ที่มา ประชาไท คนออนไลน์ใน facebook.com ร่วมลงชื่อในจดหมายคัดค้านการให้เงินสนับสนุน 100 ล้านบาท ภาพยนตร์เรื่อง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวร” ด้าน รมว.วัฒนธรรม นัดคุยกลุ่มผู้คัดค้าน หลังมีการส่งโทรสารจดหมายเข้าไปที่กระทรวงวัฒนธรรม จากการที่ นายมานิต ศรีวานิชภูมิ ช่างภาพและผู้กำกับภาพยนตร์อิสระที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ และนายอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ผู้กำกับภาพยนตร์ไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ได้ร่วมกันเขียนจดหมายเปิดผนึกล่ารายชื่อทางเว็บไซต์ facebook เพื่อทำการคัดค้านการที่กระทรวงวัฒนธรรม จัดสรรเงินตามโครงการส่งเสริมสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จำนวน 200 ล้านบาท ให้แก่ ภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรภาค 3 และ ภาค 4 ของ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นจำนวนถึง 100 ล้านบาท ล่าสุดมีการแจ้งข่าวในเว็บไซต์ facebook ว่า หลังจากได้มีการส่งโทรสารจดหมายดังกล่าวไปที่กระทรวงวัฒนธรรม ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้ขอนัดพบผู้ประท้วงเพื่อพูดคุยในวันอังคารที่ 4 พ.ค.53 เวลา 13.30 น. ห้องประชุม 1 ชั้น 19 ตึกธนาลงกรณ์ กระทรวงวัฒนธรรม โดยใน facebook ได้มีการเชิญชวนผู้ร่วมคัดค้านการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนดังกล่าวไปช่วยกันซักถามข้อสงสัยต่างๆ นอกจากนี้ ยังจะมีการส่งหนังสือคัดค้านในกรณีเดียวกันนี้ไปยัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติด้วย ทั้งนี้ เว็บไซต์รัฐบาลรายงานถึงการแถลงข่าวผลการจัดสรรงบประมาณโครงการส่งเสริมสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 โดยนายอภินันท์ โปษยานนท์ รองปลัด วธ.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการสนับสนุนกิจกรรมหรือโครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ กล่าวถึงเหตุผลในการจัดสรรงบประมาณจำนวน 100 ล้านบาท ให้กับภาพยนตร์เรื่องสมเด็จพระนเรศวรฯ ว่า เพราะเป็นภาพยนตร์ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้การสนับสนุนมาตั้งแต่เริ่มต้น อีกทั้งเนื้อหาภาพยนตร์ยังเป็นการส่งเสริมประวัติศาสตร์ชาติไทย และสอดคล้องกับเป้าหมายของกระทรวงวัฒนธรรมที่ต้องการส่งเสริมให้เกิดความรัก สามัคคีในชาติ อย่างไรก็ตามในวันที่ 5 เม.ย.นี้ ตนได้เรียกประชุมคณะทำงานและเจ้าของโครงการที่ได้รับการพิจารณาทั้งหมดมาชี้แจงและกำหนดเงื่อนไขการดำเนินการ ซึ่งจะต้องแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณนี้ เนื่องจากงบดังกล่าวเป็นงบเร่งด่วนที่รัฐบาลกู้มาใช้ ........................................................................... จดหมายเปิดผนึกดังกล่าวมีเนื้อหาดังต่อไปนี้ เรื่อง ขอคัดค้านการให้เงินสนับสนุนสูงถึง 100 ล้านบาท แก่ภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ตามที่สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ได้เปิดรับโครงการและกิจกรรมส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวิดีทัศน์ ที่ต้องการขอทุนสนับสนุน จากงบประมาณที่กระทรวงวัฒนธรรมได้รับการอนุมัติมาจากงบไทยเข้มแข็งเป็นจำนวนเงิน 200 ล้านบาท ปรากฏว่ามีผู้ส่งโครงการขอรับการสนับสนุนทั้งสิ้น 295 เรื่อง แต่มีเพียง 49 เรื่องโครงการเท่านั้น ที่ได้รับคัดเลือกให้มีการสนับสนุน โดยที่หนึ่งในนั้น คือ ภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรภาค 3 และ ภาค 4 ได้รับการสนับสนุนเป็นจำนวนสูงอย่างน่าผิดสังเกต คือ 100 ล้านบาท หรือ คิดเป็นครึ่งหนึ่งของทุนสนับสนุนทั้งหมด พวกข้าพเจ้าในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์อิสระ นักวิจารณ์ภาพยนตร์ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพภาพยนตร์และวิดีทัศน์ รวมถึงประชาชนผู้รักภาพยนตร์ (ตามที่มีชื่อปรากฏท้ายจดหมายฉบับนี้) ขอคัดค้านการอนุมัติการสนับสนุนโครงการดังกล่าวด้วยเหตุผลดังนี้ 1/ การอนุมัติทุนขาดซึ่ง “หลักธรรมาภิบาล” ขณะที่ประเทศไทยกำลังเกิดวิกฤติทางการเมือง และเศรษฐกิจ การให้เงินสนับสนุนแก่ภาพยนตร์เพียงเรื่องเดียวสูงถึง 100 ล้านบาท ย่อมไม่อาจรับฟังได้ว่าจะเป็นธรรมแก่ผู้ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนกว่า 246 เรื่อง ซึ่งขัดกับหลักธรรมาภิบาลที่รัฐบาลประกาศใช้ในการปกครองประเทศ อนึ่ง เป็นที่ทราบกันดีกว่าภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรนี้จะได้รับเงินสนับสนุนจากกระทรวงพาณิชย์เป็นจำนวนสูงถึง 330 ล้านบาท นั่นหมายความว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มิสมควรได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มจากกระทรวงวัฒนธรรมอย่างยิ่ง 2/ คณะกรรมการพิจารณาให้ทุนสนับสนุนนั้น ไม่มีความเป็นกลาง มีอคติ และขาดดุลพินิจที่เป็นธรรม โดยปรากฏชัดว่า มีบริษัทค่ายภาพยนตร์เอกชนแห่งหนึ่งผู้อยู่เบื้องหลังโครงการภาพยนตร์หลายเรื่องได้รับเงินสนับสนุนสูงเป็นพิเศษ ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมแก่ผู้สร้างภาพยนตร์อิสระรายอื่นๆที่ไม่ได้รับการสนับสนุน 3/ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ย่อมเป็นเหตุให้เชื่อได้ว่า โครงการสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์และวิดีทัศน์ของกระทรวงวัฒนธรรมย่อมไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อวงการภาพยนตร์ไทยแต่อย่างใด ทั้งยังเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนเฉพาะราย และจะซ้ำเติมเพิ่มข้อกังขาต่อการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลต่องบประมาณไทยเข้มแข็ง ดังนั้นพวกข้าพเจ้าจึงใคร่ขอให้ท่านรัฐมนตรีโปรดระงับการดำเนินการดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และขอให้มีการทบทวนขั้นตอน และวิธีการพิจารณากระบวนการให้ทุนสนับสนุนทั้งโครงการอีกครั้งหนึ่ง ว่ามีความเหมาะสม โปร่งใส และเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา (ลงชื่อ)
เรียน นาย ธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
นาย มานิต ศรีวานิชภูมิ
นาย อภิชาติพงษ์ วีระเศรษฐกุล