่าการทำงานช่วงนี้มีปัจจัยต่าง ๆ ที่หลากหลายที่รวมกัน ทั้งเรื่องการสร้างความเข้าใจกับมวลชนตามชุมชนพื้นที่ต่าง ๆ เช่น พื้นที่บางชันหรือใกล้เคียงที่เกิดกรณีการพังทลายคันกั้นน้ำบางแห่ง เนื่องจากประชาชนมีความเดือดร้อนที่ต้องทนอยู่ในน้ำเป็นเวลานาน จึงต้องมีการเจรจาหารือร่วมกัน
โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ดูแล ความ ปลอดภัย อำนวยความสะดวกให้การเจรจาสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นด้วย เพราะช่วงนี้ประชาชนมีความเครียดค่อนข้างสูง หากมีการใช้อารมณ์เข้าหากันในการเจรจา ก็จะยากที่จะหาข้อยุติได้
ขณะที่วันนี้กรุงเทพมหานครประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมและจำเป็นต้อง อพยพเพิ่มเติมในพื้นที่เขตบางแค และแจ้งเพิ่มเติมให้เขตจตุจักร บางบอน บางกอกน้อย และภาษีเจริญเป็นพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเตรียมอพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย หรือศูนย์พักพิงที่ทางราชการจัดไว้ ส่วนน้ำที่ไหลหลากเข้าสู่บริเวณถนนพหลโยธินวันนี้ ได้เคลื่อนมาถึงสี่แยกรัชโยธิน ขณะที่น้ำบนถนนวิภาวดี-รังสิตก็ไหลมาคู่ขนานกันถึงประมาณที่แยกรัชวิภา
ส่วนสถานการณ์ของน้ำประปา โฆษก ศปภ. แถลงว่า การประปานครหลวง (กปน.) แจ้งว่า กปน. ได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการต่าง ๆ และกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ส่งแรงงานผู้ต้องขัง ช่วย กปน. ทำการปิดกั้นแนวคันกั้นน้ำริมคลองประปา ในจุดที่ถูกทำลายให้มีความสมบูรณ์ ซึ่งขณะนี้มีสภาพที่สามารถใช้งานได้ดีแล้ว สำหรับการผลิตน้ำที่โรงผลิตน้ำบางเขนที่เมื่อวานนี้ลดกำลังการผลิตน้ำไป 200,000 ลูกบาศก์เมตร จากกำลังการผลิตวันละ 3,100,000 ลูกบาศก์เมตร เหลือ 2,900,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน นั้น วันนี้ผู้ว่าการประปานครหลวงยืนยันว่าโรงผลิตน้ำบางเขนที่มีกำลังการผลิตน้ำ ใกล้จะเป็นปกติแล้ว ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้หารือและร่วมตรวจสอบกับ เจ้าหน้าที่ กปน. โดยมีความเห็นร่วมกันว่าคุณภาพน้ำประปาที่ กปน.ผลิตได้ขณะนี้มีความปลอดภัยและมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล
"ขอความกรุณาพี่น้องที่อยู่บริเวณใกล้แนวคลองประปา กรุณาช่วยยั้งคิด ยั้งทำสักนิดกับการรื้อทำลายคันกั้นน้ำริมคลองประปา เพราะมีผลเสียหายที่เกิดขึ้นกับสาธารณะ เกิดผลเสียหายขึ้นกับระบบการผลิตน้ำประปาของกรุงเทพมหานคร ซึ่งหมายความรวมถึงทุกคน จึงต้องขอฝากให้ช่วยกันระมัดระวังป้องกันดูแล รักษาประโยชน์ส่วนรวมด้วย" โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกล่าว