ที่มา ข่าวสด
แรงพอๆ กันทั้ง 2 ฝ่ายไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือกลุ่มเสื้อแดง
ฝ่ายรัฐเองก็แสดงท่าทีกระเหี้ยนกระหือรือจะใช้อำนาจจากปลายกระบอกปืน เพื่อจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุม
พร้อมยัดข้อหาอันแสนโบราณคือต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
รัฐบาลที่สนุกกับการใช้อำนาจ มักจะตั้งข้อหานี้กับฝ่ายตรงข้าม หรือต้องการปลุกปั่นให้มวลชนเกลียดชัง
เพราะสำหรับเมืองไทย และคนไทยแล้วเทิดทูนสถาบันกษัตริย์เหนือสิ่งอื่นใด
ยิ่งพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน ทุกคนบนแผ่นดินไทยเคารพรักเหนือเกล้าทั้งสิ้น เพราะพระองค์ทรงเสียสละมากมายเพื่อให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข
อย่าว่าแต่ลงมือกระทำเลย แค่คิด คนๆ นั้นก็ไม่มีที่ยืนบนแผ่นดินนี้แล้ว
และด้วยเหตุผลสำคัญนี้เอง จึงทำให้ผู้มีอำนาจหลายยุคหลายสมัย นำเรื่องนี้มาเป็นข้อหาให้กับบุคคลที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม
6 ตุลา 19 นั้นชัดเจน
นักศึกษาถูกยัดข้อหาไม่จงรักภักดีและต้องการให้เมืองไทยปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์
นำไปสู่การปราบปรามอย่างโหดร้าย
รัฐบาลชุดนี้มีหลายคนที่เคยอยู่ในสถานการณ์นั้น ย่อมรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร
แต่ไม่น่าเชื่อว่ายังนำข้อหานี้มาเล่นงานผู้อื่นได้
ขณะเดียวกันทหารบางกลุ่ม หรือบางพวกก็เริ่มสนุกกับการ "รบในเมือง"
สนุกกับการรบกับคนที่ด้อยกว่าทั้งทักษะ และอาวุธ
เราจึงเห็นทหารพกอาวุธสงคราม ขี่มอเตอร์ไซค์อย่างมั่นใจไปทั่วเมืองหลวง
ซึ่งภาพเหล่านี้จะหาดูไม่ได้หากอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
เพราะ 3 จังหวัดชายแดนใต้มีกองกำลังที่มีทักษะ และอาวุธที่สามารถต่อกรได้เท่าเทียมกัน
ขณะเดียวกันกลุ่มเสื้อแดง ก็ไม่ได้สำเหนียกว่าสิ่งที่ทำอยู่และดูเหมือนจะมากขึ้น ยิ่งทำให้เสียงสนับสนุนหรือเห็นอกเห็นใจน้อยลงไปเรื่อยๆ
โดยเฉพาะการปิดถนนเพื่อป้องกันตำรวจ-ทหารจากต่างจังหวัดเข้ามาในกรุงเทพฯ ทั้งๆ ที่รู้ว่าแทบไม่มีประโยชน์อันใด แต่ก็ทำ
และคนที่เดือดร้อนคือประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา ต้องถูกตรวจค้นหรือเจอท่าทีคุกคาม
ลำพังเท่าที่ผ่านมาก็สร้างความเดือดร้อนและเอือมระอาให้คนกรุงเทพฯ ในระดับหนึ่งแล้ว
แกนนำจึงต้องระมัดระวังในการเคลื่อนไหว เพราะการเอาชนะอำนาจรัฐทำไม่ได้หากมวลชนไม่ยืนอยู่เคียงข้าง
ทั้งรัฐบาล และม็อบจะทำอะไรก็ให้มันอยู่ในกรอบพอเหมาะ พอควรแก่เหตุ
น้อยไปก็อาจจะไม่ได้ผล แต่ถ้ามากเกินไปจนเข้าขั้นโอเวอร์แอ๊กชั่น
มันจะเป็นผลร้ายย้อนกลับมาเล่นงานตัวเองในอนาคต
เพื่อไทย
Friday, April 30, 2010
อย่ามากไป
คอลัมน์ เหล็กใน