ที่มา เวบไซต์ hi-thaksin.weebly
22 กรกฎาคม 2552
แหล่งข่าวกรองกัมพูชา ได้รายงานสรุปเมื่อวันจันทร์ที่ 16 พ.ย. นี้ กล่าวว่า ภายหลังจากเสร็จภาระกิจที่กัมพูชา ท่านนายกฯ ทักษิณ ได้เดินทางกลับดูไบ เวลา 11.30 น. เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2552 โดยเครื่องบินส่วนตัว Jet Global Express ผ่านน่านฟ้ากัมพูชา-เวียดนาม อ้อม มาเลเซีย-อินโดนีเซีย และอินเดีย โดยไม่ยอมบินตรงผ่านน่านฟ้าไทย เหมือนตอนเดินทางมา เนื่องจากท่านนายกฯทักษิณ ต้องหลบการลอบสังหารจากฝูงบินเอฟ. 16 ที่กำลังเตรียมการอยู่ที่สนามบินอู่ตะเภา
รายงานข่าวกรองบรรยายต่อไปว่า แผนการลอบสังหารท่านนายกฯทักษิณ ระหว่างที่พำนักในกัมพูชาครั้งนี้ ทำถึง 3 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากการรักษาความปลอดภัยของรัฐบาลกัมพูชา เข้มแข็งและรัดกุมมาก เฉพาะการรักษาความปลอดภัยระยะประชิด ใช้ รปภ.ถึง 300 นาย โดยแผนการลอบสังหารทั้ง 3 ครั้ง มีดังนี้
1.) ให้คนถือเป้าเลเซอร์ ไปติดที่เครื่องบินส่วนตัวของท่านนายกฯทักษิณ ที่จอดอยู่ แต่ระบบการรักษาความปลอดภัยแน่นหนามาก จึงไม่มีใครเล็ดลอดเข้าไปได้ และผู้ร่วมวางแผน ก็ถูกถูกจับได้เสียก่อน หากสามารถติดเป้านำวิถีนี้ได้ ก็จะสามารถยิงขีปนาวุธจากจุดใดจุดหนึ่ง (ซึ่งคาดว่าจะเป็น โทมาฮ็อค) ในท้องทะเล ใส่เป้าหมายบนอากาศได้อย่างแม่ยำ..
2) ทีมนักแม่นปืน ได้ปะปนเข้ามากับนักท่องเที่ยวที่เซียมเรียบ ได้เตรียมจุดที่เหมาะสมบนนครวัดไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ทีมส่งกำลังบำรุง ไม่สามารถนำปืนสังหาร Sniper เล็ดลอดเข้ามาได้ เนื่องจากกองทัพกัมพูชา เตรียมพร้อมตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา แผนถล่มภาคพื้นดินจึงไม่สำเร็จ
3) ได้มีความเคลื่อนไหวปกติที่สนามบินอู่ตะเภา ได้มีการเตรียมพร้อมของฝูงบินเอฟ.16 หนึ่งฝูง จำนวน 5 ลำ หน่วยนี้ได้รับคำสั่ง ให้เตรียมพร้อมในวันที่ 14 พ.ย. 52 หากเครื่องบินของท่านนายกฯทักษิณ บินผ่านมา ให้บินขึ้นไปบังคับให้ลงที่สนามบิน บน.6 ดอนเมือง หากขัดขืน..ยิงถล่มทิ้งทันที
แต่เดชะบุญ.. แผนการณ์ทั้งหมดล่วงรู้ถึงท่านนายกฯทักษิณตลอด ขากลับจึงตัดสินใจบินอ้อมกลับทางเวียดนาม-มาเลเซีย-อินโดนีเซีย แทน ปล่อยให้พวกหมาลอบกัด ..อกแตกตาย ไปเอง...