ที่มา ประชาไท
ในขณะที่เสรีภาพในการคิด ในการพูดและความยุติธรรมในสังคมล้มหายไปอย่างรวดเร็ว การปิดกั้นการแสดงออกและกระบวนการทำให้เชื่องผุดขึ้นในทุกๆตารางเมตร มหาวิทยาลัยที่เปรียบประดุจดั่งบ่อน้ำบำบัดความกระหายของราษฎร ผู้มีคำขวัญจับใจว่า"เสรีภาพทุกตารางนิ้ว" และมหาวิทยาลัยคู่แข่งทางอุดมการณ์อย่างมหาวิทยาลัยที่มีคำขวัญอันยิ่งใหญ่ ว่าเป็น"เสาหลักแห่งแผ่นดิน" กลับเร่งเร้าจัดงานเชื่อมสัมพันธ์กระชับไมตรีที่ดูเหมือนจะเป็นงานเหล่หญิง ส่องหนุ่มอวดโอ้การเป็นมหาวิทยาลัยที่"เก่งกว่า"เป็นจุดประสงค์หลักมากกว่า อย่าง"งานฟุตบอลประเพณี" ถึงแม้ว่าจะมีเหตุการณ์อุทกภัยหรือเหตุการณ์ทางการเมืองที่ร้ายแรงเพียงใด แต่งานก็ยังเลื่อนไปจัดในเดือนถัดๆมาอยู่ดี
เป็นเรื่องสมควรแล้วหรือที่เราจำเป็นต้องมีงานอย่างนี้ทุกๆปีไม่ให้ขาดตก บกพร่อง ในขณะที่เสรีภาพแห่งปัญญาที่นิสิตนักศึกษาจำเป็นต้องแสวงหาถูกริดรอน ในขณะที่เสรีภาพแห่งการแสดงออกที่เป็นปัจจัยพื้นฐานในการศึกษาถูกปิดกั้น ทำไมเราถึงไม่รู้สึกร้อนหนาวแต่อย่างไร เรายังมุ่งมั่นซ้อมหลีดอันตระการตราที่ค่าชุดการแสดงสามารถนำไปช่วยผู้ยาก ไร้หรือผู้ประสบภัยจากน้ำท่วมได้ทั้งจังหวัด หรือทั้งที่เวลาในการมุ่งมั่นซ้อมสแตนด์เหน็บแนมมหาวิทยาลัยคู่ตรงข้าม และสร้างอัตลักษณ์ความภูมิใจแบบสถาบันนิยมสามารถนำไปใช้พัฒนาสังคมและเสริม สร้างความรู้ความเข้าใจในสิทธิ เสรีภาพ และความยุติธรรมที่สังคมนี้พึงได้รับมากกว่า
การเสริมสร้างสถาบันนิยมของธรรมศาสตร์ที่ผูกติดกับอุดมการณ์ของอ.ปรีดี, คณะราษฎร, การต่อสู้ของขบวนการนักศึกษา, เสรีภาพ ฯลฯ ไม่ได้ทำให้พวกเขาตระหนักเลยหรือว่า ในขณะนี้สิ่งที่พวกเขากำลังยึดโยงอยู่ ไม่ได้มีความหมายอีกแล้ว ในประเทศที่สังคมไม่มีความเท่าเทียมกัน ซ้ำยังจับคนที่มีอุดมการณ์แบบขบวนการนักศึกษา,แบบ อ.ปรีดี, ผู้ที่มีความคิดเสรีนิยม หรือกระทั่งประชาชนผู้ไม่มีทางสู้ เข้าคุกเพียงเพราะพวกเขามีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับอุดมการณ์ของรัฐ พวกเขาไม่เคยดูข่าวเลยหรือ หรือเขาพยายามปิดกั้นตัวเองออกจากโลกภายนอกและนอนกอดภาพการต่อสู้ทาง อุดมการณ์ครั้งก่อนไว้อย่างเดียว
หรือแม้กระทั่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่มีคำขวัญอันยิ่งใหญ่อย่าง"เสาหลัก แห่งแผ่นดิน" และเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งหรือสองของประเทศ ก็มิได้ตระหนักถึงการจัดงานที่"ไม่พอเพียง" เช่นนี้ หรือไม่ตระหนักว่าเสาหลักนี้ได้ปล่อยให้ประชาชนร่วงลงมาจากแผ่นดินด้วยการ ดีดของมือที่มองไม่เห็นมากมายเพียงใด งานฟุตบอลประเพณีจึงป็นสิ่งที่สิ้นเปลืองงบประมาณและเวลาที่สามารถเปลี่ยน แปลงสังคมได้อย่างมากมายมหาศาล ทั้งยังส่งเสริมสถาบันนิยมที่นำไปสู่การใช้ระบบโซตัส การเชื่อฟังอย่างจำยอม นำไปสู่การใช้ระบบอำนาจนิยมที่เกิดขึ้นในสังคมไทยและการเพิกเฉยต่อปัญหา ในขณะที่พวกคุณกำลังสนุกสนานกับงานฟุตบอลประเพณี ยังมีคนอีกมากที่นั่งร้องไห้เพราะความอยุติธรรมในสังคมและความเดือดร้อน อย่างมาก
พวกเขาควรหวังกำลังหลักที่สำคัญเช่นนิสิตนักศึกษาอย่างพวกคุณไหม?
ขอส่งท้ายด้วยกลอนของสุจิตต์ วงษ์เทศ - กูเป็นนิสิตนักศึกษา สนพ.ประพันธ์สาส์น พิมพ์ครั้งที่สอง ตุลาคม 2529
กูเป็นนิสิตนักศึกษา
วาสนาสูงส่งสโมสร
ย่ำค่ำนี่จะย่ำไปงานบอลล์
เสพเสน่ห์เกสรสุมาลี
กูเป็นนิสิตนักศึกษา
พริ้งสง่างามผงาดเพียงราชสีห์
มันสมองของสยามธานี
ค่ำนี้กูจะนาบให้หนำใจ
กูเป็นนิสิตนักศึกษา
เจ้าขี้ข้ารู้จักกูหรือไหม
หัวเข็มขัด กลัดกระดุม ปุ่มเน็คไทร์
หลีกไปหลีกไปอย่ากีดทาง
กูเป็นนิสิตนักศึกษา
มหาวิทยาลัยอันกว้างขวาง
ศึกษาสรรพรสมิเว้นวาง
เมืองกว้างช้างหลายสบายดี
กูเป็นนิสิตนักศึกษา
เดินเหินดูสง่ามีราศี
ย่ำค่ำกูจะย่ำทั้งราตรี
กรุงศรีอยุธยามาราธอน
เฮ้ย กูเป็นนิสิตนักศึกษา
มีสติปัญญาเยี่ยมสิงขร
ให้พระอินทร์เอาพระขรรค์มาบั่นรอน
อเมริกามาสอนกูเชี่ยวชาญ
กูเป็นนิสิตนักศึกษา
หรูหราแหลมหลักอัครฐาน
พรุ่งนี้ก็ต้องไปร่วมงาน
สังสรรค์ในระดับปริญญา
ได้โปรดฟังกูเถิดสักนิด
กูเป็นนิสิตนักศึกษา
เงียบโว้ย-ฟังกู--ปรัชญา
กูอยู่มหาวิทยาลัย...
...กูอยู่มหาวิทยาลัย
รู้ไหม เห็นไหม ดีไหม
อีกไม่นานเราก็ต่างจะตายไป
กอบโกยใส่ตัวเองเสียก่อนเอย.